Key Takeaway

  • สิวอุดตันเกิดจาก  การสะสมของน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า และสิ่งสกปรกชนิดต่าง ๆ อาทิ แบคทีเรีย ฝุ่น ควัน ทำให้ง่ายต่ออุดตันของรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวอุดตันขึ้นมา
  • ลักษณะของสิวอุดตัน เป็นตุ่มนูน แข็ง เม็ดสิวมีลักษณะเป็นสิวมีไต อาจพบได้ในหลายลักษณะ ทั้งชนิดสิวอุดตันหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด และชนิดสิวอุดตันหัวขาว
  • วิธีรักษาสิวอุดตัน  ใช้ยารักษาสิวอุดตัน กลุ่ม Benzoyl peroxide, Salicylic acid ร่วมด้วยการกดสิวและการเลเซอร์สิว เป็นต้น
     


ผิวหน้าเรียนเนียนใส ไร้สิวคงเป็นผิวในฝันของใครหลาย ๆ คน แต่ในความเป็นจริงนั้นด้วยปัจจัยหลายสาเหตุ รวมถึงสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทำให้ใครหลาย ๆ คนยังต้องเผชิญกับปัญหาสิวไม่รู้จบ โดยเฉพาะปัญหา “สิวอุดตัน”

“สิวอุดตัน” สิวตุ่มนูนที่เป็นปัญหากวนใจใครหลาย ๆ คน และยังไม่พอ เพราะสิวอุดตันหากปล่อยทิ้งไว้นาน เป็นสิวอุดตันซ้ำซากอาจจะส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นอักเสบ นำมาซึ่งปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ดังนั้นเพื่อกำจัดปัญหากวนใจเหล่านี้ตั้งแต่ต้น Bioderma จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสิวอุดตัน และวิธีรักษาสิวอุดตัน ให้เรื่องสิวอุดตันกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สิว ๆ ในชีวิตคุณ

 

สารบัญบทความ

สิวอุดตัน คืออะไร 

สิวอุดตัน (Comedones) คือ หนึ่งในประเภทสิวชนิดหนึ่งที่พบได้มากตามผิวหน้าของคนทั่วไป ด้วยสาเหตุของสิวอุดตันนั้นเกิดได้ง่าย เพียงแค่การหมักหมมของสิ่งสกปรก หรือความอับชื้นของเหงื่อที่ระบายออกมาตามรูขุมขนก็นำมาซึ่งปัญหาหน้าเป็นสิวอุดตันได้แล้ว

เนื่องด้วยสิวอุดตันเกิดจากการสะสมรวมตัวของน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ผสมรวมกับสิ่งสกปรกชนิดต่าง ๆ ทั้งแบคทีเรีย ฝุ่น ควัน ทำให้ง่ายต่อการเกิดรูขุมขนอุดตัน เป็นตุ่มนูนเป็นสิวขึ้นมา ด้วยสาเหตุการเกิดสิวอุดตันนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย ทำให้พบสิวอุดตันได้หลายรูปแบบทั้งชนิดหัวปิด และหัวเปิด ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ซ้ำยังพบได้ทั่วทุกบริเวณตามใบหน้า เช่น สิวอุดตันที่แก้ม สิวอุดตันที่คาง สิวอุดตันที่หน้าผาก สิวอุดตันที่จมูก สิวอุดตันที่แผ่นหลัง

ไม่เพียงแค่ตำแหน่งที่เกิดสิวอุดตันเท่านั้นที่น่ากังวลใจ แต่ที่น่ากังวลใจมากกว่าคือสิวอุดตันหากทิ้งเอาไว้จนเป็นสิวอุดตันเรื้อรัง สิวอุดตันอาจจะอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบ แล้วทิ้งรอยสิวเอาไว้อีกด้วย ไม่ใช่เท่านั้นสิวอุดตันยังสามารถเกิดขึ้นร่วมกับสิวชนิดอื่น ๆ อย่าง สิวเสี้ยน สิวผดได้อีกด้วย

