2. ใช้ครีมทาหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ลดผิวเหี่ยวย่น ชะลอหน้าแก่
อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวได้ นั่นก็คือความชุ่มชื้น เพราะการมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวนั้น จะทำให้ผิวเกิดรอยเหี่ยวย่นได้ยากกว่าผิวที่แห้งกร้าน ดังนั้น ควรหันมาใส่ใจบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงผิวที่มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว และเติมน้ำ เพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว
ทั้งนี้การเลือกครีมบำรุงผิว หรือเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า และต้องมั่นใจได้ว่าสามารถมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดความระคายผิวอย่าง Sensibio Defensive Serum ซึ่งเป็นเซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น เพื่อผิวที่แข็งแรงขึ้นถึง 90% ช่วยลดสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ เสริมเกราะป้องกันผิว ปลอบประโลมผิว อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และทำให้ผิวดูกระจ่างใสทั่วใบหน้า ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ เพราะเซรั่มไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายผิว และผ่านการทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
3. งดสูบบุหรี่ทำให้ผิวไม่แก่ก่อนวัย
สารเคมีในบุหรี่ทำร้ายผิวได้ ซึ่งอาจทำให้ผิวโทรม ผิวหมองคล้ำ และทำร้ายคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวให้หย่อนคล้อย หน้าแก่ ผิวเหี่ยวย่นลงนั่นเอง เพราะฉะนั้น การงดบุหรี่จึงเป็นอีกทางออกหนึ่งที่ช่วยชะลอหน้าแก่กว่าอายุได้
4. กินอาหารเพื่อสุขภาพ
ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อุดมด้วยพลังงานที่ดี ไม่เพียงแต่ผักผลไม้ที่มีกากใย แร่ธาตุ วิตามินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันจากธรรมชาติ เช่น ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ อะโวคาโด ถั่ว เป็นต้น และเลี่ยงที่จะรับประทานอาหารจำพวกที่มีน้ำตาล และไขมันไม่ดีสูง เพราะเป็นตัวการที่จะทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นได้
5. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เพราะส่งผลกระทบต่อความชุ่มชื้นของผิว คาเฟอีนพบได้ในกาแฟ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ใครหลายๆ คน ชอบดื่มตอนเช้า เพราะทำให้ร่างกายสดชื่น พร้อมลุยงาน แต่หากกินเป็นประจำ ก็ทำให้ผิวเหี่ยวได้เช่นกัน
6. ดื่มน้ำช่วยให้ผิวไม่เหี่ยว
น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย และเป็นตัวช่วยทำให้ผิวคงความชุ่มชื้น และป้องกันการเสื่อมสลายของคอลลาเจน จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
7. พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อป้องกันหน้าเหี่ยว
โดยปกติแล้ว ควรนอนหลับพักผ่อน 6-8 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างการนอนหลับจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้ฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวหน้าได้ดีที่สุด หากพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้เกิดผิวหน้าเหี่ยวหย่นในที่สุด