สิวที่จมูก เกิดจากอะไร รักษาและป้องกันอย่างไรให้เห็นผล

สิวที่จมูก อีกหนึ่งตำแหน่งบนใบหน้าที่มักจะเกิดสิวได้บ่อยทั้ง สิวอุดตัน สิวหัวดำ เป็นต้น และเป็นตำแหน่งที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหมดความมั่นใจ เพราะจมูกเป็นตำแหน่งโดดเด่นที่ตั้งอยู่บริเวณกลางใบหน้า 

เพื่อไม่ให้สิวตรงจมูกนั้น มาทำให้ใบหน้าของเราสูญเสียความเรียบเนียนไป เรามาดูกันว่าแล้ว สิวขึ้นจมูก สิวข้างจมูกมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วทำอย่างไรเราถึงขจัดปัญหาสิวเหล่านี้ไปได้หมด และไม่กลับมาขึ้นซ้ำอีก

สิวที่จมูก เกิดจากอะไร

สิวที่จมูก มีหลากหลายลักษณะตามแต่ประเภทของสิวที่เป็น เป็นได้ทั้งสิวที่มีการอักเสบ และสิวที่ไม่มีการอักเสบ แต่สิวที่พบได้บ่อยที่สุดคือ สิวเสี้ยน สาเหตุที่สิวเสี้ยนเยอะตรงจมูก เพราะบริเวณปลายจมูกมีรูขุมขนกว้างอยู่มาก ทำให้บริเวณดังกล่าวรูขุมขนเกิดการผิดปกติของรูขุมขนจากการอุดตันของขนอ่อนในบริเวณนั้น ๆ 

เมื่อทราบถึงลักษณะของสิวขึ้นตรงจมูกแล้ว เรามาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้เกิดสิวที่จมูกได้ ซึ่งสาเหตุในการเกิดสิวขึ้นที่จมูก แบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้ ดังนี้

• สิวทั่วไป (Acne Vulgaris) เกิดจากสาเหตุการอุดตันภายในรูขุมขน รูขุมขนทั่วไปแล้วจะมีต่อมไขมันอยู่ใต้ผิวหนัง ผลิตน้ำมัน (Sebum)  ออกมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว แต่ว่าในบางครั้ง ด้วยปัจจัยแวดล้อม และสภาพผิวโดยเฉพาะผู้มีผิวหน้ามัน ต่อมไขมันมักจะผลิตน้ำมันออกมามาก

ทำให้เมื่อหมักหมมกับเซลล์ผิวเก่า สิ่งสกปรก และแบคทีเรีย ทำให้เกิดสิวผุดขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณจมูกที่มีบริเวณรูขุมขนกว้าง 

นอกจากนี้บริเวณต่าง ๆ ตรงจมูกที่สิวขึ้น ยังบอกถึงสุขภาพภายในร่างกายของเราได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น

• สิวขึ้นข้างจมูก เกิดจากการผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกายที่มีความแปรปรวน
  • สิวขึ้นปลายจมูก เกิดจากความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร
  • สิวในจมูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการอุดตันของต่อมไขมันในรูขุมขน หรือการเกิดขนคุด รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส (Staphylococcus) 
  • สิวขึ้นบนปากใต้จมูก ส่วนมากมักจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงที่มีประจำเดือนที่ผิวขับน้ำมันส่วนเกินออกมามาก หรืออาจจะเกิดจากการผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ รังไข่ มดลูก ทำงานไม่ปกติ
  • สิวขึ้นสันจมูก เป็นบริเวณที่น่าจะเกิดจากความผิดปกติการทำงานของตับ และไต
• สิวหน้าแดง (Acne Rosacea) แม้จะใช้ชื่อว่าสิวแต่แท้จริงแล้ว เป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่ทำให้ผิวมีอาการผื่้นแดง ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ในบริเวณจมูก แก้ม หน้าผาก โดยเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือด

ประเภทของ สิวที่จมูก

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าสิวที่จมูกนั้น เกิดได้หลายประเภทตามแต่สิวขึ้นจมูกเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะแบ่งประเภทของสิวหลักเป็นสิวที่มีการอักเสบ กับสิวที่ไม่มีการอักเสบในบริเวณผิวหนัง เรามาดูกันว่าสิวทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะได้จัดการกับสิวประเภทนั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม

สิวที่จมูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้ ดังนี้

รักษาสิวที่จมูกอย่างไร

การรักษาสิวที่จมูกนั้น สามารถรักษาได้หลากหลายรูปแบบ ตามแต่ประเภทของสิว หรือระดับความรุนแรงของสิว เพราะหากเป็นสิวที่ไม่มีการอักเสบของผิวอาจจะใช้ยาชนิดทาในการรักษาสิวที่จมูกได้ หากมีความรุนแรงของสิวแนะนำให้เข้าพบแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อได้รับการรักษาที่เหมาะสม