ทำความรู้จักกับสิวชนิดอื่น ๆ ได้ที่ : สิวผด

สิวอุดตันเป็นสิวที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน เพราะมีลักษณะเป็นตุ่มนูน แข็ง เม็ดสิวมีลักษณะเป็นสิวมีไต อาจพบได้ในหลายลักษณะ ทั้งชนิดสิวอุดตันหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด และชนิดสิวอุดตันหัวขาว หรือสิวอุดตันหัวปิด

ทำให้ผู้ที่เผชิญกับปัญหาสิวอุดตันอยู่นั้น จะสังเกตและสัมผัสได้ว่าผิวหน้าไม่เรียบเนียน ทำให้อาจจะลดความมั่นใจของผู้เป็นสิวลงไปได้ เพราะสิวอุดตันทำให้ผิวหน้าดูมีอาการบวมแดง ผิวขรุขระจากทั้งสิว และรอยสิว หลุมสิวที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ และยังทำให้ง่ายต่อการเกิดการระคายเคืองผิวจนต้องแคะ แกะ เกา ทำให้เสียบุคลิก

รักษาสิวอุดตัน

สิวอุดตันเกิดจากสาเหตุใด

สิวอุดตันส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีสิ่งสกปรกหมักหมมรวมกับน้ำมันส่วนเกินบนผิว (Sebum) เข้าไปอุดตันตามรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันใต้ผิวหนัง กลายเป็นตุ่มนูนที่เรียกกันว่าสิวอุดตันขึ้นมาได้ ซึ่งสกปรกเหล่านี้อาจจะเป็นไปได้ตั้งแต่ฝุ่น ควัน มลพิษ แบคทีเรีย ความอับชื้นจากเหงื่อ รวมไปถึงเซลล์ผิวเก่าที่หลุดลอกไปแล้วของเราเองด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้นมาได้ด้วย ได้แก่

  • ผู้ที่มีสภาพผิวมัน
  • ผู้ที่มีผิวขาดน้ำ ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันบนผิวออกมาทดแทนมาก
  • ผู้ที่มีฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมากเกินไป กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามาก เช่น เพศชาย เด็กวัยรุ่น
  • แพ้สารเคมีชนิดต่าง ๆ
  • เสียดสีที่ผิวซ้ำ ๆ อย่างรุนแรง จนเกิดอาการระคายเคือง
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ง่ายต่อการอุดตัน
  • ผู้ที่สูบบุหรี่
  • ความเครียดสะสม กระตุ้นให้เกิดฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) กระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
  • พันธุกรรม
  • การรับประทานอาหารประเภทไขมัน หรือมีน้ำตาลมากเกินไป

หลังจากที่ทราบลักษณะของสิวอุดตันกันไปแล้วเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าสิวอุดตันมีหลากหลายลักษณะ ซึ่งจะจำแนกแบ่งประเภทคร่าว ๆ ได้ เป็น 3 ประเภท ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าจะรับมือกับสิวอุดตันแต่ละชนิดได้อย่างไร

สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวอุดตันหัวดํา (open comedones or blackhead comedones) หรือในชื่อสั้น ๆ ที่คุ้นหูของคนส่วนมากก็คือ สิวเสี้ยน

ตัวเม็ดสิวจะมีลักษณะเป็นจุดสีดำ ที่เป็นสีของหัวสิวไขมันที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขน ผสมรวมกับขนเส้นเล็ก ๆ หรือเซลล์ผิวเก่าที่หลุดลอกบนผิว สัมผัสเข้ากับอากาศ หัวสิวจึงเกิดการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน (Oxygen) เนื่องด้วยรูขุมขนที่เปิด ทำให้ก้อนไขมันหัวสิวนั้นกลายเป็นสีดำ มักพบได้มากบริเวณจมูก หรือโหนกแก้ม

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิวบริเวณจมูก : สิวอุดตันที่จมูก

