วิธีการดูแลผิว
15 วิธีลดสิว ดูแลผิวหน้าด้วยตนเอง พร้อมวิธีรักษาสิวฉบับคุณหมอ
รู้จักกับ "สิว" มากขึ้น เจาะลึกปัญหาสิวตั้งแต่ สิวคืออะไร สาเหตุของการเกิดสิว ประเภทของสิว บริเวณที่มักเกิดสิว ระดับความรุนแรง ไปจนถึงการป้องกันและรักษาสิว
วิธีการดูแลผิว
รู้จักกับ "สิว" มากขึ้น เจาะลึกปัญหาสิวตั้งแต่ สิวคืออะไร สาเหตุของการเกิดสิว ประเภทของสิว บริเวณที่มักเกิดสิว ระดับความรุนแรง ไปจนถึงการป้องกันและรักษาสิว
พูดถึงหนึ่งในปัญหาผิวที่พบบ่อยที่สุดคงไม่พ้นปัญหาเรื่อง “สิวขึ้น” กับคำพูดว่า “หน้าสิว” ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนเสียความั่นใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้แทบทุกคนและอาจมีลักษณะของสิวที่แตกต่างกันไป เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วเกิดสิว การดูแลสุขภาพเพื่อรักษาสิวและลดสิวจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญของวิธีรักษาสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวเสี้ยนอุดตัน สิวอักเสบ ลดโอกาสการเกิดหลุมสิวหรือรอยสิวในภายหลังด้วย
สารบัญบทความ
สิว ( Acne , Pimple) เป็นอาการทางผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันหรือการติดเชื้อของต่อมไขมันในชั้นใต้ผิวหนังและเกิดเป็นตุ่มก้อนไขมัน สิวมีลักษณะเป็นตุ่มนูน เป็นก้อนไขมันอยู่ใต้ผิวหนัง มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ขึ้นอยู่กับสาเหตุการเกิดสิวนั้นๆ สิวบางชนิดก็อาจจะมีหัวสิวโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัด แต่บางชนิดก็อาจจะเป็นสิวหัวปิด ไม่เห็นหัวสิว หัวสิวมีทั้งสีขาวและสีดำ อยู่ที่ไขมันนั้นได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศหรือไม่ สิวสามารถเกิดได้ทุกบริเวณของผิวหนังในร่างกาย แต่มักจะปรากฏมากในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า ลำคอ อก แผ่นหลังส่วนบน หัวไหล่ และมักจะพบมากในช่วงวัยรุ่น เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายยังไม่สมดุล มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ
หลังจากได้ทราบแล้วว่าสิวคืออะไร Bioderma ไปดูกันต่อว่าสิวเกิดจากอะไร เผื่อจะได้ขจัดปัญหาสิวไปได้ตั้งแต่ต้นเหตุ
สิวเกิดจากอะไรนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยการเกิดสิวมีหลากหลายและขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล สาเหตุการเกิดสิวบางประการอาจไม่ได้ส่งผลให้เกิดสิวโดยตรง
โดยเราสามารถแบ่งสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นสองปัจจัย ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลต่อสภาพผิวและระบบในร่างกาย เช่นการกระตุ้นต่อมไขมันให้มีการผลิตไขมันออกมามากขึ้น จึงเป็นสาเหตุของสิวช่วงประจำเดือนที่ฮอร์โมนมักไม่คงที่นั่นเอง
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลให้เกิดความเครียดแล้วยังทำให้ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนฟื้นฟูได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดสิวและทำให้สิวหายได้ช้า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยสิวตามมา
สภาพอากาศ
สภาพอากาศส่งผลกับสภาพของผิวด้วย เช่น อากาศร้อนส่งผลให้ผิวมีความแห้งและขาดน้ำ เกิดการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาปกป้องผิวทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย หรืออากาศหนาวส่งผลให้ผิวมีความแห้ง ขาดน้ำ ผิวมีความตึงเพราะความหนาวและระคายง่ายกว่าปกติ
การเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อให้เกิดสิวอักเสบ
ผิวอาจได้รับแบคทีเรียจากภายนอกด้วย อย่างฝุ่นและมลพิษหรือการสัมผัสผิวหน้าอาจทำให้มีแบคทีเรียเข้าสู่รูขุมขนและเกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวเป็นสิวอักเสบได้ เป็นสาเหตุว่าทำไมควรเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าหากยังไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
เครื่องสำอางหรือสารเคมีตกค้างบนผิว
เครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือสารเคมีต่างๆที่ตกค้างบนผิวสามารถก่อให้เกิดการอุดตันได้ หากมีสิ่งตกค้างบนผิวและอุดตันเป็นจำนวนมากอาจส่งผลให้สิวมีขนาดใหญ่ หายช้า หรือมีอาการอักเสบในภายหลังได้จากการระคายเคืองผิว
การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป
การรับประทานอาหารที่มีไขมันมากจนเกินไป รวมถึงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้งและน้ำตาล เป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียและกระตุ้นให้ผิวขับไขมันออกมาในรูปแบบของสิวได้
สิวมีหลายประเภทขึ้นกับลักษณะสิว และสาเหตุการสิวประเภทต่าง ๆ หากเรารู้ถึงลักษณะของสิวแต่ละประเภทเราก็จะสามารถรักษาสิว ลดสิวบนใบหน้าลงไปได้
โดยประเภทสิวขึ้นนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
สิวอุดตัน (Comedones) เป็นผิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน สิวอุดตันอาจเกิดจากไขมัน เซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอก และสิ่งสกปรกต่างๆที่อาจตกค้างและอุดตันอยู่ในผิว สิ่งเหล่านี้ทำให้ไขมันที่ผิวผลิตไม่สามารถออกมาได้ ทำให้ผิวเป็นตุ่มนูน ขาดความเรียบเนียน อาจเกิดในรูปแบบของสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำได้
โดยหัวใจหลักในการแก้ปัญหาสิวอุดตันนั้นก็คือ การรักษาความสะอาดบนผิวให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า เพื่อสิ่งตกค้างเหล่านี้จะได้ไม่หลุดลอกไปรวมกับน้ำมันส่วนเกินบนผิวแล้วลงไปอุดตันในรูขุมขน เรามาดูกันว่าสิวอุดตันแต่ละประเภทนั้นมีอะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร
สิวหัวขาว
สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง ที่เกิดจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน แบบปิดทำให้หัวสิวไม่ได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้หัวสิวเป็นสีขาว
สิวหัวดำ
สิวหัวดำ (Blackheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่ง เรียกได้อีกชื่อว่า สิวหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มักเป็นเม็ดเล็ก มีรูเปิดเห็นหัวสิวและมีจุดสีดำบริเวณตรงกลาง จุดดังกล่าวคือไขมันในผิวที่สัมผัสกับอากาศแล้วกลายเป็นสีดำ
สิวผด
สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ แข็ง ๆ เหมือนผด มักเกิดจากเหงื่ออุดตัน สิวผด สิวหิน อาจทำให้ใบหน้าเห่อแดงเมื่อสัมผัสกับแสงแดดได้
สิวเสี้ยน
สิวเสี้ยน เป็นสิวอุดตันประเภทหนึ่งที่มีความคล้ายคล้ายกับสิวหัวดำ แต่จะมีขนอ่อน ๆ ออกมาจากรูขุมขนด้วย เพราะขนเหล่านี้ไม่ยอมหลุดร่วงไปตามขนปกติ ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้
สิวเป็นไต
สิวเป็นไต เป็นสิวอุดตันไม่มีหัวชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นหัวแข็ง ๆ เป็นไตใต้ผิวหนัง ไม่มีอาการอักเสบ หรืออาการคันร่วม
สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดการอักเสบในผิวหนังบริเวณนั้น โดยสิวอักเสบมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง สีแดง อาจจะเป็นได้ทั้งสิวอักเสบมีหัว หรือสิวอักเสบไม่มีหัวสิวก็ได้
สิวอักเสบส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสิวทั่วไปที่ทำสัมผัสบ่อย ๆ ด้วยการ แคะ แกะ เกา เพื่อพยายามบีบหัวสิวออกมา แต่หารู้ไม่ว่าการสัมผัสกับสิวบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง และถูกรบกวนจึงอักเสบขึ้นมาได้ ดังนั้นวิธีการแก้สิวอักเสบง่าย ๆ คือการพยายามไม่เอามือของเราที่ผ่านการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียมากมายไปสัมผัสกับสิว
สิวหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและมีอาการปวดบวมด้วย ซึ่งบนตุ่มจะมีลักษณะเป็นหัวหนองสีเหลือง มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นแทรกซ้อน
สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างรุนแรง มักเกิดในผู้ที่มีผิวมันมาก มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวหนองที่มีอาการอักเสบเยอะกว่า สังเกตได้จากอาการปวดบวมแดง มีหนองเยอะ และมีเลือดเยอะ และหากดูแลรักษาไม่ดีมีแนวโน้มเป็นแผลทิ้งเป็นหลุมสิวได้
นอกจากนี้ยังมีสิวติดสาร หรือสิวสเตียรอยด์ที่จะมักถูกเข้าใจว่าเป็นสิว แต่แท้จริงแล้วสิวสเตียรอยด์ไม่ใช่สิว แต่เป็นปัญหาผิวที่มีลักษณะคล้ายผื่น มักเกิดเป็นปื้นรวมกันบนผิว มีความรู้สึกว่าผิวเป็นสิวหรือเป็นผดผื่นง่ายกว่าเดิม มีอาการแดงและคันร่วมด้วย มีปัญหาผิวอื่น ๆ อีก เช่น โรครูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา ที่เป็นปัญหาของสิวยีสต์ (Malassezia)
และสิวที่เกิดจาก เนื้องอกของท่อเหงื่อหรือต่อมเหงื่อที่มักเกิดบริเวณโหนกแก้ม จมูก คือ สิวหิน นั่นเอง สามารถอ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ >> สิวหิน
สิวแต่ละประเภทที่กล่าวมา มักจะเกิดในตำแหน่งหน้าซ้ำ ๆ เพราะในบางบริเวณนั้นเป็นบรเวณที่มีต่อมไขมันมาก อาจจะมีการผลิตน้ำมันส่วนเกินมากเกินไปจนเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย เหมือนกับบริเวณต่อไปนี้
การรักษาสิวและดูแลสิวขึ้นอยู่กับชนิดของสิว รวมถึงระดับความรุนแรงของสิวด้วย
สิวในระดับรุนแรงน้อย เป็นสิวที่ยังไม่มีการอักเสบหรือมีการอักเสบค่อนข้างน้อย เบื้องต้นสามารถรักษาได้เองด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย เช่น การใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิว ควบคู่กับการใช้สกินแคร์สำหรับการดูแลผิวเป็นสิว รวมถึงการใช้ยาแต้มสิว
สิวในระดับรุนแรงปานกลาง เป็นสิวที่มีการอักเสบมาก เช่นสิวนูนแดงมีอาการปวด และเกิดสิวในบริเวณเดิมซ้ำๆ สามารถดูแลสิวรุนแรงปานกลางได้ด้วยการทายาแต้มสิวและใช้สกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิว รวมถึงการรักษาความสะอาดด้วย
สิวในระดับรุนแรงมาก เป็นสิวที่มีอาการอักเสบมาก สังเกตได้จากความบวมแดงของสิว และมีหนองปนด้วย จะเห็นความรุนแรงของสิวได้จากการที่สิวมีการกระจายตัวเป็นวงกว้าง เช่น ทั่วบริเวณใบหน้า หากสิวมีอาการเห่อและรักษาเองได้ยากอาจปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณาการรับประทานยาควบคู่ไปกับการใช้ยาแต้มสิว และการดูแลผิวหน้าด้วย
หากเป็นสิวรักษายังไง มีวิธีแก้สิวอย่างไร วันนี้ Bioderma จะมาแนะนำวิธีรักษาสิวด้วยวิธีต่าง ๆให้กับทุกคนได้ทราบกัน
