วิธีการดูแลผิว
13 วิธีบำรุงผิวให้หน้าใสไกลสิว สวยมั่นใจในแบบของคุณ
ทำไมกันเหล่าดาราเซเลปถึงหน้าเนียนผ่อง ขาวใสมีออร่า ไร้สิวได้ขนาดนี้?!?! คุณก็เป็นได้เพียงรู้ 10 เทคนิคบำรุงผิวหน้าให้เรียบเนียนสูสีกับเหล่าดาราตัวแม่
ใบหน้าเป็นจุดแรกที่ใครๆ มองเห็น เพราะฉะนั้นการบำรุงผิวหน้าให้หน้าใส ขาวเนียน ก็เป็นส่วนในการเพิ่มเสน่ห์ เสริมบุคลิกภาพของคุณให้ดูดีขึ้นได้ รู้อย่างนี้แล้วใครที่อยากหน้าใส หน้าเนียน ก็อย่ามัวรีรอ ก้าวเท้าเข้ามาฟัง 10 เทคนิควิธีดูแลผิวหน้าให้หน้าใส ผิวสวย จนใคร ๆ ก็นึกว่าเป็นดาราเซเลปสุดปัง!
สารบัญบทความ
หน้าใสไร้สิว ผิวไม่หมองคล้ำ
หากจะนิยามถึงหน้าใส (Glowing skin) แล้ว อาจจะมีคำนิยามที่แตกต่างกันไปตามความคิดของแต่ละคน แต่แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วคนส่วนมากมักจะกล่าวว่า “หน้าเนียนใส” คือ ผิวหน้าที่แลดูสุขภาพดี สดใสเปล่งปลั่งจากการบำรุงผิว ไม่มีรอยดำ จุดด่างดำ ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ อิ่มฟู ฉ่ำวาว ไม่ดูแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย หน้าเรียบเนียน ไร้สิว ไม่ขรุขระสากมือ หรือไม่ดูหน้ามันเยิ้มจากน้ำมันส่วนเกินมากจนเกินไป
ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวหน้า
สงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมกันบางคนถึงไม่ได้ทำอะไรกับผิวหน้าเป็นพิเศษ ก็มีผิวสวยหน้าใสกัน แบบนี้เกิดจากอะไร มีปัจจัยอะไรกันบ้างนะ? ที่ส่งผลให้ผิวหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป ถ้าคุณรู้ไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แน่นอนว่าคุณก็จะจัดการให้ผิวหน้าของคุณเนียนใสเหมือนอยู่กลางสปอร์ตไลท์ตลอดเวลากันเลยทีเดียว!
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีสภาพผิวหน้าใส ได้แก่
- พันธุกรรม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการมีผิวหน้าใส เพราะไม่ว่าจะสภาพผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น เป็นขุยง่าย ผิวมันที่มีใบหน้ามันเยิ้มจนนำไปสู่การอุดตันได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่นๆ หรือจะผิวผสม ไปจนถึงผิวแพ้ง่ายนั้น ผิวพรรณของคนในครอบครัวเข้ามามีผลส่งต่อสภาพผิวนั้น ๆ สืบต่อมาแก่ลูกหลานรุ่นถัด ๆ มา
- ฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย มีส่วนในการกระตุ้นการเกิดสิวเห่อขึ้นมาได้ รวมถึงมีผลต่อการกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนัง (Sebaceous glands) ให้ผลิตน้ำมัน (Sebum) รวมถึงเพศ ช่วงอายุ ช่วงประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ก็มีผลต่อผิวเช่นกัน
