วิธีการดูแลผิว
12 วิธีรักษาสิวผด เพื่อผิวหน้าใส บอกลาปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน
ตอบคำถามที่หลายๆคนสงสัย ว่า สิวผดคืออะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร สิวผดเกิดจากอะไร ส่วนมากสิวผดเกิดในบริเวณไหนบ้าง มีวิธีรักษาสิวผดอย่างไรได้บ้าง
วิธีการดูแลผิว
ตอบคำถามที่หลายๆคนสงสัย ว่า สิวผดคืออะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร สิวผดเกิดจากอะไร ส่วนมากสิวผดเกิดในบริเวณไหนบ้าง มีวิธีรักษาสิวผดอย่างไรได้บ้าง
สิวเป็นปัญหาผิวที่มักก่อให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นใจจากตุ่มนูนหรือรอยแดงบนใบหน้า แต่ว่าอีกหนึ่งประเภทของสิวที่อาจจะไม่ได้มีลักษณะที่เด่นชัดมากนักแต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ก็คือ สิวผด นั่นเอง ความรำคาญใจที่เป็นปัญหาที่คนสิวผดค่อยแฮปปี้เลยคงหนีไม่พ้นเวลาอากาศร้อน เหงื่อออก สิวผดที่หลบอยู่ก็แสดงตัวออกมาแบบเด่นชัดมากกว่าเดิมจากที่ตอนแรกไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าได้
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาจึงยิ่งเป็นย้ำได้ชัดมากขึ้นว่าทำไมการที่สิวผดขึ้นหน้า เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เป็นรู้สึกรำคาญ โดยเฉพาะการไม่สามารถรักษาสิวผดได้ด้วยการบีบเอาหัวสิวออกมาได้ และหากถ้าพยายามบีบ แกะ เกา อาจจะระคายเคืองจนกลายเป็นสิวอักเสบได้ แต่ทราบหรือไม่ว่าสิวผดเกิดจากสาเหตุต่างๆ มากมายทั้งอากาศ แสงแดด การใช้สกินแคร์เครื่องสำอาง และอื่นๆ ที่เหตุผลบางข้อคนเป็นสิวผดก็อาจคาดไม่ถึง วันนี้ Bioderma ขอพาทุกท่านมารู้จักกับสิวผด พร้อมวิธีรับมือและจัดการสิวผดให้สิ้นซากกันในบทความนี้!
สารบัญบทความ
โดยปกติแล้วใบหน้าที่เป็นสิวผดจะเห็นสิวได้ไม่ชัดเท่าผิวเป็นสิวชนิดอื่นๆ พอพูดแบบนี้แล้วหลายคนก็สงสัยว่า สิวผดคืออะไร?
สิวผด (Acne Aestivalis, Acne Mallorca) เป็นสิวที่จะมีลักษณะคล้ายผดผื่นหรือตุ่มเล็กๆ อยู่ใต้ผิวหนัง โดยจะรู้สึกได้เมื่อสัมผัสผิวบริเวณดังกล่าว สิวผดแตกต่างจากสิวประเภทอื่นๆ ที่ไม่ค่อยเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีหัวสิว อาจมีอาการคันร่วมด้วย และสิวผดสามารถแดง ลุกลามหรือสิวเห่อได้ เมื่อมีสภาพแวดล้อมกระตุ้นอย่างอากาศ แสงแดด
โดยปกติแล้วสิวผดจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ซึ่งสิวผดเกิดขึ้นได้ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีผิวที่อ่อนแอ ผิวแพ้ง่าย พร้อมทั้งมีลักษณะอาการรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป ในบางรายมีอาการสิวผดรุนแรงเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงปานกลาง สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่ในบางคนที่มีอาการสิวผดที่รุนแรงมาก มีอาการรูขุมขนอักเสบร่วมด้วย ซึ่งหากอยู่ในความรุนแรงนี้จะไม่สามารถรักษาด้วยตัวเองเช่นเดียวกับความรุนแรงอื่นๆ อาจมีความจำเป็นจะต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป
จึงทำให้การรู้วิธีรักษาสิวผดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อผิวที่เรียบเนียน และรักษาสิวผดได้อย่างถูกวิธี ป้องกันการลุกลามไปยังผิวบริเวณอื่นได้
หลังจากที่ทุกคนได้ทราบว่าสิวผดคืออะไร มีลักษณะอาการความรุนแรงอย่างไรบ้างไปแล้วนั้น มาดูกันดีกว่าว่าแท้จริงแล้วสิวผดเกิดจากสาเหตุใด ดังนี้
