วิธีการดูแลผิว
สิวเรื้อรัง เป็นสิวไม่หายซักทีทำอย่างไรดี แชร์ 5 เทคนิคดูแลผิวเป็นสิว
นานแล้วรักษาอย่างไรผิวเป็นสิวก็ไม่หายสักที เป็นปัญหาสิวคาราคาซังอยู่แบบนี้ แล้วต้นตอสาเหตุคืออะไรกัน? ถึงจะแก้ไขปัญหาผิวเป็นสิวเรื้อรังนี่ให้หายขาดไปได้
วิธีการดูแลผิว
นานแล้วรักษาอย่างไรผิวเป็นสิวก็ไม่หายสักที เป็นปัญหาสิวคาราคาซังอยู่แบบนี้ แล้วต้นตอสาเหตุคืออะไรกัน? ถึงจะแก้ไขปัญหาผิวเป็นสิวเรื้อรังนี่ให้หายขาดไปได้
ปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด หรือสิวชนิดอื่น ๆ เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักที เห่อขึ้นเต็มใบหน้า รักษาสิวมานานเท่าไหร่ก็ไม่ท่าทีที่สิวจะมีจำนวนลดลงเลย แต่กลับเพิ่มจำนวนขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นปัญหาหนักใจที่ไม่จบไม่สิ้น แต่จริง ๆ แล้วปัญหาสิวเรื้อรัง (Severe Acne) สามารถดูแลรักษาให้หายขาดได้ หากเรารู้ถึงต้นตอของการเกิดสิว และยับยั้งได้อย่างตรงจุด
สิว (Acne) คือ ปัญหาผิวหนังที่มักจะมีตุ่มนูน เป็นก้อนไขมันใต้ผิวหนัง ขนาดเล็กบ้าง ขนาดใหญ่บ้าง มักจะมีสาเหตุเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน การอุดตันของน้ำมันและสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน การระคายเคืองจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย หรือการติดเชื้อทางผิวหนัง จากสาเหตุต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้นหากผิวยังถูกกระตุ้นเรื่อย ๆ สิวก็ยังคงยังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นปัญหาสิวเรื้อรัง
สิวเรื้อรัง (Severe Acne) คือ ปัญหาผิวที่มีถุงน้ำกระจายไปทั่วบริเวณผิวหนัง สัมผัสแล้วรู้สึกเจ็บไปทั่วบริเวณ ถึงสิวจะยุบตัวไปแล้ว แต่ก็ยังคงทิ้งปัญหารอยสิวเอาไว้อยู่ดี ปัญหาสิวเรื้อรังนั้นพบได้ตั้งแต่สิวหัวดำ สิวหัวขาว หรือสิวทั้งสองประเภทก็ได้เช่นกัน มักจะพบสิวลามในบริเวณใบหน้า หน้าอก แผ่นหลัง หรือลามไปทั่วบริเวณกรอบหน้า และลำคอ แบ่งเป็น 2 ลักษณะสิวที่พบได้ตามการอักเสบของผิว ดังนี้
ผู้ที่เผชิญอยู่กับสิวเรื้อรังคงจะทราบดีถึงความร้ายกาจของสิวที่เกิดขึ้น เพราะต้องใช้เวลานานกว่าที่สิวเหล่านี้จะลดจำนวนไป และยากที่จะรักษาสิวเรื้อรังได้ด้วยวิธีทั่ว ๆ ไป แต่ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญจะเหมาะสมกว่า
สิวขึ้นเรื้อรังนั้นเป็นปัญหาที่พบในทั่วบริเวณผิวหนังตามร่างกาย เพราะไม่ว่าบริเวณไหนในร่างกายก็สามารถถูกกระตุ้นให้สิวลุกลามเห่อไปทั่วบริเวณได้ ดังนั้นเรามาดูกันว่าบริเวณไหนบ้างที่เป็นสิวเรื้อรังได้บ่อย ๆ เพื่อเราจะได้ใส่ใจดูแลบริเวณนั้น ๆ ได้อย่างดี เพื่อลดปัญหาการเกิดสิวที่ไม่ยอมจบสิ้น
บริเวณที่พบสิวเรื้อรังได้มาก ได้แก่
เป็นหนึ่งในบริเวณยอดฮิตที่มักจะเกิดสิวเรื้อรังเกิดขึ้น นอกจากปัจจัยภายนอกที่มากระตุ้นให้เกิดสิวแล้ว บางครั้งระบบภายในร่างกายอาจจะเกิดปัญหาทำให้มีสิวขึ้นมาบนใบหน้าได้ อย่างปัญหาสิวอักเสบที่คางเรื้อรังอาจจะเกิดจากการทำงานของลำไส้เล็ก หรือการรับประทานอาหารรสจัดเกินไป ควรลดการรับประทานอาหารรสจัดและหันมารับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำมาก ๆ แทน
สิวเรื้อรังที่แก้มมักจะเกิดจากการมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ จึงควรเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วยการรับประทานวิตามินซี วิตามินเอ จากธรรมชาติ เช่น ส้ม สตอเบอรี่ มะเขือเทศ และดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
อีกหนึ่งบริเวณบนใบหน้าที่มักจะพบปัญหาสิวเรื้อรังได้ ก็คือสิวเรื้อรังที่หน้าผาก โดยส่วนใหญ่หากร่างกายมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร มักจะพบปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ แนะนำให้รับประทานอาหารย่อยง่าย ๆ อย่างธัญพืช และดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มาก ๆ
นอกจากบริเวณใบหน้าที่จะพบปัญหาสิวเรื้อรังได้มากแล้ว ผิวบริเวณลำตัวก็พบปัญหานี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณแผ่นหลัง ที่มักจะเกิดการอับชื้น และกระตุ้นจากเชื้อแบคทีเรียภายในเหงื่อของเราได้ จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ และลดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับผ้า
