ปัจจัยกระตุ้นสิวเห่อเกิดจากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. การใช้มือไม่สะอาดสัมผัสตามผิวหนัง เพราะปกติเราต้องใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสกับสิ่งของต่าง ๆ หากเราไม่ล้างมือให้สะอาด ด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอาจทำให้มีแบคทีเรีย สิ่งสกปรกสะสมตามฝ่ามือ แล้วหากเราเอามือเผลอไปสัมผัสใบหน้า จะทำให้สิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้า ผิวถูกกระตุ้นให้เกิดหน้าพังสิวเห่อทั่วใบหน้า
2. การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ นำมาซึ่งปัญหาสิวเห่อได้ เพราะการนอนหลับดึกหลังเที่ยงคืนไป และไม่ครบอย่างนอน 8 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายมีช่วงเวลาในการผลิตสาร ฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายน้อยลง มีเวลาฟื้นฟูสภาพผิวน้อยลง การขยายของแผลสิว และการหายของสิวช้าลง และทำให้สารต่าง ๆ ในร่างกายไม่สมดุล ส่งผลให้หน้ามันมากขึ้น รูขุมขนขยาย เกิดสิวเห่อ สิวอักเสบ หรือเป็นเม็ดไตสิวขึ้น นอกจากนี้จะทำให้ร่างกายไม่สดชื่น เกิดความเครียดได้ง่าย ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกาย รวมถึงภูมิคุ้มกันป้องกันผิวก็ต่ำลงด้วยเช่น ทำให้เพียงโดนสภาพแวดล้อมใด ๆ กระตุ้นเล็กน้อย ก็ทำให้สิวลุกลาม สิวเห่อทั่วใบหน้าได้
อย่างเช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นมาจากต่อมหมวกไต และมักหลั่งออกมาเมื่อร่างกายเกิดความเครียด ได้รับความกดดัน และเมื่อนอนดึก หลับไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิต
ในช่วงเช้า ฮอร์โมนคอร์ติซอลมักจะผลิตออกมามาก แต่เมื่อถึงช่วงกลางคืน ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะลดลงต่ำลงมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อน แต่ถ้ามีความเครียดหรือนอนไม่หลับ ฮอร์โมนดังกล่าวในร่างกายก็จะสูง และกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาได้ ก่อให้เกิดสิว เป็นสิวเห่อลามทั่วผิวหนังได้
3. ในปัจจุบันที่สถานการณ์โควิด ทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใส่แมสก์ได้ การเสียดสีเป็นประจำระหว่างเนื้อแมสก์และผิวซ้ำ ๆ ในบริเวณช่วงแก้ม จมูก คาง ทำให้ผิวบริเวณดังกล่างเกิดการระคายเคือง สิวจึงเห่อขึ้นมา นอกจากนี้บริเวณที่ใส่แมสก์เป็นบริเวณปิด ผิวตรงนั้นจะอับชื้น อากาศไม่ถ่ายเท ทั้งน้ำมันบนหน้าในบริเวณนั้น ทั้งเหมาะแก่การฟักตัวของเชื้อแบคทีเรีย และความร้อนที่ไม่ระบาย ทำให้ผิวช่วงตรงนั้นระอุเป็นสิวเห่อขึ้นมาได้ โดยเฉพาะสิวผดที่แก้ม สิวที่คาง และผดผื่นคันตามช่วงแก้ม ตามคาง
4. แสงแดด เป็นตัวการที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่หากเราได้รับแสงแดดมากเกินไป จะส่งผลเสียในการทำร้ายผิวได้มากกว่า เพราะแสงแดดมีส่วนในการกระตุ้นให้ผิวเกิดสิวเห่อขึ้นได้ เพราะแสงแดดทำให้ผิวแห้งกร้าน ยิ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันส่วนเกิน(Seborrhea)ออกมาก