- ปัญหาสุขภาพ หรือการใช้ยาบางชนิด ปัญหาทางสุขภาพ หรือการใช้ยาบางกลุ่มมีฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ หรือการหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกาย ทำให้สภาพผิวมีการเปลี่ยนไปได้ ตัวอย่างเช่น ยาคุมกำเนิด (Birth control pills) ตัวยาบรรจุฮอร์โมนเพศหญิงเอาไว้ บางชนิดมีฤทธิ์กดฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ส่งผลให้ความมันบนผิวน้อยลง ทำให้ผิวมีความมันบนใบหน้าลดลง
- สภาพแวดล้อม แสงแดด อุณหภูมิอากาศร้อน อากาศเย็นแห้ง ฝุ่นควัน มลภาวะทางอากาศ ควันบุหรี่ ส่งผลที่ไม่ดีต่อใบหน้าทั้งริ้วรอย ฝ้ากระจุดด่างดำ สิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าไปตกค้างอุดตันในรูขุมขน เกิดเป็นสิวอุดตัน และรูขุมขนกว้าง
- พฤติกรรม การดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ไม่ออกกำลังกาย หรือความเครียดสะสม ส่งผลต่อสุขภาพของผิวพรรณ ทั้งผิวเสียความชุ่มชื้น ปัญหาสิว ผิวหน้าโทรม
13 วิธีบำรุงผิวหน้าให้ขาวใส ไร้สิว
คนไหนที่ยังจับทางไม่ถูกว่า เอ๋! ถ้าอยากหน้าใสแบบเกาหลี จนใคร ๆ ก็ทักว่า โอป้า ออนนี่นั้นต้องเริ่มอย่างไร? บอกเลยว่าวันนี้ Bioderma จะมาแอบกระซิบ 13 เคล็ดลับเด็ดทำได้ง่ายๆ ที่ทำให้ผิวหน้าของคุณถูกบำรุง จนหน้าใส ขาวผ่อง ไม่แพ้ไอดอลเกาหลีแน่นอน!
อยากหน้าขาวใส หน้ากระจ่างใส จนไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์เพียงแค่ทำตาม 13 วิธีดูแลผิวหน้าใส ฉบับ Bioderma!
1. เลเซอร์หน้าใสชนิดต่างๆ
การเลเซอร์ผิวถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยเนรมิตให้มีผิวหน้าใสขึ้นมาได้ เพราะการบำรุงผิวเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้หลายๆ คนหน้าใสไม่ทันใจ ถ้ายิ่งต้องออกไปเจอผู้คนมากมาย โชว์ออร่า ความเนียนกระจ่างใสของผิวแบบนี้ ด้วยคุณสมบัติของเลเซอร์หน้าใสชนิดต่างๆ เช่น IPL Q-switch หรือ Pico ที่ช่วยปรับสภาพผิวจากการพลังงานเลเซอร์ถึงชั้นผิว เข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยลดเลือนรอยดำ รอยแดง ลดการอักเสบต่างๆ และที่สำคัญรูขุมขนยังกระชับขึ้น เรียกได้ว่าใครอยากหน้าใส เลเซอร์แล้วถูกใจแน่นอน
รู้หรือไม่? นอกจากเลเซอร์จะช่วยให้หน้าใสแล้ว ยังแก้ปัญหาผิวบางด้วยนะ คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมตอนนี้เลย!
2. บำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มที่มีส่วนผสมช่วยให้หน้าใส
หนึ่งในสกินแคร์ที่สามารถช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นได้คือเซรั่ม เพราะเซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อเหลว บางเบา สามารถซึมซาบสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก อีกทั้งยังเป็นสกินแคร์ที่บรรจุไปด้วยสารบำรุงที่เข้มข้นทำให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดได้ ด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์ที่โดดเด่นทำให้หน้าใส ดังนี้
- วิตามิน ซี (Vitamin C)
- วิตามิน อี (Vitamin E)
- อาร์บูติน (Arbutin)
- กรด AHA
- กรด BHA
ใช้เซรั่มแล้ว แต่ไม่มั่นใจลงสกินแคร์ถูกขั้นตอนมั้ย อ่านบทความนี้เลย ช่วยได้! : 6 ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ที่ถูกต้อง เพื่อผิวขาวใส ลดสาเหตุการเกิดสิว
3. ทำความสะอาดผิวหน้าให้ห่างไกลสิว
การทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งมีส่วนช่วยทำให้หน้าใสขึ้นได้ เพราะคลีนซิ่งจะช่วยทำความสะอาดเฉพาะจุดอย่างล้ำลึก ช่วยขจัดคราบเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรก ฝุ่นควันที่เกาะอยู่ตามผิวหน้าหลุดร่วงออกไป ทำให้ช่วยลดแนวโน้มการอุดตันในรูขุมขน ต้นตอของปัญหาสิวเรื้อรังและปัญหารอยสิวที่จะตามมา แล้วต่อด้วยคลีนเซอร์ เช่น โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกขั้นต่อมา และยังถือเป็นพื้นฐานของการบำรุงผิวที่ใครอยากหน้าใสต้องขาดไม่ได้
อยากผิวคลีน สะอาด ยกกำลังหน้าเนียนใส ต้องห้ามพลาด! : วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง สะอาด ไกลสิว พร้อมสำหรับการบำรุง
4. ใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องแสงแดดและมลภาวะต่างๆ
แสงแดดไม่เพียงทำให้เรารู้สึกร้อน เหนียวอึดอัดตัวจากเหงื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นศัตรูตัวสำคัญที่เข้ามาขวางหนทางการมีหน้าใสอีกด้วย เพราะด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต(UV Rays) ที่มาพร้อมกับแสงแดด จะเข้ากระตุ้นให้เกิดเม็ดสีผิวเข้มเมลานิน (Melanin) ที่ทำให้สีผิวเข้มขึ้น ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส หรืออาจจะถึงขั้นเกิดเป็นจุดฝ้าสีเข้มบนผิวหน้าได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นครีมกันแดดจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะสร้างเกราะป้องกันให้ผิวไม่ต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง ใครที่อยากหน้าใส ครีมกันแดดเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ห้ามขาดเลยนะจะบอกให้!
5. ขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพด้วยสครับหรือกรดผลไม้
การผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยสครับหรือกรดผลไม้(AHA) ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป ไม่หมักหมมในรูขุมขนให้เกิดการอุดตัน ช่วยเร่งการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ผิวเปล่งปลั่งขึ้น เพราะตามธรรมชาติแล้ววงจรผิวของเรา จะผลัดการเกิดเซลล์ใหม่ ๆ ทุกประมาณ 28 วัน แต่การขัดด้วยสครับ หรือมาส์กด้วยกรดผลไม้ จะทำให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เผยผิวหน้าเนียน กระจ่างใส เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เสกหน้าใส ไกลสิว ที่ถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน
6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นอกจากการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ต่างๆ เพื่อให้หน้าใสแล้ว การนอนหลับก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญสำหรับการมีหน้าใสเช่นกัน เพราะช่วงเวลาในการนอนหลับนั้น เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอ และปรับสมดุลให้กับระบบการทำงานและระบบการหลั่งฮอร์โมนของร่างกาย โดยเราควรเข้านอนให้เป็นเวลาทุกวัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 4 ทุ่มของแต่ละวัน
และควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมอวัยวะ และเซลล์ผิว และฮอร์โมน สารต่าง ๆ จะถูกผลิตออกมาได้ตรงตามเวลาที่ร่างกายกำหนด การนอนหลับพักผ่อนจึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้หน้าใสจากภายในสู่ภายนอก
7. ไม่สูบบุหรี่
ถ้าอยากหน้าใสแต่ยังสูบบุหรี่อยู่ขอบอกว่าไม่เวิร์คแน่นอน เพราะบุหรี่นั้นเต็มไปด้วยสารเคมีอันตราย ได้แก่ นิโคติน (Nicotine) คาร์บอนมอนน็อคไซด์ (Carbon Monoxide) และทาร์ (Tar) ซึ่งสารอันตรายเหล่านี้จะเข้าไปสร้างสารอนุมูลอิสระ(Oxidant) เข้ามาทำลายคอลลาเจน(Collagen) อีลาสติน(Elastin) ในโครงสร้างผิว เพราะคอลลาเจน อีลาสตินเป็นเส้นใยที่คงความแข็งแรง ยืดหยุ่นให้กับผิว เมื่อถูกทำลายลงไป ผิวจะเริ่มหมอง ไม่สดใส ผิวหย่อนคล้อย แลดูเหี่ยวย่น หน้าแก่ง่าย เรียกได้ว่าการสูบบุหรี่เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังทำลายผิว เป็นอุปสรรคในการมีหน้าใสอีกด้วย
8. หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดที่เกิดในสภาพจิตใจ ส่งผลให้ผิวพรรณเกิดอาการผิวเครียด (Psychodermatology) ทำให้ร่างกายกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนหลาย ๆ ตัว ออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล รวมถึงสุขภาพผิวก็เสียสมดุลด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดอาการเช่นนี้ การหากิจกรรมยามว่างทำร่วมกับครอบครัว เพื่อน อย่างการอ่านหนังสือ ดู TV เล่นเกม ก็ช่วยลดความตึงเครียดลงไปได้ เมื่อความเครียดถูกขจัดหมดไป คำว่าหน้าใสก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!