สิวเรื้อรังเกิดจากแต่ละสาเหตุแตกต่างกันไป ตามแต่สภาพผิวและสภาพร่างกายของแต่ละคน รวมถึงอาหารที่เลือกรับประทาน กิจกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรังชนิด และบริเวณต่าง ๆ แตกต่างกันไป
สาเหตุการเกิดสิวเรื้อรังมีดังต่อไปนี้
ระดับฮอร์โมน เกิดจาการที่ระดับฮอร์โมนแอนโตรเจน (Androgen) จะเพิ่มขึ้นสูง ทำให้ต่อมไขมันขยายตัวใหญ่ขึ้น ทำให้มีการสร้างน้ำมันออกมามาก ง่ายต่อการอุดตันในรูขุมขน มักจะเกิดขึ้นเรื้อรังในผู้ที่มีสภาพผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือในช่วงอายุวัยรุ่นที่ผิวหน้ามีน้ำมันส่วนเกินมาก
กรรมพันธุ์ ในบางครอบครัวลักษณะสภาพผิวมีการถ่ายทอดผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เช่นในบางคนมีความผิดปกติในการผลิตซีบัม หรือน้ำมันบนผิวจำนวนมาก ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเกิดรูขุมขนอุดตัน และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว (C. Acnes) บนผิวได้อย่าง
ความเครียด และการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ มีผลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนผิวปกติ ทำให้ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ และน้ำมันบนผิวมากเกินไป ทำให้มีการสะสมของแบคทีเรียจากเหงื่อ และน้ำมันส่วนเกินบนผิวทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน สาเหตุของการเกิดสิว
การเลือกรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่มีรสจัด รสหวาน มีแป้งและไขมันมาก หรือในผู้ที่มีระบบย่อยอาหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีการอักเสบ และผิวมีน้ำมันมาก ทำให้ผิวระคายเคืองจนเกิดสิวขึ้นมา
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คอยหมั่นสังเกตตัวเอง เพราะว่าสิวที่ขึ้นอยู่เป็นประจำอาจจะมีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เราใช้อยู่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สร้างความระคายเคืองให้กับผิวหนังก็เป็นได้
โรคผิวหนัง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรังขึ้นมาตามผิวหน้า อย่างเช่น โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) โรคภาวะผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมันในชั้นผิว ทำให้เกิดสิว ผดผื่นขึ้นตามใบหน้า
การติดสาร ผิวหน้าติดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์เป็นส่วนผสมอยู่ ทำให้พอใช้ไปเป็นระยะเวลานาน เกิดการรบกวนกลไกการทำงานของผิว ทำให้เมื่อเลิกใช้ผลิตภัณฑ์สเตียรอยด์ไป ก็เกิดสิว ผดผื่นแพ้ขึ้นมาตามใบหน้า
สิวเรื้อรังรักษาได้ด้วยการใช้ตัวยาเข้ามารักษาผิวพรรณ โดยนิยมนำกลุ่มตัวยาปฏิชีวนะ (Antibiotic)เข้ามาช่วยในการรักษา เช่น กลุ่มตัวยาปฏิชีวนะดังต่อไปนี้
จากการศึกษาของ American Academy of Dermatology กล่าวว่า ยาปฏิชีวนะมีฤทธิ์ในการช่วยลดเชื้อแบคทีเรียบนผิว และยังมีส่วนในการช่วยยับยั้งการอักเสบของผิวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีการใช้ตัวยาอื่น ๆ ในการใช้รักษาปัญหาสิวเรื้อรัง ได้แก่
อาการสิวระดับรุนแรงน้อย มีสิวขึ้นในจุดเดิมซ้ำ ๆ แต่เป็นสิวผด สิวอุดตัน เม็ดเล็กเม็ดน้อย อาจจะเลือกรับประทานยาคุมกำเนิด (Oral contraceptives) ในการช่วยปรับฮอร์โมนให้สมดุล เพื่อลดฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดสิวขึ้น
อาการสิวระดับรุนแรงปานกลาง มีสิวขึ้นบริเวณจุดเดิม มีทั้งสิวเม็ดเล็ก ๆ และสิวอักเสบปะปนร่วมด้วยแต่จำนวนไม่มากนัก สามารถใช้ตัวยา Spironolactone ตัวยาขับปัสสาวะชนิดหนึ่ง แต่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยลดการเกิดสิวได้ แต่เนื่องจากเป็นยาที่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในการรับประทาน
อาการสิวระดับรุนแรงมาก สิวขึ้นซ้ำ ๆ ในบริเวณเดิมมีทั้งสิวเม็ดเล็ก และสิวอักเสบเม็ดเล็ก สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ขึ้นตามบริเวณผิวหนัง อาจจะใช้ตัวยา Isotretinoin เป็นยาในกลุ่มอนุพันธุ์ของวิตามิน A มีข้อบ่งใช้ในการรักษาสิวที่มีอาการรุนแรง ไม่สามารถควบคุมอาการได้จากการวิธีรักษาอื่นๆ โดยมีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน และช่วยลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย (C.Acnes)
