เข้าใจผิวตนเอง
หน้ามัน รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร พร้อม 10 วิธีแก้หน้ามัน
หมดปัญหาหน้ามัน ด้วยการรู้สาเหตุของปัญหา พร้อมทั้งวิธีลดความันบนใบหน้า อีกทั้งแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวหน้า ให้มีความชุ่มชื้นแต่ไม่มัน
หน้ามัน อีกหนึ่งสภาพผิวที่ใครกำลังเผชิญอยู่ก็มีเรื่องปวดหัวให้อยู่ไม่น้อย เพราะสภาพผิวหน้ามันอยู่ตลอดเวลา ทั้งเหนียว เหนอะหนะ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันแบบสุด อีกทั้งยังทำให้แต่งหน้าไม่ติด เสียบุคลิก เสียความมั่นใจอย่างมาก
เพราะฉะนั้นวันนี้ Bioderma จะพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับผิวมันกันทุกซอกทุกมุม หาคำตอบตั้งแต่สาเหตุหน้ามัน พร้อมบอกวิธีแก้หน้ามันให้แบบจัดเต็ม พร้อมโบกมือลาปัญหาหน้ามันเยิ้มไม่ให้กลับมากวนใจอีกเลย
รู้จักกับสภาพผิวอื่น ๆ : ผิวแห้ง
สารบัญบทความ
หน้ามัน คืออะไร
หน้ามัน (Oily face หรือ Oily skin) คือ สภาพผิวที่มีน้ำมันอยู่บนผิวหน้ามากจนเกินปกติ จึงมีน้ำมัน (Sebum) เคลือบอยู่บนผิวหน้าเกินความจำเป็น ทำให้ผิวหน้ามันง่ายมาก ผิดปกติ
โดยปกติแล้วใบหน้าของพวกเราจะมีน้ำมันธรรมชาติที่ถูกผลิตออกมาจากต่อมใต้ผิวหนัง ออกมาให้เคลือบให้ผิวชุ่มชื้น แต่ผิวหน้าที่สุขภาพดีจะมีน้ำมันเคลือบอยู่ในปริมาณที่พอดี แต่หากมีปัจจัยอื่น ๆ มากระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าผิวปกติ ก็จะทำให้หน้ามันมากนั่นเอง
ซึ่งด้วยเหตุนี้เอง ผิวหน้ามันจึงส่งผลให้ผิวดูสุขภาพแย่ลง ก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา ทั้งหน้ามันรูขุมขนกว้าง หน้ามันหมองคล้ำ หน้ามันเป็นสิว เพราะน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้านี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เชื้อแบคทีรีย C.acnes ต้นเหตุของสิวเจริญเติบโตได้ดี อีกทั้งน้ำมันจะรวมตัวกับสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิว แล้วเข้าไปอุดตันตามรูขุมขน จนกลายเป็นเม็ดสิวอุดตันในเวลาต่อมา
ไม่เพียงเท่านั้นหน้ามันสามารถเกิดได้ในลักษณะของผิวที่แตกต่างกันไป อาจจะพบหน้ามัน เป็นสิว รูขุมขนกว้างได้ทั้งใบหน้า หรืออาจจะเป็นลักษณะผิวมันแค่ช่วง T - zone บริเวณหน้าผาก จมูก หรือที่เรียกกันว่าผิวผสม หรือผิวมันที่เป็นผิวแพ้ง่าย ผิวมันที่เป็นผิวขาดน้ำ เป็นต้น
หน้ามันส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ : หน้าโทรม
หน้ามันเกิดจากอะไร
ก่อนที่จะไปดูกันว่าวิธีลดหน้ามันได้นั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันก่อนว่าหน้ามันเกิดจากอะไร เพราะว่ามีหลายปัจจัยเลยที่ส่งผลให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ จนทำให้ผิวมัน รูขุมขนขยายกว้างนั่นเอง
สาเหตุหน้ามัน มีดังนี้
- หน้ามันกรรมพันธุ์สภาพผิวมัน ต่อมไขมันใหญ่ รูขุมขนกว้าง รวมถึงปริมาณไขมันที่ผลิตออกมา รวมถึงการกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันล้วนถูกกำหนดจากพันธุกรรม
-
ฮอร์โมนแปรปรวนฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจน (Androgen) หากหลั่งออกมามากเกินไป จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ผลิตน้ำมันออกมาบนผิวหน้ามากเกินไป
-
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เนื้อเข้มข้นไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือเครื่องสำอาง หากมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวข้น รวมถึงมีส่วนผสมของน้ำมันมาก จะยิ่งทำให้ใบหน้ามันมากขึ้นระหว่างวัน
-
ผิวขาดความชุ่มชื้นยิ่งผิวหน้าแห้ง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น เพื่อเคลือบผิวเอาไว้ ไม่ให้สูญเสียน้ำภายในชั้นผิวนั่นเอง