การใช้ยารักษาสิวที่จมูกแบบทา

หากมีสิวที่จมูกในระดับที่ไม่รุนแรง อาจจะใช้เพียงแค่ยาทาในการรักษาสิวได้ แต่ทั้งนี้ก่อนใช้ยารักษาสิวประเภทต่าง ๆ ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อจะได้ใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิดผลข้างเคืองที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น

ตัวยาทาเฉพาะจุดในการรักษาสิวมีดังต่อไปนี้

• กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ตัวยาที่มีคุณสมบัติให้เซลล์ผิวเก่าหลุดลอกออกไปได้ รวมถึงช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินที่มีอยู่บนใบหน้า เพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน
• กรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) กรดชนิดหนึ่งที่ได้จากธรรมชาติตามผลไม้และพืช โดยกรดมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ขจัดขี้ไคล ไม่ให้สะสมอุดตันในรูขุมขน นอกจากนี้ยังช่วยกระจายเม็ดสีผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในโครงสร้าง ทำให้ผิวแข็งแรง และทำให้ผิวกระจ่างใส ลดการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ 
• กรด BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นกรดที่ออกฤทธิ์คล้ายกับกรด BHA คือช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป  และยังช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าให้เล็กลง นอกจากยังช่วยลดกระบวนการอักเสบของผิวให้สงบลง
• เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) เป็นตัวยาที่มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยทำให้ผิวแห้ง ขจัดน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกให้หมดจดไป ลดการอุดตันในรูขุมขน

ปรึกษาหมอเพื่อกดสิว 

หากผู้ที่เผชิญปัญหาสิวที่จมูกอยู่แล้วยังคงเกิดคำถามในใจว่า ควรเริ่มต้นการรักษาอย่างไร อาจจะเริ่มต้นด้วยการเข้าพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์แนะนำวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับสิวประเภทนั้น ๆ ที่เผชิญอยู่ เพราะสิวบางประเภทสามารถให้ผู้เชี่ยวชาญกดสิวออกมาได้ อย่างสิวอุดตัน ในส่วนการกดสิวนั้นจะมีขั้นตอนในการเปิดหัวสิวก่อนด้วย เข็ม หรือเลเซอร์ CO2 ในการช่วยเปิดหัวสิว แล้วจึงใช้ที่กดสิวในการกดหัวสิวออกมา 

และหากสิวบริเวณนั้นมีการอักเสบ นอกจากการกดออกแล้ว สามารถฉีดสิวอักเสบ เพื่อให้สิวยุบตัวลงไปได้เร็วยิ่งขึ้น

หลุมสิวที่จมูก

นอกจากปัญหาสิวที่จมูกแล้ว หากทิ้งสิวไว้นาน ๆ ไม่รักษา ปล่อยปะละเลย สิวอาจจะเกิดการอักเสบ ทำให้ผิวบริเวณที่อักเสบอาจจะมีการอักเสบไปถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวแท้ถูกทำลายลงไป ผิวในตำแหน่งนั้นจึงยุบตัวลงไปด้วย ทำให้เกิดเป็นหลุมตามผิวบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ

ซึ่งปัญหาหลุมสิวที่จมูกนั้นมีหลายลักษณะ ตามต่อไปนี้

• Rolling scar

คือ หลุมสิวแบบตื้น ถึงแม้อาจจะมีขนาดกว้างได้ แต่การอักเสบของผิวตอนเป็นสิวอักเสบนั้น ยังไม่มีการอักเสบเข้าไปลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้หลุมสิวประเภทนี้รักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวที่มีขนาดลึกลงไปในชั้นโครงสร้างผิวที่ลึกกว่านี้ โดยหลุมสิวประเภทนี้มักจะเกิดจากการแกะ เกาผิวในบริเวณนั้น

• Boxcar scar

คือ หลุมสิวที่มีความลึกมากกว่าหลุมสิวประเภท Rolling scar มีขอบเขตของของหลุมสิวชัดเจน แต่ก้นหลุมสิวมีความลึก แต่ไม่ลึกชั้นผิสหนังแท้ หลุมสิวประเภท Boxcar scar มักจะเกิดจากสิวอักเสบ และโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคอีสุกอีใส เป็นต้น

• Ice pick scar

คือ หลุมสิวชนิดปากแคบ แต่มีความลึกของหลุมสิวมากถึงรูขุมขน และผิวหนังชั้นหนังแท้ ทำให้การอักเสบนี้เข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้หายไปแล้ว หลุมสิวลึกนี้มักจะเกิดการกดหรือบีบสิวอักเสบที่มีความลึกในชั้นผิวหนังแท้ และหลุมสิวชนิดนี้รักษายาก และใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเรียบเนียนได้