วิธีการรักษาสิวเรื้อรังโดยไม่ใช้ตัวยาในการรักษา สามารถเริ่มได้จากขั้นตอนการดูแลผิวเบื้องต้น ที่ควรทำจนเป็นนิสัย เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดสิวขึ้น
โดยเริ่มทำง่าย ๆ ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันแล้ว ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสะอาดหมดจด พักผ่อนเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว แต่อาการสิวเรื้อรังยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้เข้าพบแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยของต้นตอสาเหตุของสิวดีกว่า เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และแพทย์จะได้จ่ายยา และให้คำแนะนำในการใช้แก่ผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้อง
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเป็นสิวเรื้อรังนั้นจำเป็นต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้เวลาค่อย ๆ รักษาสิวเรื้อรังถึงจะบรรเทาลงไปได้ วันนี้จึงขอเสนอ 5 เทคนิคดูแลผิวที่มีปัญหาสิวเรื้อรังให้บรรเทาลงไปได้
ล้างเครื่องสำอางออกจากผิวให้หมดจด เพื่อที่จะได้ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้บนผิวหน้า ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง ที่ทำหน้าที่เฉพาะในการล้างคราบเครื่องสำอางที่ฝังแน่นออกได้
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนไม่ทำร้ายผิว ไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิว แม้เป็นผิวแพ้ง่าย เพื่อล้างคราบฝุ่นละออง คราบเหงื่อไคล สิ่งสกปรก รวมถึงล้างคลีนซิ่งออกจากหน้าให้สะอาดหมดจด
หลีกเลี่ยงแสงแดดที่เป็นตัวการทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง กระตุ้นให้ผิวเกิดสิวขึ้นมาได้ โดยหมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 2 ชั่วโมง และ 30 นาทีก่อนออกจากบ้าน ถึงแม้จะอยู่ภายในอาคาร เพราะรังสี UV สามารถเล็ดลอดผ่านกระจกอาคารเข้ามาได้
เพราะครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ทุกวัน ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่จะไม่สร้างการอุดตันให้กับผิว โดนเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว
เพราะมือคืออวัยวะหนึ่งที่สกปรกที่สุด เป็นอวัยวะที่ต้องสัมผัสกับสิ่งของมากมาย ทำให้เมื่อเผลอเอามาสัมผัสโดนใบหน้าอยู่บ่อย ๆ ก็จะทำให้สิ่งสกปรก รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ มาสะสมอยู่บนผิวได้เช่นกัน
การรักษาสิวเรื้อรังนั้นจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะบางครั้งอาจจะเป็นเรื่องของปัจจัยภายในร่างกายอย่างการต้องค่อย ๆ กินยาปรับฮอร์โมน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะ หรือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมภายนอกที่กระตุ้นให้เกิดสิวได้ ก็จะค่อย ๆ ช่วยบรรเทาอาการสิวเรื้อรังได้ โดยปกติทั่วไปแล้วการรักษาสิวมักจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ หรืออาจจะกินเวลาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาสิวของแต่ละบุคคล รวมถึงดุลพินิจของแพทย์
การเป็นสิวนั้นสามารถรักษาหายได้ แต่ในบางกรณีด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทำให้อาจจะต้องใช้เวลานานในการรักษา แต่อาการสิวเรื้อรังสามารถหายขาดได้ หากเราปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังอย่างถูกต้อง
และความเครียดยิ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น เพราะความเครียดจะส่งผลให้ระบบภายในร่างกายแปรปรวน การหลั่งของฮอร์โมน และน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังผิดปกติไป
Bioderma Sebium Gel Moussant เจลล้างหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย เพราะมีส่วนผสมของ Copper Zinc Complex มีส่วนช่วยกำจัดแบคทีเรียสาเหตุปัญหาสิว และยังช่วยคุมมันหลังล้างยาวนานถึง 4 ชั่วโมง พร้อมทั้ง Ginkgo Biloba Leaf Extract ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองให้กับผิวที่เป็นสิว
ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย
ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!