-
สภาพอากาศอากาศที่ร้อน จากแสงแดด หรืออากาศที่เย็น แห้งมาก ใบหน้าจะยิ่งเสียความชุ่มชื้น ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากจนเกินไป
-
การดูแลผิวหน้าที่ทำร้ายผิวไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าบ่อยจนเกินไป หรือการสครับผิว ผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อย ๆ จะยิ่งทำให้ผิวหน้าเสียความชุ่มชื้น ทำให้ใบหน้ายิ่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากยิ่งขึ้น
ปัญหาสิวอื่น ๆ จากหน้ามัน : สิวเสี้ยน
10 วิธีแก้ปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง
ไม่ว่าคุณผู้ชาย คุณผู้หญิง จะมีผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้างแค่ไหน 10 วิธีแก้หน้ามันที่ Bioderma จะนำมาบอกเก้าเล่าสิบให้ดีขึ้นได้ แม้วิธีลดหน้ามันจะเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน แต่ช่วยให้สภาพผิวดีขึ้น มันน้อยลง ลดการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ลงไปได้
1. ทำความสะอาดใบหน้ามันอย่างหมดจด
การล้างหน้าให้สะอาดหมดจดเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าออกไปได้ จึงเป็นวิธีแก้หน้ามัน ลดต้นตอการเกิดสิวได้อย่างยอดเยี่ยม โดยความล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าที่อ่อนโยน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น และถ้าหากมีการแต่งหน้า หรือใช้ครีมกันแดดกันน้ำ จำเป็นต้อง Double cleansing ด้วยคลีนซิ่งก่อนอีกหนึ่งขั้นตอน
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ผิวพรรณของเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 30% ดังนั้นการดื่มน้ำเปล่า สะอาดให้เพียงพอ จะทำให้สภาพผิวชุ่มชื้น ช่วยลดการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวหน้าน้อยลง จึงเป็นวิธีลดหน้ามันได้ดีอีกวิธี โดยคุณผู้หญิงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 - 3 ลิตร ส่วนคุณผู้ชายควรดื่มน้ำ 3 - 4 ลิตรต่อวัน
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
วิธีรักษาหน้ามันที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งง่าย ๆ คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพียงให้ร่างกายนำสารอาหารเหล่านี้ไปบำรุงส่วนต่าง ๆ ให้ระบบการทำงานของอวัยวะ และการหลั่งของฮอร์โมนทำงานไปได้อย่างเป็นปกติ โดยอาหารที่ความเลี่ยงมากที่สุด คือ อาหารที่มีไขมันสูง และน้ำตาลสูง
4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพหน้ามัน
เพราะผิวหน้ามันนั้นมันมีน้ำมันเคลือบอยู่บนผิวในปริมาณมากแล้ว หากใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวข้น นอกจากจะทำให้หน้ามันมากขึ้นแล้ว ยิ่งทำให้ผิวหน้าเสี่ยงต่อการอุดตันได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย
5. ไม่ล้างหน้ามันบ่อยจนเกินไป
ก็จริงที่ว่าการล้างหน้าเป็นการลดหน้ามันเยิ้ม ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าออกไปได้ แต่ในทางกลับกันการที่ล้างหน้าบ่อยเกินไป เพื่อหวังที่ขจัดน้ำมันเหล่านี้ กลับยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น เพราะเมื่อล้างหน้าถี่เกินไป จะทำให้น้ำมันธรรมชาติบนใบหน้าหายไป ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ต่อมไขมันใต้ผิวหนังจึงยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
6. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้ามัน