สิวหัวดําเกิดจาก

สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวอุดตันหัวขาว (closed comedones or whitehead comedones) สิวที่เกิดจากสาเหตุของการอุดตันในรูขุมขน รวมกับไขมันส่วนเกินต่าง ๆ ทำให้เกินเป็นตุ่มสิวนูนขึ้น แต่ด้วยการอุดตันของสิวชนิดนี้เป็นการอุดตันแบบปิด ทำให้ก้อนไขมันหัวสิวไม่ได้สัมผัสกับอากาศภายนอก จึงเป็นก้อนไขมันหัวสิวสีขาวบนผิวหนังแทน

สิวอุดตันที่แก้ม

สิวอุดตันไม่มีหัว (Blind Pimples or Cystic Acne) มีลักษณะเป็นสิวตุ่มนูน สีแดง ๆ ไม่มีหัวสิว พบได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดปานกลาง แต่ด้วยสิวชนิดนี้ไม่มีหัวสิว ทำให้อาจจะมองเห็นด้วยตาเปล่าไม่ชัด แต่เมื่อสัมผัสผิว จะรู้ได้เลยว่าใบหน้าไม่เรียบเนียน และสิวชนิดนี้ไม่แนะนำให้บีบสิว หรือกดสิวอุดตันไม่มีหัวออกมา เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบมากยิ่งขึ้น

สิวอุดตันหัวขาว

นอกจากชนิดของสิวอุดตันที่แบ่งตามลักษณะของสิวอุดตันแล้ว ขนาดของสิวอุดตันก็เข้ามามีบทบาทในการแบ่งประเภทของสิวอุดตันเช่นกัน เพราะขนาดของสิวนั้นสามารถชี้ถึงระดับความรุนแรงของสิว ที่มีผลยากต่อการรักษาสิวได้

สิวอุดตันขนาดเล็ก เป็นสิวที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จำเป็นต้องส่องกล้องเพื่อตรวจผิว และตรวจสิวอุดตันชนิดนี้ ซึ่งมักพบสิวอุดตันชนิดนี้ในรูปแบบของสิวเสี้ยนได้นั่นเอง เนื่องจากสิวมีขนาดเล็กทำให้การรักษาสิวชนิดใช้ระยะเวลาน้อยกว่าสิวชนิดอื่น ๆ

สิวอุดตันขนาดกลาง มีขนาดใหญ่กว่าสิวขนาดเล็กขึ้นมา ทำให้สามารถมองเห็นสิวชนิดนี้ด้วยตาเปล่าได้ อย่างที่ทราบกันดี เมื่อสิวมีขนาดใหญ่ขึ้น จะสร้างความระคายเคืองมากขึ้นกับผู้เป็นสิว ทำให้อาจจะมีแนวโน้มไป แคะ แกะ เกา จนเกิดการอักเสบของสิวได้

สิวอุดตันขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นก้อนซีสต์ขนาดเล็ก โดยสิวอุดตันขนาดใหญ่นั้น ยิ่งเพิ่มความระคายเคืองให้กับผู้เป็นสิวมากยิ่งขึ้น ทำให้หลาย ๆ คนพยายามบีบสิว จนนำไปสู่การอักเสบ กลายเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าสิวหัวช้างนั่นเอง

อย่างที่ทราบกันดีว่าผิวหน้าเป็นบริเวณที่ผิวมีความบอบบางง่ายที่สุด ทำให้ง่ายต่อการระคายเคืองจนเกิดผิวเป็นสิวขึ้นได้ แต่ด้วยทั่วร่างกายของเรานั้นมีรูขมขน จึงสามารถเกิดการอุดตันได้ทุกบริเวณ ดังนั้นไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละตำแหน่งสิวมีบริเวณใดบ้าง ที่เราจำเป็นต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดสิวอุดตันขึ้น

