วิธีการดูแลผิว
10 วิธีทำให้หน้าเด็ก ผิวเด้ง ดูอ่อนกว่าวัย จนคนมองเหลียวหลัง!
หน้าเด็กเป็นอย่างไร? แล้วผิวแบบไหนกันที่เรียกว่า “หน้าเด็ก” พร้อมบอกเคล็ดลับ 10 วิธีทำให้หน้าเนียนนุ่ม ผิวเด้ง ดูอ่อนวัย จนใคร ๆ ก็ต้องทัก!!!
วิธีการดูแลผิว
หน้าเด็กเป็นอย่างไร? แล้วผิวแบบไหนกันที่เรียกว่า “หน้าเด็ก” พร้อมบอกเคล็ดลับ 10 วิธีทำให้หน้าเนียนนุ่ม ผิวเด้ง ดูอ่อนวัย จนใคร ๆ ก็ต้องทัก!!!
แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ไม่อยากเสียใบหน้าที่คงความอ่อนเยาว์กันไว้ทั้งนั้น จึงสรรหาสารพัดวิธีทำให้หน้าเด็กมาใช้ ตามหาสารพัดผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวมาประโคมผิวหน้ากันมากมายไปหมด แต่เรื่องความอ่อนเยาว์นั้นไม่ได้ต้องดูแลเพียงแค่สุขภาพผิวพรรณภายนอกเท่านั้น แต่การใส่ใจสุขภาพภายในก็เป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน วันนี้ Bioderma จึงรวบรวม 10 วิธีดูแลให้หน้าเด็กมาแชร์ให้ผู้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้ว ก็หยิบกระดาษขึ้นมาจดกันเลย!
ก่อนที่จะไปดูถึงวิธีทำให้หน้าอ่อนเยาว์ เรามาดูกันก่อนดีกว่าแล้วผิวพรรณแบบไหนกันนะที่เรียกกันว่า “ผิวพรรณแบบหน้าเด็ก”
หากใครมีลักษณะผิวพรรณแบบนี้ คุณโชคดีมากเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่มีตามนี้ก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพียงแค่คุณทำตามเทคนิควิธีทำให้หน้าเด็กลง 10 วิธีนี้ เราเชื่อว่าผิวคุณจะกลับมาแลดูสุขภาพดี ดูอ่อนวัยลงอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันทั้งมลภาวะ ฝุ่น ควัน ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไหนจะพฤติกรรมในยุคปัจจุบันที่ส่งผลให้สุขภาพของคนเราแย่ลง ทั้งสุขภาพกาย และสุขภายใจ ทำให้ระบบต่าง ๆ และการหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกายแปรปรวนไป แน่นอนว่าด้วยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้สุขภาพผิวพรรณนั้นแย่ตามลงไป
ถึงแม้เราอาจจะไม่สามารถขจัดสาเหตุเหล่านี้ไปได้หมด แต่อย่างน้อยหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราไปในทางที่ใส่ใจสุขภาพตาม 10 ทริควิธีทำให้หน้าเด็กลงนี้ได้ อาจจะทำให้สุขภาพผิวของเรากลับมาดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
วิธีทำให้หน้าอ่อนกว่าวัยง่าย ๆ วิธีแรกก็คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้น ระบบไหลเวียนเลือดไหลเวียนดี และระบบขับถ่ายของเสียของร่างกายออกได้อย่างดี ช่วยให้ผิวหน้าเด็กสุขภาพดี มีเลือดฝาด โดยการดื่มน้ำที่ดีควรดื่มตามน้ำหนักตัวของตัวเองตามสูตร น้ำหนัก x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน (มิลลิลิตร) เช่น น้ำหนักตัว 55 x 2.2 x 30/2 = 1,815 มิลลิลิตร
อีกหนึ่งเคล็ดลับหน้าเด็กก็คือการรักษาความสะอาดของใบหน้าอยู่เสมอ เพราะการที่ไม่มีคราบน้ำมันเยิ้มบนใบหน้าทำให้หน้าไม่ดูโทรม ดูหมองคล้ำ อีกทั้งลดความเสี่ยงที่จะเกิดการอุดตันเป็นสิวบนใบหน้าได้ด้วย เพียงแค่เลือกผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว และทำความสะอาดให้หมดจดตามแนวรูขุมขน ประมาณ 15 - 20 วินาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
เพื่อไม่ให้ใบหน้าต้องเผชิญมลภาวะ สัมผัสกับฝุ่นควัน และแสงแดดโดยตรง การทาครีมกันแดดจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันให้กับผิว เพราะส่วนผสมในครีมกันแดดจะช่วยป้องกันผิวไม่ให้ต้องโดนกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่จะทำร้ายผิวให้เกิดริ้วรอย ที่เป็นหนึ่งในร่องรอยที่ชี้ให้เห็นถึงช่วงวัยที่โรยรา
เพื่อลดการรับประทานอาหารที่สร้างสารอนุมูลอิสระ (Oxident) ที่ทำให้เซลล์ผิวหน้าให้เสื่อมลง เช่น เนื้อสัตว์ใหญ่ อาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เป็นต้น จึงแนะนำให้หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxident) ที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว ได้แก่
เนื่องจากความเครียดคือศัตรูตัวร้ายที่จะมาทำร้ายผิวให้แก่ลง ความเครียดจะทำร่างกายถูกกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแปรปรวน และทำให้ใบหน้าผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามาก ตามมาด้วยปัญหาสิว และรอยสิวต่าง ๆ ตามมา ดังนั้นการหากิจกรรมยามว่างทำเพื่อผ่อนคลายก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีทางออกทำให้หน้าดูเด็กลง