การรักษาสิวด้วยยารักษาสิวสามารถทำได้เพื่อเป็นการรักษาเบื้องต้น ยารักษาสิวสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ส่วนมากมักมีส่วนประกอบของกรดต่างๆ เช่น
เป็นกรดในกลุ่มเบต้า-ไฮดรอกซี (ฺBHA) ที่ช่วยขจัดผิวชั้นนอก และน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกออกไป เพื่อลดโอกาสการอุดตันของผิว ลดสิว ขจัดปัญหารูขุมขนกว้าง และบรรเทารอยสิว
เป็นกรดผลไม้ (AHA) สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป ไม่อุดตันรูขุมขนและเผยผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เป็นสารรักษาสิวที่หน้าที่ดีอีกตัวหนึ่ง
เป็นกรดอินทรีย์ที่พบในตระกูลข้าว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นตอของสิว ช่วยแก้ปัญหาสิวได้
เป็นกรดอีกชนิดที่มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่ผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวขาดน้ำก็ควรต้องระวังในการใช้งาน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้
แต่ทั้งนี้ผู้ที่ผิวบอบบาง ต้องระวังในการใช้สารเหล่านี้ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่หน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากการกดสิวที่ผิดวิธีอาจทำให้หัวสิวจมลงไปในผิวลึกกว่าเดิมและเกิดการอักเสบได้ ดังนั้นการกดสิวจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่รู้วิธีการกดสิวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ หรือ อาจจะทำให้เกิดรอยช้ำ รอยแผลจากสิวขึ้นมาได้
แม้ว่าการเลเซอร์สิวจะเป็นที่นิยมด้วยความรวดเร็วในการรักษสิว แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่นๆและผลกระทบต่อผิวซึ่งอาจทำให้ผิวมีความบอบบาง ไวต่อแสง เสี่ยงต่อการเกิดฝ้ากระหากโดนแดด การเลเซอร์สิวจึงเป็นวิธีที่ควรศึกษาและปรึกษาแพทย์ก่อนการเข้ารับการรักษาสิ
และวิธีในการลดสิวมีอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิธีรักษาสิวด้วยฮอร์โมน หรือใช้การรับประทานยาคุมกำเนิด จะช่วยเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่มีหน้าที่กระตุ้นการผลิตไขมันซีบัมจากต่อมไขมันออกมา ทำให้ง่ายที่จะมีน้ำมันส่วนเกินอุดตันรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวฮอร์โมนได้
การดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสิวจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ เพื่อดูแลทุกสภาพผิวและลดโอกาสการเกิดสิว เป็นการลดโอกาสการเกิดร่องรอยจากสิวในภายหลังได้ด้วย โดยสามารถดูแลผิวได้ด้วย 10 วิธี ดังนี้
สิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดได้จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การรักษาสิวและลดสิวสามารถทำได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น หรือปรึกษาแพทย์หากพบว่าสิวมีอาการอักเสบหรือสิวเห่อและรักษาได้ยาก หนึ่งในวิธีสำคัญของการดูแลผิวเป็นสิวเพื่อลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคตคือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าและสกินแคร์ที่เข้ากับผิว เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Sebium ของ Bioderma ซึ่งมีตั้งแต่คลีนซิ่ง น้ำตบ จนถึงครีมทาผิวเพื่อดูแลผิวเป็นสิวได้อย่างตรงจุด เพื่อการลดสิวอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย
ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!