นั้นทำให้เกิดผลหลายอย่างที่กระตุ้นให้เกิดสิวเห่อ เช่น ผิวแห้งทำให้ผิวไม่เรียบเนียนจากเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้ว เซลล์ผิวเก่าทำให้ผิวแห้งกระด้าง และไปขัดขวางกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รูขุมขนไม่ระบาย ไขมันจึงอุดตันในรูขุมขน นอกจากนี้ เหงื่อที่ถูกผลิตมากขึ้นจากแสงแดด และอากาศร้อน ทำให้เชื้อแบคทีเรีย P.ances เจริญเติบโต และแพร่กระจาย ให้สิวเห่อบนผิวได้ ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสีUV ทั้ง UVA และ UVB ไม่ให้กระตุ้นให้เกิดสิวเห่อ และฝ้า
5. การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เหมาะกับสภาพผิว ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนสิวเห่อขึ้นมาได้ หรือการทำความสะอาดผิวหน้า ไม่สะอาดหมดจดก็ทำให้เกิดการอุดตันเพิ่มลามไปทั่วผิวหน้าได้ เช่น ในทุก ๆ วันที่ทาครีมกันแดด หรือแต่งหน้า ควรล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อน ถึงจะตามด้วยการทำความสะอาดด้วยเจลล้างหน้าที่อ่อนโยนอีกครั้ง เพราะครีมกันแดด และเครื่องสำอางมักจะมีส่วนผสมที่กันน้ำ จึงจำเป็นต้องล้างด้วยคลีนซิ่งก่อน และล้างด้วยเจลล้างหน้าแล้ว ก็ควรเสริมด้วยการเช็ดโทนเนอร์อีกครั้ง เพื่อเปิดผิวพร้อมรับการบำรุง พร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกขั้น
6. สิวเห่อช่วงประจำเดือนเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เป็นประจำในช่วงที่รอบเดือนกำลังจะมา เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเกิดความแปรปรวนของสาร ฮอร์โมนร่างกายต่าง ๆ ไม่สมดุล ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการข้างเคียงหลายอย่างทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งทำให้เกิดความเครียดภายในใจ และทางร่างกายภายนอกก็เกิดสิวเห่อขึ้นมาได้
เพราะในช่วงที่จะมีประจำเดือน ก่อนที่ประจำเดือนจะมา จะมีช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนโปสเจสเทอโรน (Progesterone) คือ ฮอร์โมนเพศหญิง ที่มีหน้าที่ในการควบคุมภาวะไข่ตกและการมีประจำเดือน รวมถึงระบบต่าง ๆ ทั่วไปในร่างกายด้วย ได้แก่ การเต้นของหัวใจ อุณหภูมิภายในร่างกาย ความหิว การนอนหลับพักผ่อน อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ รวมทั้งความต้องการทางเพศด้วยเช่นกัน และยังรวมถึงการสร้างฮอร์โมน ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนหลายชนิดด้วย จึงมีผลความเกี่ยวข้องในการมีประจำเดือนและการตั้งครรภ์ ทำให้ช่วงมีรอบเดือนฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนจะพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดการกระตุ้นร่างกายให้ผิวบวมขึ้น รูขุมปิดลง ทำให้เกิดการอุดตันของน้ำมันต่าง ๆ ในรูขุมขนที่ปิดจนไม่สามารถระบายน้ำมันออกมานอกผิวหนังได้
และสิวฮอร์โมนสามารถเห่อขึ้นมาได้อีก เพราะฮอร์โมนอีกชนิด คือ ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ฮอร์โมนเพศชายที่มีผลกับผิวหนังโดยตรง เพราะเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการทำงานที่เพิ่มขึ้นของต่อมเหงื่อและต่อมไขมัน ทำให้ร่างกายมีกลิ่นตัว อีกทั้งต่อมไขมันจะผลิตไขมัน และน้ำมันส่วนเกินออกมาบนผิวหนังมาก ทำให้ง่ายต่อการที่น้ำมันจับตัวกับสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย อีกทั้งผิวหนังที่ชื้นน้ำมันนี้ ก็กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อสิวได้อย่างดี ทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้