การผลัดเซลล์ผิวบ้างด้วยการสครับผิวหน้า ด้วยเม็ดสครับที่ละเอียดไม่บาดผิว หรือด้วยกรดธรรมชาติอย่าง AHA หรือ BHA อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง จะทำให้เซลล์ผิวเก่าสามารถหลุดลอกออกไปได้ และกระตุ้นให้เกิดวัฏจักรการผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้นกว่าปกติ ที่ผิวหน้าจะผลัดเซลล์ผิวในทุก ๆ 28 วันนั้นเอง
การมาส์กหน้านั้นมีหลากหลายเนื้อสัมผัสให้เลือกใช้ ทั้งแผ่นมาส์ก ทั้งแบบครีม หรือแบบโคลน นอกจากนี้ยังมีหลากหลายสูตร หลากหลายส่วนผสมที่มาตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว แต่หนึ่งในคุณสมบัติของมาส์กหน้านั้นคือสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ยากต่อการเกิดริ้วรอยร่องตื้นต่าง ๆ บนใบหน้าได้
การนอนหลับให้สนิทตั้งแต่หัวค่ำก่อน 4 ทุ่ม ให้ได้ครบอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จะช่วยให้สุขภาพและระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้ เพราะโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) มักจะผลิตในช่วง 4 ทุ่มถึงตี 2 ขณะที่เรานอนหลับ เจ้าฮอร์โมนเจริญเติบโตนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้น
ในทุก ๆ สัปดาห์ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง อย่างต่ำครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมัน และขับเหงื่อสิ่งสกปรกออกมา พร้อมทั้งกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือด ระบบหายใจ รวมถึงระบบอื่น ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากได้สุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผิวหน้ามีสีแดงระเรื่อดูสุขภาพผิวดีเหมือนเด็กอีกด้วย
หากในวันสบาย ๆ ถ้าไม่จำเป็นควรเลี่ยงการแต่งหน้า เพราะสารเคมีในเครื่องสำอางต่าง ๆ จะมีส่วนทำร้ายผิว ทำให้ผิวหน้าแก่ขึ้นได้ หากใครหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าไม่ได้ ก็จำเป็นต้องล้างหน้าให้สะอาด โดยเฉพาะในบริเวณที่แต่งหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะจุดอย่างคลีนซิ่ง และในบริเวณที่ลบคราบเครื่องสำอางออกยากอย่างบริเวณดวงตา แนะนำให้ใช้ อายรีมูฟเวอร์ (Eye remover) ช่วยเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาออกไปได้อย่างอ่อนโยน
การกินโปรตีนที่ดีเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับหน้าเด็ก ช่วยชะลอหน้าแก่ได้ โดยโปรตีนที่ดีนั้นจะต้องเป็นโปรตีนที่มาจากพืชหรือเนื้อปลา ไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ใหญ่ อย่างเนื้อหมู เนื้อวัว เพราะเนื้อสัตว์เหล่านี้จะก่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการสร้างสารอนุมูลอิสระ (Oxident) ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมลง แต่ในทางตรงกันข้ามโปรตีนจากพืช และปลานั้นมีไขมันน้อย มีใยอาหารสูง และมีสารต้านอนูมูลอิสระ (Antioxident) ชะลอความแก่อีกด้วย
หลาย ๆ คนคงได้ยินมาบ่อย ๆ แล้วว่า คอลลาเจน (Collagen) ทำให้ช่วยแก้ปัญหาหน้าโทรม หน้าแก่ได้ เลยพากันกินอาหารเสริมคอลลาเจนกันในปริมาณมาก ๆ แต่แท้จริงแล้วคอลลาเจนนั้นเป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถผลิตได้ด้วยตนเอง มีส่วนช่วยในเรื่องของความยืดหยุ่นของผิว ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยจริง
แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวก็ลดลง ทำให้อีกหนึ่งวิธีทำให้หน้าเด็ก คงความอ่อนเยาว์ไว้นั้น ควรเลือกรับประทานอาหารซึ่งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น ปลาทะเล เอ็นและข้อจากสัตว์ ผักผลไม้ เป็นต้น หรือในกรณีที่คิดว่าอาจจะรับประทานอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อวันอาจจะเลือกรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนเพิ่มขึ้นด้วย
แม้ว่าการที่ใบหน้าเด็กจะไม่สามารถคงอยู่กับเราได้ตลอดไป แต่เราก็สามารถชะลอให้มันคงอยู่กับเราได้นานที่สุดด้วยการรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงสุขภาพผิวของเราให้ดีที่สุดเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะถึงแม้อายุจะมากขึ้น แต่ความงามของเราก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป หากเรามั่นใจ และรักษาสุขภาพผิวให้ดีในแบบฉบับที่เราเป็น!