สาเหตุแรกของการเกิดสิวผดที่หลายๆ คนมักเผชิญ คือ แสงแดดและความร้อน แดดและความร้อนจากแสงอาทิตย์รวมถึงหลอดไฟและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆมีรังสี UVA และการที่ผิวได้รับรังสีดังกล่าวเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการปกป้องผิวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเพราะรังสียูวีเอสามารถทำร้ายผิวลงไปถึงชั้นในได้ และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายอาจก่อให้เกิดสิวผด และผู้ที่มีสิวผดอยู่แล้วอาจทำให้ขึ้นเยอะกว่าเดิมหรือลุกลามได้
เครื่องสำอางรวมถึงครีมกันแดดบางตัวที่ไม่ได้รับมาตรฐานอาจมีสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าและทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้ ในผิวที่มีสิวผดอาจระคายเคืองมากเป็นพิเศษและทำให้สิวเกิดอาการคัน แดง เห่อ เกิดสิวมากกว่าเดิม จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งคลีนซิ่ง โทนเนอร์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลบำรุงผิวอย่างเซรั่มที่แก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด และครีมบํารุงผิวหน้าที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ที่ได้รับมาตรฐานชัดเจน และมีส่วนผสมที่เหมาะกับผิว สภาพอากาศร้อนจัดอาจก่อให้เกิดความอบอ้าวและร้อนชื้น เกิดการอุดตันของเหงื่อและไขมันส่วนเกินบนผิวได้ง่ายซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอุดตันและสิวผดได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศที่ร้อนชื้นเป็นปกติ ยิ่งง่ายต่อการเกิดสิวหลายประเภททั้งสิวหัวช้างที่มีความอักเสบและขนาดใหญ่ สิวไม่มีหัว หรือแม้กระทั่งสิวเสี้ยน เพราะแบคทีเรีย สิ่งสกปรกจากคราบเหงื่อมาอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย+มลภาวะ ฝุ่น PM2.5 อาจก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก อาจทำให้ผิวมีความระคายเคืองและก่อให้เกิดหน้าเป็นสิวผดได้ง่าย
รูขุมขนอักเสบชนิดดังกล่าวมักก่อให้เกิดเชื้อราประเภทยีสต์ในกลุ่ม Malassezia species ทำให้เกิดสิวยีสต์ขึ้นได้ด้วย พบได้มากในวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นเพศชาย เชื้อราประเภทดังกล่าวเกิดจากผิวที่เหงื่อออกง่ายและมีความมันส่วนเกิน บวกกับสภาพแวดล้อมที่มีความร้อน อับชื้น หากเป็นผู้ที่ออกกำลังกายบ่อยก็อาจมีแนวโน้มเกิดเชื้อราประเภทดังกล่าวได้ง่ายกว่า รวมถึงผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้ารัดแน่นเพราะทำให้ผิวเกิดการเสียดสีบ่อย
เชื้อราชนิด P.Ovale เป็นเชื้อรายีสต์ประเภทหนึ่งมักพบได้จากสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะมากและมีความร้อนชื้น เมื่อผิวมีการผลิตไขมันบนผิวมากขึ้นซึ่งเป็นอาหารที่เลี้ยงยีสต์ประเภทข้างต้น ทำให้เชื้อราเกิดการแบ่งตัวได้รวดเร็วขึ้น เกิดเป็นสิวผดมากขึ้น
แม้จะเป็นสาเหตุที่หลายคนไม่ให้ความสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของบางคนอาจทำให้จำเป็นต้องพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ทราบหรือไม่การพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน เพราะจะทำให้ผิวเกิดความเสี่ยงที่จะอุดตันได้ง่ายยิ่งขึ้นจากการทำงานที่ผิดปกติของต่อมเหงื่อ ต่อมไขมันในร่างกาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาพักผ่อนน้อยจึงเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
แม้ทุกคนจะทราบกันอยู่แล้วว่าผดขึ้นหน้านั้นเป็นบริเวณยอดฮิต แต่นอกจากหน้าเป็นสิวผดแล้ว ผิวหนังบริเวณอื่นก็สามารถเป็นสิวผดได้เช่นกัน ดังนั้นเรามาดูกันว่าสิวผดมักปรากฏในบริเวณใดได้บ้าง