เริ่มต้นกันด้วยหนึ่งบริเวณยอดฮิตที่มักจะเกิดสิวอุดตันขึ้นได้ เพราะแก้มเป็นส่วนที่คนเรามักจะเอาฝ่ามือมาสัมผัสกับใบหน้า ทั้งจากอิริยาบถเท้าคาง หรือการแคะ แกะ เกา ทำให้เชื้อโรค สิ่งสกปรกจากฝามือเข้าไปตกค้าง อุดตันบนผิวแก้มกลายเป็นสิวอุดตันที่แก้มได้

สิวอุดตันหัวปิด

คราบเหงื่อ และความมันจากเส้นผมมักจะไหลลงมาสู่ผิวหนังบริเวณหน้าผาก ทำให้ง่ายต่อการเกิดการอุดตันของรูขุมขนขึ้นเป็นสิวอุดตันที่หน้าผาก เท่านั้นยังไม่พอการใช้งานผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมบางประเภทก็อาจจะส่งผลให้เกิดการระคายเคือง และอาการแพ้ต่อผิวหนังได้

สิวอุดตันหัวปิด

สิวอุดตันที่คางมักจะเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังบริเวณนี้กระตุ้นการสร้างน้ำมันส่วนเกินขึ้นมา นำไปสู่การหมักหมมของสิ่งสกปรก และน้ำมันส่วนเกินจากผิวบริเวณนี้นั่นเอง

สิวอุดตันหัวปิด

มักจะเกิดจากปัจจัยเรื่องความเครียด ร่างกายเลยเกิดการกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินมากยิ่งขึ้น และบริเวณจมูกเองก็เป็นหนึ่งในบริเวณ T-Zone ที่ใต้ผิวมีต่อมไขมันอยู่มาก ทำให้มีแนวโน้มเกิดสิวอุดตันได้ง่าย

สิวอุดตันหัวปิด

ปัจจัยการเกิดสิวอุดตันที่หลังนั้น เนื่องจากหลังเป็นส่วนที่อยู่ใต้ร่มผ้า จึงง่ายต่อการสะสมของคราบเหงื่อ และแบคทีเรียจากความอับชื้นที่เกิดขึ้นบริเวณนี้ จึงเข้าไปอุดตันอยู่ตามรูขุมขน  พร้อมการเสียดสีจากผิวหนังและเสื้อผ้าที่สวมใส่ ยิ่งเพิ่มความระคายเคืองมากยิ่งขึ้น

สิวอุดตันหัวปิด

สิวอุดตันหายเองได้ไหม? เป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนคงสงสัย คำตอบก็คือ ถ้าหากยังเป็นสิวอุดตันความรุนแรงระดับเบื้องต้น คือมีปริมาณสิวที่จำนวนไม่มาก หรือมีขนาดเล็ก ก็ยังพอที่จะทำการรักษาสิวอุดตันด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าหากสภาวะสิวอุดตันอยู่ในขั้นรุนแรงอาจจะต้องรับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย

สิวอุดตันไม่มีหัว

1. รักษาสิวอุดตันด้วยการใช้ยา 

เมื่อประสบปัญหาสิวอุดตัน วิธีการรักษาเบื้องต้นที่สุดคือการใช้ยารักษาสิวชนิดทาในการรักษา แต่ด้วยองค์ประกอบด้านสภาพผิวของแต่ละบุคคล ความรุนแรงของระดับสิวอุดตัน และฤทธิ์ของตัวยา เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และช่วยดันหัวสิวอุดตันออกมา แนะนำว่าควรเข้ารับคำปรึกษาจากเภสัชกร และแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน

ส่วนผสมที่มีฤทธิ์ในการรักษาสิวอุดตัน ได้แก่

  • เบนซิลเพอรอกไซด์ (Benzoyl peroxide) มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรียในการเกิดสิว (P.Acnes) และช่วยลดความมันบนใบหน้าสาเหตุของการอุดตัน
  • กรดอะซีลาอิค (Azelaic acid) กรดธรรมชาติที่นำมาใช้รักษาสิวมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง ช่วยกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวอุดตัน
  • กรดซาลิไซลิค (Salicylic acid) เป็นกรดจากธรรมชาติอีกหนึ่งตัว ที่จะช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน และผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไม่ตกค้างในรูขุมขนให้อุดตัน
  • กรดไกลโคลิค (Glycolic acid) กรดผลไม้มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออกไป ไม่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน
  • กลุ่มเรตินอล (Retinoids) เช่น Tretinoin Isotretinoin Adapalene คือกลุ่มอนุพันธ์วิตามิน เอ (Vitamin A) ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป ไม่ตกค้างในรูขุมขน