9. ดื่มน้ำให้เพียงพอใน 1 วัน สามารถทำให้หน้าใสขึ้นได้
อยากหน้าใสแต่ยังติดนิสัยในแต่ละวันดื่มน้ำน้อย ไม่ค่อยดื่มน้ำก็อาจจะต้องรออีกนาน เพราะการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ให้อย่างน้อยดื่มน้ำให้ได้วันละ 1.5 ลิตร หรือเทียบเท่าประมาณ 8 - 10 แก้วต่อวัน ส่งเสริมการบำรุงผิวให้สวยได้จากภายในสู่ภายนอก เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิว ลดความแห้งกร้าน ช่วยเพิ่มความกระชับให้กับผิวและรูขุมขนให้ดูอิ่มฟูได้ นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษ ของเสียผ่านเหงื่อออกจากร่างกายได้
10. งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในขั้นตอนการเผาผลาญแอลกอฮอล์ในร่างกาย จะมีการปล่อยสารพิษแอสซิเทลดิไฮด์ (Acetaldehyde) ซึ่งเป็นพิษต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย และยังหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) เข้าไปขยายหลอดเลือด ทำให้ใบหน้ามีสีแดงก่ำ และยังเข้าไปขยายรูขุมขนบนผิวให้กว้าง ง่ายต่อการเกิดสิว เห็นแบบนี้ใครที่เป็นสายดื่ม สายปาร์ตี้ แต่หน้าใสก็อยากมี แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มอย่างอื่นแทนแอลกอฮอล์ก็จอยได้เหมือนกัน แถมผิวเรียบเนียนกระจ่างใสก็ยังไม่ไปไหนไกลอีกด้วย
11. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
สังเกตไหมว่าทำไมหลายคนยิ่งออกกำลังกายแล้วยิ่งหน้าใส ดูดีมากยิ่งขึ้น เพราะการออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 - 3 วันต่ออาทิตย์ ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือด และออกซิเจนภายในผิวเพิ่มมากขึ้น ร่างกายช่วยขับสารพิษ และสิ่งอุดตันในรูขุมขนขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ แถมยังช่วยลดปริมาณฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียด ที่จะเข้ามาทำร้ายคอลลาเจนให้ลดลง
12. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่
อาหารถือเป็นอีกหนึ่งการบำรุงสำคัญจากภายในที่นอกจากจะบำรุงร่างกายแล้ว ยังส่งผลไปยังผิวพรรณด้วย ซึ่งอาหารบางชนิดมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ทำให้ผิวพรรณดูดี หน้าใสจากภายในสู่ภายนอก เมื่อทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มผักผลไม้ที่ีวิตามินซี เช่น ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ฝรั่ง เสาวรส กีวี่ เป็นต้น
13. บำรุงผิวให้เหมาะสมตามวัย
เคล็ดลับสุดท้ายของการดูแลและบำรุงผิวให้หน้าใสคือการบำรุงผิวหน้าให้เหมาะสมตามวัย การจะมีหน้าใสได้นั้นนอกจากจะต้องปฏิบัติตามเคล็ดลับข้างต้นที่กล่าวมานั้น ยังต้องเข้าใจความแตกต่าง ความเปลี่ยนแปลงของผิวในแต่ละวัยตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และวัยที่อยู่ในช่วงหย่อนคล้อย ให้มีการดูแลได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะอยู่วัยไหนก็สามารถมีผิวหน้าใสเหมาะสมตามวัยได้เสมอ และที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้หน้าเด็กอีกด้วย