หลายคนกลับมีความเชื่อที่ผิดที่ว่า หากหน้ามันแล้วนั้น ไม่ควรที่จะทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเข้าไปอีก เพราะจะทำให้หน้ามันเยิ้มมากยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น อาจเป็นเพราะผิวกำลังขาดความชุ่มชื้นอยู่ก็เป็นไปได้ จึงผลิตน้ำมันออกมาบนผิวหน้ามากขึ้น ดังนั้นแม้จะมีสภาพผิวหน้ามัน ก็จำเป็นต้องบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่อาจจะต้องเหลือผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาเข้ากับผิว
7. ผลัดเซลล์ผิวหน้ามันด้วย AHA และ BHA
กรดธรรมชาติอย่าง AHA BHA นั้นมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไปได้ เท่านั้นยังไม่พอยังช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า และควบคุมความมันได้อย่างดี ดังนั้นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ควรผลัดเซลล์ผิวหน้ามันด้วย AHA และ BHA บ้าง
8. ใช้กระดาษซับหน้ามันระหว่างวัน
กระดาษซับมันเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้หน้าหายมันได้ดี โดยเฉพาะหน้ามันระหว่างวัน เพราะกระดาษซับมันสามารถพกพาไปไหนมาไหนระหว่างวันได้อย่างสะดวกสบาย ถึงแม้กระดาษซับมันจะไม่ได้เป็นวิธีลดหน้ามันได้ตั้งแต่ต้นตอ แต่ก็ช่วยกำจัดน้ำมันชั่วคราว ได้แบบเร่งด่วน ระหว่างวัน
9. ปกป้องผิวหน้ามันด้วยครีมกันแดด
อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจของผิว เพราะภายในผิวเต็มไปด้วยรังสี UV ที่จะเข้ามาทำร้ายผิว ทำให้ผิวหน้ายิ่งเสียความชุ่มชื้น ต่อมไขมันจึงยิ่งถูกกระตุ้นให้หลั่งน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากขึ้น ดังนั้นการทาครีมกันแดดนอกจากไม่ทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นไปแล้วนั้น ยังป้องกันไม่ให้ผิวหน้า หมอง คล้ำ อีกด้วย
10. มาส์กหน้าดูดซับความมัน
การมาสก์หน้าไม่เพียงแต่มีข้อดีในการเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหน้ามันดูผิวหน้าอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดีเท่านั้น แต่ในส่วนผสมของมาส์กบางตัวสามารถช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าไปได้ เช่น มาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของถ่าน มาสก์หน้าที่มีส่วนของชาโคล มาสก์หน้าที่มีส่วนของโคลน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาหน้ามัน : ขั้นตอนการลงสกินแคร์
ป้องกันการเกิดหน้ามัน
ไม่ได้มีเพียงแค่ 10 วิธีแก้ผิวมัน แต่ยังมีวิธีการที่ช่วยลดหน้ามันตั้งแต่ต้นตอ ด้วยการใช้หัตถการ และนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์เข้ามาร่วมด้วย เพื่อลดปัญหาที่ทำให้เกิดหน้ามันตั้งแต่สาเหตุ
- ใช้ยาทาภายนอกยาทาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามิน เอ หรือ Retiniods มีคุณสมบัติในการรักษาสิวได้ดีที่สุด จึงช่วยกำจัดปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวต่าง ๆ ตั้งแต่การลดหน้ามัน ลดการอุดตัน ลดการอักเสบของผิว
- รับประทานยาการเลือกรับประทายาโดยเฉพาะกลุ่มของกรดวิตามิน เอ จะมีฤทธิ์ในการกดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง เช่น ไอโซเตรติโนอิน (isotretinoin) หรือ เรติโนอิก แอซิด (retinoic acid) Roaccutane® (โรแอคคิวเทน) Isotane® (ไอโสเทน) Sotret® (โสเตรส) เป็นต้น
- รักษาด้วย BotoxBotox เป็นสารอีกหนึ่งที่เมื่อฉีดในปริมาณเล็กน้อยเข้าไปสู่ผิวหนัง จะช่วยทำให้ต่อมไขมัน ถูกยับยั้งการทำงานของต่อมใต้ไขมันลง จึงเป็นวิธีแก้หน้ามันได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
- เลเซอร์ลดความมันเลเซอร์ที่ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันมีอยู่หลากหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือเลเซอร์ Smoothbeam Laser เมื่อยิงเข้าไปสู่ผิวจะลงลึกไปถึงชั้นที่มีต่อมไขมัน ทำให้ต่อมไขมันค่อย ๆ ฝ่อตัวลง