สิวผดเป็นสิวที่แตกต่างจากสิวอื่นทั่ว ๆ ไปโดยเฉพาะสิวอุดตันที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิวประเภทเดียวกับสิวผด แต่แท้จริงแล้วสิวผดนั้นเป็นตุ่มใส ๆ ที่มักจะเกิดจากการที่ผิวถูกกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ แต่สิวอุดตันเป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนผิวหนัง
วิธีรักษาสิวผดมีหลากหลายวิธีตั้งแต่วิธีเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จนถึงวิธีที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นวิธีแก้สิวผด แต่วิธีรักษาสิวผดแบบธรรมชาติอาจมุ่งเน้นไปที่วิธีการป้องกันมากกว่า เนื่องจากสิวผดอาจมีสาเหตุการเกิดที่ต่างกับสิวชนิดอื่น
แม้ครีมหรือยาที่มีส่วนผสมช่วยรักษาสิวผดสิวอุดตันแรง ๆ จะเป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน แต่หากเป็นไปได้เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองมากขึ้น โดยเฉพาะยาแต้มสิวบางชนิด เพราะยาแต้มสิวส่วนมากจะมีส่วนผสมที่ระคายผิว ทำให้ผิวแห้ง และมีความรุนแรงต่อสภาพผิวของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ดังนั้นควรหาข้อมูลก่อนใช้หรือว่าปรึกษาเภสัชกรถึงผลข้างเคียงของการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์อย่างอื่นด้วย
สงสัยไหมว่าตัวเอง หน้าแพ้ครีม กดอ่านตอนนี้เลย
การใช้ยาทาเฉพาะที่แม้จะสามารถช่วยรักษาสิวผดเร่งด่วนได้ แต่ก็เป็นวิธีลดสิวผดที่อาจจะส่งผลข้างเคียงได้ หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี ดังนั้นการใช้ยาสิวเหล่านี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนัง โดยยาสำหรับทาสิวผด ได้แก่
ยาที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole โดยยาคีโตโคนาโซลเป็นยามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อยีสต์ที่เป็นสาเหตุของสิวผด ดังนั้นจะเป็นตัวยาที่ค่อนข้างแรง ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
ยาที่มีส่วนผสมของ Adapalene โดยยาอะดาพาลีนเป็นหนึ่งในยากลุ่มเรตินอยด์ ช่วยขับสิว จะช่วยทำให้สิวผดดันตัวเองออกมาและมีหัวสิวเพื่อให้กำจัดออกได้ง่ายขึ้นได้ แต่หากมีใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นควรระมัดระวังการสับสนระหว่างสิวที่ถูกดันออกมาและอาการแพ้สารอื่นๆ ดังนั้นการใช้ยาชนิดนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเช่นกัน
ยากลุ่มสเตียรอยด์ เป็นกลุ่มยาที่นิยมสำหรับการแก้ปัญหาผิวต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันอาจเกิดอาการแพ้สเตียรอยด์รุนแรง สำหรับผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นเนื่องจากเปอร์เซ็นต์ของสเตียรอยด์ที่มากเกินไปรวมถึงระยะการใช้ที่นานเกินไปอาจส่งผลให้ผิวติดสารและต้องการสารสเตียรอยด์ที่เข้มข้นกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ อย่างสิวผด ตามมาในภายหลังได้
สิวผด สามารถรักษาได้อีกวิธีด้วยการทำเลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาปัญหาผิวที่เป็นที่นิยมที่สุดเนื่องจากเห็นผลไวและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถเลือกเลเซอร์จุดที่มีปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำ แต่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวมีความบอบบางและไวต่อแสงเป็นพิเศษ หากไม่ดูแลผิวอาจทำให้ผิวระคายเคืองเกิดแผลเป็นหรือแม้กระทั่งฝ้ากระจุดด่างดำบนผิวได้ ทำให้อาจต้องใช้ครีมลดรอยสิวร่วมด้วย
การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวผด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรักษาสิวผดเร่งด่วน หรือมีอาการความรุนแรงของสิวผดที่อยู่ในลักษณะรุนแรง เพื่อเป็นการตรวจสภาพผิวและปัญหาผิวอื่นๆ ที่อาจมีและเลือกหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผิวของแต่ละบุคคลนั่นเอง
การทำความสะอาดใบหน้าอย่างเหมาะสม โดยใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้งในช่วงเช้า-เย็นเพื่อเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนและล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้าออก ไม่ควรล้างหน้าหรือเช็ดหน้าบ่อยเกินไปเนื่องจากอาจเป็นการทำให้ผิวระคายเคืองและเป็นการกระตุ้นให้สิวผดลุกลามได้
ห้ามพลาด! ชวนอ่านเคล็ดลับ วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง
การล้างเครื่องสำอางให้หมดจดใช้เพียงโฟมล้างหน้าอย่างเดียวอาจไม่พอเพราะเป็นการทำความสะอาดผิวแค่ภายนอกเท่านั้น การใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าให้ทั่วก่อนการล้างหน้าหรืออาบน้ำในตอนเย็นจะเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก โดยควรเลือกเป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยน ช่วยลดโอกาสการเกิดสิ่งตกค้างอุดตันภายในผิวหนัง และลดแนวโน้มการเกิดสิวซึ่งรวมไปถึงสิวผดนั่นเอง
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า การล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิว แต่การเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะสม เช่น ไม่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ก่อความระคายเคืองอย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ และเป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวต่างไม่ว่าจะผู้ที่มีผิวขาดน้ำ หรือจะเป็นคนที่มีผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย การเลือกสูตรที่เหมาะสมจะช่วยในการสร้างผิวที่แข็งแรงมากขึ้นได้
การใช้ผลิตภัณฑ์อื่นอย่างเช่น สบู่เหลวอาบน้ำ อาจมีสารตึงผิวมากเกินไป หากใช้กับใบหน้าแล้วอาจทำให้ผิวตึงและระคายเคืองได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าโดยเฉพาะที่มีความอ่อนโยน ได้มาตรฐาน และเหมาะกับสภาพผิวด้วย
แสงแดดถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการกระตุ้นการเกิดสิวผดและการลุกลามของสิวผด เพราะนอกจากความร้อนและอบอ้าวจากแสงแดดที่ทำให้เกิดเหงื่อแล้ว แสงแดดยังมีรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผิวได้ถึงชั้นด้านใน สามารถทำร้ายผิวในระยะยาวได้ ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเพื่อป้องกันการทำร้ายผิว และทำให้เกิดเหงื่อ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และสามารถป้องกันรังสียูวีได้ด้วย
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ผิวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จึงทำให้ผิวแข็งแรง ช่วยลดอัตราการเกิดสิวชนิดต่างๆ รวมไปถึงสิวผดให้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นการพักผ่อนยังช่วยให้ผิวดูสดใสอีกด้วย