 

2. รักษาสิวอุดตันด้วยการกดสิว 

การกดสิวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาสิวอุดตันได้ เพราะเป็นการนำหัวสิวอุดตันออก ตัวเม็ดสิวจึงเกิดยุบตัวลง แต่การกดสิวที่ผิดวิธี หรือกดหัวสิวออกมาไม่หมด ก็อาจจะทิ้งรอยสิวเอาไว้ หรือทำให้สิวเกิดอักเสบขึ้นมาแทนได้ ทำให้อาจจะต้องรักษาสิวอักเสบที่มีขั้นตอนการรักษา และใช้เวลาในการรักษายาวนานขึ้นแทน ดังนั้นหากอยากรักษาสิวด้วยการกดสิว แนะนำว่าควรให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลในขั้นตอนนี้

 

3. การเลเซอร์รักษาสิวอุดตัน 

การเลเซอร์รักษาสิวอุดตันเป็นอีกหนึ่งทางออกในการรักษาสิวอุดตันที่เห็นผลลัพธ์ได้ดี และตรงจุดที่สุด เพราะตัวเลเซอร์เมื่อยิงลงไปที่สิวอุดตัน จะช่วยเปิดหัวสิว เพื่อให้ง่ายต่อการกดหัวสิวออกในขั้นตอนต่อมา แม้การเลเซอร์สิวอุดตันจะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่การเลเซอร์สิวโดยผู้ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจจะทำให้ผิวไหม้ และผิวบางขึ้น ระคายเคืองง่ายต่อสารเคมี และแสงแดด จนนำมาซึ่งปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำขึ้นมาได้

เนื่องจากการรักษาสิวอุดตันนั้นต้องใช้เวลาสักระยะในการรักษาจนกว่าสิวจะยุบตัว ดังนั้นระหว่างที่ผิวยังเป็นสิวอุดตันอยู่นั้น ผิวจะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างบอบบาง และระคายเคืองง่าย จึงมีขั้นตอนการดูแลผิวที่แตกต่างกันไปจากในช่วงที่ผิวมีสภาพปกติ

  • ควรใส่ใจที่ความสะอาดของผิวให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันเพิ่ม
  • ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยน
  • ลดการสัมผัสใบหน้าหากไม่จำเป็น และในขณะล้างหน้า หรือทาครีม ไม่ควรขัดถูใบหน้าแรงๆ 
  • ก่อนทายาแต้มสิว ควรล้างมือให้สะอาดก่อน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันที่ทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น
  • ห้ามเข้านอนโดยไม่ล้างเครื่องสำอางเป็นอันขาด และจำเป็นต้องล้างหน้าแบบสองขั้นตอน (Double Cleansing) ด้วยคลีนซิ่ง และเจลล้างหน้า
  • พยายามลดความเครียด
  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง
  • ไม่ปล่อยผิวให้อยู่กับคราบเหงื่อ ฝุ่น ควัน สิ่งสกปรกไว้นาน ให้รีบล้างหน้าทันที
สิวอุดตันเกิดจาก

หัวใจหลักในการป้องกันสิวอุดตันให้ห่างไกลผิวของเราให้อยู่หมัดนั้น 2 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ คือ ความสะอาด และความอ่อนโยน เพราะหากเรารักษาความสะอาดของผิวอยู่เสมอจะช่วยลดการหมักหมมของสิ่งสกปรกลงไปได้ เท่านั้นยังไม่พอการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน และไม่สัมผัสใบหน้าแรง ๆ ก็ช่วยลดความระคายเคียงต่อผิวลงไปได้