- รักษาด้วย Thermageเป็นอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ลงไปในชั้นผิว ที่สามารถลงไปได้ลึกถึงชั้นที่มีต่อมไขมัน ดังนั้นนอกจะช่วยกระชับใบหน้า ลดไขมันบนใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในโครงสร้างผิว ยังทำให้ต่อมไขมันฝ่อตัวลง
- ปรึกษากับแพทย์ผิวหนังไม่ว่าจะเลือกวิธีแก้หน้ามันด้วยวิธีการรับประทายา ทายา หรือทำหัตถการ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงจำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผิวหนัง เพื่อวางแผนการรักษาหน้ามันได้อย่างเหมาะสม
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาหน้ามัน : วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง
หน้ามันควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมอะไร
ยังที่ Bioderma ย้ำเตือนบ่อย ๆ ว่า ต่อให้หน้ามันเพียงใด ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังก็จำเป็นต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่สม่ำเสมอ
ส่วนผสมที่ควรเลี่ยงสำหรับคนหน้ามัน ได้แก่
-
กรดโอเลอิก (Oleic acid)เป็นส่วนผสมที่พบมากในออยล์ทาผิว แต่ส่วนผสมชนิดนี้ยิ่งทา ยิ่งเพิ่มแนวโน้มให้น้ำมันเกาะอยู่บนผิวมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดผิวมันเหนียวเหนอะ และเกิดการอุดตันในรูขมขนได้มาก
-
ปิโตรเลียมเจลลี่ (Petroleum Jelly)ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบชนิดนี้ ยิ่งทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความเข้มข้นมาก เพิ่มความมัน และเพิ่มการอุดตันในผิว เสี่ยงเกิดสิว และรูขุมขนกว้างได้
- แอลกอฮอล์ (Alcohol)สารชนิดนี้มีส่วนทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และแห้ง จากน้ำมันธรรมชาติที่เคลือบผิวอยู่ ทำให้ต่อมไขมันยิ่งเร่งผลิตน้ำมันออกมาบนผิวหน้ามากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาหน้ามัน : หน้ามันใช้อะไรดี
สิ่งสำคัญเลยสำหรับคนผิวหน้ามันนั้น คือจำเป็นต้องเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหนียวเหนอะหนะ จะยิ่งทำให้ผิวมันมากยิ่งขึ้น และเสี่ยงการอุดตันในรูขุมขนนั่นเอง
กระดาษซับมันนั้นดีไหม สำหรับคนหน้ามันแล้วนั้น แม้กระดาษซับมันจะไม่ได้ช่วยทำให้หน้าหายมันไปได้ถาวร แต่กระดาษซับมันก็ช่วยทำให้หน้าหายมันระหว่างวันไปได้
แต่ในการใช้งานจำเป็นต้องใช้กระดาษซับมันค่อย ๆ ซับตามผิวหน้า เลี่ยงที่จะถู หรือเสียดสีผิวแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง และการซับมันบ่อย ๆ ยิ่งเร่งให้ผิวผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้นได้
ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบใดก็ตาม จำเป็นต้องทามอยเจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้คงอยู่ในผิวให้ได้นานที่สุด เพราะหนึ่งในเหตุผลที่ใบหน้ามันได้อาจจะเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ผิวจึงเร่งผลิตน้ำมันเคลือบผิวมากขึ้น
อ่านเกี่ยวกับปัญหาผิวอื่น ๆ : หน้าแก่
ข้อสรุปของปัญหาหน้ามัน
จะเห็นได้ว่าสภาพผิวหน้ามันนั้น นอกจะทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายผิวแล้ว ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะปัญหาสิวชนิดต่าง ๆ นั้นเอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหมั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และคอยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า พร้อมควบคุมความมันด้วยวิธีลดความมันต่าง ๆ ก็ช่วยลดปัญหาผิวต่าง ๆ ไปได้มาก