6 วิธีรักษาหลุมสิวที่จมูก

หลุมสิวที่จมูกนั้นสามารถรักษาให้หายได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานาน แต่มีหลายวิธีที่สามารถช่วยทำให้ปัญหาหลุมสิวนี้บรรเทาลงไปได้ เช่น

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยเข็ม

การใช้เข็มในการรักษาหลุมสิวได้ด้วย เพราะตัวเข็มเข้าไปช่วยทำลายพังผืดที่เกิดบริเวณหลุมสิว ทำให้ผิวหน้าเกิดบาดแผลเล็ก ๆ เป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังซ่อมแซมตัวเอง โดยเร่งสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยกรด TCA

การใช้กรด TCA (Trichloroacetic Acid) ที่เป็นสารละลายกรดไตรคลอโรอะเซติกความเข้มข้น 80 - 90 % มีฤทธิ์ในการช่วยลอกผิวหน้า ช่วยรักษาหลุมสิวได้เพียงแต้ใมไปบนบริเวณหลุมสิว 3 - 4 นาทีแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่าสะอาด จะเกิดเป็นรอยด่างสีขาวในบริเวณนั้น 3 - 4 วัน รอยด่างจะกลายเป็นสะเก็ดสีน้ำตาล แล้วจึงค่อยหลุดออกตามธรรมชาติ

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยกรด AHA

กรด AHA เป็นหนึ่งกรดผลไม้ธรรมชาติ มีสรรพคุณในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการทำงานของเม็ดสี ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดริ้วรอยล่องตื้นใหม่ ๆ ให้จางลงได้ และรอยสิวให้จางลงได้

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยการเลเซอร์หลุมสิว

การใช้คลื่นแสงเลเซอร์ ยิงลงไปบนผิวหน้า เพื่อทำลายพังผืดที่ยึดอยู่บริเวณหลุมสิวให้หายไป ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวบริเวณเกิดการสร้างใหม่ และกระตุ้นให้คอลลาเจนเกิดใหม่เพิ่มขึ้นในชั้นโครงสร้างผิว และช่วยลดรอยแผลเป็น กระชับรูขุมขน ลดรอยเหี่ยวย่นลงไปได้

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยการผ่าตัดหลุมสิว

เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษาหลุมสิว โดยการผ่าตัด แล้วจึงเย็บปิดปากหลุมสิว เหมาะกับการช่วยรักษาหลุมสิวที่มีขนาดใหญ่ หรือหลุมสิวที่มีลักษณะที่เป็นแบบแอ่งกระทะ

• รักษาหลุมสิวที่จมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

การแก้ไขปัญหาหลุมสิวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเติมเต็มฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็มเพิ่มเข้าไปในหลุมสิวให้เติมเต็มขึ้น ให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน ไร้ร่องหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวที่ไม่รุนแรง ไม่ได้มีความลึกมาก

คำถามที่พบบ่อย 

การบีบสิวปลายจมูก เสี่ยงติดเชื้อในสมองจริงหรือไม่ 

การบีบสิวปลายจมูกมีความเสี่ยงติดเชื้อในสมองได้จริง แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก พบได้ไม่มาก เพราะว่าบริเวณรอบ ๆ จมูกมีเยื่อบุเชื่อมต่อเข้าไปในโพรงจมูกที่มีหลอดเลือดไปเลี้ยงจำนวนมาก ซึ่งหลอดเลือดดังกล่าวมีผลต่อดวงตา และสมองได้ 

ดังนั้นหากผิวหนังบริเวณรอบจมูกที่มีอาการอักเสบ หรือติดเชื้อ จึงสามารถแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายตามหลอดเลือด และเข้าไปสู่โพรงจมูกส่วนลึก และไปสู่สมองได้

Bioderma Sebium Gel Moussant เจลทำความสะอาดผิวล้ำลึกและอ่อนโยน ช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตัน พร้อมช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลดความมันและแบคทีเรีย สาเหตุของการเกิดสิว 

ด้วยคุณสมบัติของ Copper Zinc Complex ที่มีคุณสมบัติลดแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดสิว ลดความมันบนใบหน้าหลังใช้ได้ถึง 83% พร้อมมีสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko Biloba Leaf Extract) ช่วยลดการอักเสบ และมีค่า pH 5.5 ใกล้เคียงกับผิวธรรมชาติ นอกจากนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดประเภทคลีนซิ่ง และบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์ เซรั่ม และครีมบำรุงผิวสูตรลดโอกาสเกิดสิว ก็จะช่วยลดปัญหาสิวลงไปได้อีก