  • ควรล้างหน้าแบบสองขั้นตอน (Double Cleansing) ด้วยคลีนซิ่ง และเจลล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวบอบบางแพ้ง่าย
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่อ่อนโยน ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้า
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน
  • ไม่สัมผัสใบหน้าแรง ๆ
  • ทาครีมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ ให้รูขุมขนหดตัวลง ลดโอกาสสิ่งสกปรกเข้าสู่รูขุมขน
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น นอนหลับให้เพียงพอ ทำกิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด
  • ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล และไขมันสูง
  • ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายขับไขมันที่จะอุดตันออก
  • เลี่ยงการสูบบุหรี่
บีบสิวอุดตัน

แน่นอนว่าการนำหัวสิวอุดตันออกมาได้หมด จะทำให้สิวอุดตันยุบตัวได้เร็วขึ้น แต่ก็ขึ้นกับว่าเราบีบสิวออกมาอย่างถูกวิธี และสะอาดหรือไม่? บีบสิวในช่วงที่เป็นสิวหัวเปิด หรือหัวสิวสุกแล้วหรือไม่? และบีบหัวสิวออกมาได้หมดหรือไม่? เพราะไม่อย่างนั้นบริเวณสิวที่บีบจะเกิดการอุดตันซ้ำ หรืออักเสบขึ้นมาได้

สิวอุดตันมีโอกาสที่จะหายเองได้ ในกรณีที่หัวสิวสามารถหลุดออกไปเองได้ แต่การทิ้งสิวอุดตันไว้เป็นระยะเวลานาน ก็เสี่ยงที่จะทำให้ผิวอักเสบการเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้

การที่ร่างกายรักษาปัญหาสิวด้วยตัวเองก็เปรียบเหมือนการที่ร่างกายรักษาแผลบนผิวหนังเช่นกัน จึงมีโอกาสที่สิวอุดตันจะหายเองได้ แต่พบได้น้อย เพราะสิวอุดตันจะหายเองได้มักพบแค่ในผู้ที่มีผิวแข็งแรง ผิวที่สุขภาพดีจะเร่งให้ผิวเป็นสิวหายได้เร็วขึ้น

ขึ้นอยู่กับปริมาณสิวอุดตัน และระดับความรุนแรงของสิวอุดตัน โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลาในการหายประมาณ 1 สัปดาห์ หรือนานไปจนถึงระยะเวลา 1 เดือนก็ได้เช่นกัน

ในช่วงที่ผิวเป็นสิวก็สามารถแต่งหน้าได้ แต่ในทางที่ดีหากไม่จำเป็น ก็เลี่ยงการแต่งหน้าจะดีกว่า เพราะถ้าหากแต่งหน้าไปแล้วแต่ทำความสะอาดผิวได้ไม่สะอาดหมดจด ก็สามารถทำให้เกิดการอุดตันเพิ่มขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากมั่นใจว่าทำความสะอาดผิวได้สะอาดเพียงพอด้วยคลีนซิ่ง และคลีนเซอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลในจุดนี้

ข้อสรุปของสิวอุดตัน 

จะเห็นได้ว่าปัญหาสิวอุดตัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ควรมองข้าม เพราะสิวอุดตันสามารถนำมาซึ่งปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ ฉะนั้นอย่ารอช้าที่จะดูแลผิวของคุณอยู่เสมอ เพื่อลดแนวโน้มการเกิดปัญหาสิวอุดตันนั่นเอง แต่ถ้าใครกำลังเผชิญกับปัญหาสิวอุดตันอยู่ก็ไม่ต้องกังวลไป 

เพราะวันนี้ Bioderma พร้อมแชร์เทคนิครักษาสิวอุดตัน พร้อมวิธีดูแลตัวเองขณะเป็นสิวอุดตันให้คุณอย่างเต็มพิกัดแล้ว เพียงแค่ปฏิบัติตามเท่านั้น ก็พร้อมจะเรียกผิวใส ไร้สิวของคุณคืนกลับมา