5 วิธีการบำรุงผิวหน้า เพื่อให้หน้าขาวใสแบบผิดๆ
อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนที่เข้าใจผิดถึงวิธีการมีหน้าใส แะปฏิบัติอย่างผิดๆ มาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้หน้าใสขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้หน้าหมอง และอาจก่อปัญหาผิวอื่นตามมาจนต้องกลุ้มใจกว่าเดิม ฺbioderma พาไปส่อง 5 วิธีการบำรุงผิวหน้า เพื่อให้หน้าขาวใสแบบผิดๆ ดังนี้
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับสภาพผิว แต่ของมันต้องมี
เคยมั้ย? ก็ของมันต้องมี โดยเฉพาะสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิว โดยที่ไม่สนว่าจะตรงกับสภาพผิวของตนเองหรือไม่ ซึ่งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการผิว ใช้ตามที่บอกต่อกันมาว่าดี ต้องมี อาจจะไม่ช่วยให้หน้าใสได้ เพราะเป็นการบำรุงผิวที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาของผิวที่มีอยู่ นอกจากนั้นอาจจะเป็นการบำรุงผิวที่เยอะจนเกินไป เพราะต้องรีบใช้ให้ทัน กลัวจะไม่คุ้มเอา! เห็นแบบนี้แล้วใครที่ยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับสภาพผิวของตนเองแล้ว เชื่อว่าประโคมทุกอย่างแล้วจะหน้าใสนั้นต้องเปลี่ยนใหม่ซะแล้ว
2. ผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยๆ เพราะคิดว่าช่วยให้หน้าใสเร็ว
เข้าใจมาตลอดว่าการผลัดเซลล์ผิวช่วยเผยผิวใหม่ เลยผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยๆ จะได้หน้าใสเร็วๆ แต่เดี๋ยวก่อนที่ทำอยู่เป็นวิธีการดูแลผิวหน้าที่ผิด ต้องรีบหยุดเดี๋ยวนี้ เพราะการผลัดเซลล์ผิว สครับหน้าบ่อยๆ นอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวหน้าใสเร็วแล้ว ยังอาจทำให้ผิวแสบ แดง ระคายง่าย นอกจากนั้นยังเกิดสิวเห่อได้อีกด้วย ใครที่ทำอยู่แล้วคิดว่าหน้าใสชัวร์ ต้องพักก่อน
3. ไม่ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอน
รู้สึกเหนื่อย กลับมาแล้วอยากนอนเลย หน้าไม่ล้างได้ไหม ขอตอบตรงนี้ว่าไม่ได้! เพราะในแต่ละวันผิวเจอสิ่งสกปรก ฝุ่น ละออง ที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันต่อผิว ถ้าอยากหน้าใสแต่สอบตกขั้นตอนแรกของการดูแลผิวที่สำคัญอย่างการทำความสะอาดผิวนั้น หน้าใสก็ไม่มาทักทายแน่ๆ ฉะนั้นไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ต้องทำความสะอาดผิวก่อนนอนเสมอ
4. บำรุงผิวหน้าจัดเต็ม แต่ตกม้าตายที่กันแดด
บำรุงผิวจัดเต็มทุกโปรดักส์ทั้งน้ำตบ เซรั่ม ครีมบำรุงผิวหน้า จะตอนเช้า ตอนเย็นก็ใส่เต็มทุกสเต็ป แต่ดันตกม้าตายไม่ยอมทากันแดด ก็ไม่ผ่านเข้ารอบหน้าใสนะแบบนี้ ไม่ว่าจะบำรุงจัดเต็มแค่ไหน กี่สเต็ป กี่ขั้นตอน ถ้าอยากหน้าใส แถมผิวสวยแข็งแรงต้องทากันแดดเพื่อป้องกันยูวี ป้องกันการเกิดฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยเสมอ
5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสเตียรอยด์
ครีมดังในเน็ตที่เลื่องลือว่าใช้แล้วเสกผิวใหม่ในไม่กี่สัปดาห์อาจแฝงไปด้วยสเตียรอยด์ที่อาจทำให้หน้าพังแทนหน้าใสได้ อย่างที่ทราบกันถึงสรรพคุณของสเตียรอยด์ว่าช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส แต่ใช้ไปนานๆ กลับก่อให้เกิดผลข้างเคียงมหาศาล ฉะนั้นใครที่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์จะช่วยให้ผิวหน้าใสได้นั้น ต้องหลีกเลี่ยงอย่างโดยด่วน
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบำรุงผิวให้หน้าใส ที่ต้องห้ามพลาด
ฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ หนึ่งในวิธีดูแลผิวหน้า ช่วยรักษาสิวหน้าใสฉบับเร่งรัด เพราะเป็นการนำสารบำรุงต่าง ๆ ฉีดเข้าสู่ผิวหน้าได้โดยตรง ทำให้สารบำรุงที่บรรจอยู่เมื่อเข้าสู่ผิว ก็จะออกฤทธิ์สู่ผิวเร็วขึ้น
โดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดเมโสหน้าใสเข้าสู่ผิวหน้า 16 จุด ตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งวิตามินสารบำรุงผิวที่บรรจุอยู่ภายในมีหลัก ๆ อยู่ 3 ประเภท ดังนี้
- ฉีดหน้าขาวใส
- ฉีดหน้าใส
- ฉีดลดสิว แก้ผดผื่น
ปัจจุบันจะเห็นได้บ่อยขึ้นตามไลฟ์สดแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีการขายครีมหน้าใส บอกสรรพคุณช่วยให้ผิวกระจ่างใส หน้าเรียบเนียนภายในไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งทำให้หลายคนที่อยากมีหน้าใสมักกดซื้อลงตะกร้าอย่างรวดเร็ว เพราะมีรูปเปรียบก่อนและหลัง รวมไปถึงยังมีรีวิวจากคนซื้อประกอบอีกด้วย
แต่เดี๋ยวก่อน! ครีมหน้าใสเร่งด่วนที่เห็นกันตามโซเชียลแบบนี้ เต็มไปด้วยสารสเตียรอยด์ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ จะส่งผลเสียต่อผิวทำให้กลายเป็นหน้าติดสารสเตียรอยด์ หรือเกิดสิวสเตียรอยด์ได้ นอกจากหน้าใสได้ไม่นานแล้ว ยังหน้าพัง ใช้เวลาในการรักษามากว่าเดิมอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วครีมหน้าใสตามโซเชียลอันตรายมาก ดีไม่ดียังไม่ได้รับการตรวจสอบจากอย. อีกด้วย
ไม่อยากเสี่ยงหน้าแพ้ครีม อ่านด่วน ก่อนพลาด : หน้าแพ้ครีม มีอาการเป็นอย่างไร และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
สรุป
หน้าใสถือเป็นผิวหน้าที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝัน เพราะแต่งหน้าง่าย แต่างหน้าสวย แถมหน้าสดก็ยังรอด ดูสุขภาพดีอีกด้วย ทำเอาหลายๆ คนที่ได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว อยากหน้าเนียน หน้าใสธรรมชาติ คงจะได้รู้และได้นำ 13 เคล็ดลับ ข้อสุดพิเศษ ฉบับ Bioderma ที่ช่วยบำรุงผิวหน้าใส แข็งแรงไปปรับใช้กับผิวหน้ากันอย่างจัดเต็ม จะบำรุงผิวหน้าใสด้วยเคล็ดลับไหนก็พร้อมลุยโชว์ผิวสู้แสงแดดธรรมชาติ หรือแสงไฟ แสงแฟลช อวดผิวออร่าไม่กลัวแพ้!