ใครว่าการรับประทานอาหารไม่สำคัญ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวผดยิ่งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ก็จะช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่ดี โดยเฉพาะการรับประทานผัก ผลไม้ จะช่วยให้ผิวได้วิตามินและแร่ธาตุที่ดีในการบำรุงผิวนั่นเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะหลายๆ คนที่ชอบเอามือไปแคะ แกะ เกา ลูบ หรือกดสิวในบริเวณที่เป็นสิวผดยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้สิวผดลุกลามมากขึ้น และอาจส่งผลให้สิวผดเกิดการระคายเคืองจนกลายเป็นสิวอักเสบ หากต้องการให้สิวผดหายควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ และเลิกทำอย่างเด็ดขาดเพื่อให้ผิวห่างไกล ปราศจากสิวผดนั่นเอง
นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ในการจับผิว ไปจนถึงใบหน้าเพื่อป้องกันการลุกลามของสิวผดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ เมื่อถึงคราวที่ต้องสัมผัสใบหน้าหรือผิวบริเวณต่างๆ สิ่งที่สัมผัสจะต้องมีความสะอาด ฉะนั้นจึงควรล้างมือทุกครั้งก่อนที่จะสัมผัส หรือหากเป็นสิ่งของใดๆ อย่างทิชชู่ ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ ควรใส่ใจในเรื่องความสะอาดอยู่เสมอ
แม้ว่าสิวผดจะเป็นสิวที่เกิดขึ้นจากทั้งสภาพผิว อากาศความร้อน เหงื่อ และอื่นๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิวผดนั้นก็มีเรื่องที่ชวนให้เข้าใจผิด หรือมีความเชื่อผิดๆ เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสิวผด ดังนี้
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวผด
สิวผด สิวอุดตันแม้จะมีลักษณะสิวที่ใกล้เคียงกัน แต่ความจริงแล้วสิวทั้ง 2 ชนิดเป็นสิวคนละประเภทกัน โดยสิวผดเป็นตุ่มใส ๆ เกิดจากการที่ผิวได้รับการทำให้ระคายเคือง แต่สิวอุดตันเกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันจากสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า และน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ดังนั้นวิธีรักษาสิวผดนั้นก็จะแตกต่างไปจากวิธีรักษาสิวอุดตัน
หน้าเป็นสิวผดสามารถเกิดจากการใส่แมสก์ได้ เพราะสิวผดเกิดจากการที่ผิวในบริเวณนั้นๆได้รับการทำให้ระคายเคือง แล้วหน้ากากอนามัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผิวบริเวณหน้าช่วงล่างได้รับการเสียดสี และอับชื้นเป็นประจำทำให้เกิดสิวผดได้ ดังนั้นวิธีลดสิวผดอีกวิธีหนึ่งก็คือไม่ควรใช้แมสก์ซ้ำ หากเป็นแมสก์ผ้าก็ควรซักและตากให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดสิว
สิวผดกี่วันหาย เป็นคำถามจากทุกคนที่เป็นสิวผดสงสัยกันไม่น้อย แม้ระยะเวลาการหายของสิวผดระบุเป็นจำนวนวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่สิวผดเป็นสิวที่สามารถหายได้เร็วกว่าสิวประเภทอื่นๆ โดยวิธีการรักษาสิวผดเร่งด่วนที่จะช่วยให้สิวผดหายได้เร็วนั้นคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเจอแสงแดด อากาศร้อนบ่อย การใช้สกินแคร์เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดสิวผด หรือไปจนถึงการพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัย ฯลฯ ซึ่งหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สิวผดก็จะสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว
สิวผดเกิดได้จากหลายสาเหตุ ถึงแม้ว่าส่วนมากแล้วสิวผดจะไม่ได้เห็นได้ชัดเจนบนผิวหนังแต่ก็อาจก่อให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจจากการสัมผัสผิวที่มีตุ่มเล็กๆขึ้นได้ และถึงแม้สิวผดโดยทั่วไปจะไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ แต่ในสภาพอากาศร้อนอาจทำให้สิวผดลุกลามได้ การรักษาและป้องกันสิวผดโดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากนั่นเอง