Key Takeaway

  • ปัจจัยที่ทำให้เกิดหน้ามัน เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม สภาพอากาศ และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
  • 10 วิธีแก้หน้ามัน เช่น ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ใช้โทนเนอร์ที่ควบคุมความมัน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือเรตินอล
  • วิธีแก้หน้ามันแบบธรรมชาติ เช่น ดื่มน้ำมากๆ นอนหลับให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า และไม่ดื่มแอลกอฮฮล์

     


เชื่อว่าใครๆ ล้วนอยากมีผิวหน้าสุขภาพดี ไม่มีปัญหาผิวกวนใจ แต่สำหรับใครหลายคนก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาผิว โดยเฉพาะปัญหาหน้ามันเยิ้ม หน้ามันเป็นสิว ไปจนถึงหน้ามัน รูขุมขนกว้าง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาผิวที่สร้างความลำบากใจอยู่ไม่น้อย เพราะผิวหน้ามันมากกว่าปกติ นอกจากจะทำให้หน้าเยิ้ม แต่งหน้าไม่ติดทน แถมยังดูหมองคล้ำไม่กระจ่างใสและนำมาซึ่งปัญหาสิวอีกด้วย แต่ปัญหาหน้ามันใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ ลองมาดู 10 วิธี แก้หน้ามันและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่คนหน้ามันใช้ดีกันเลยดีกว่า!

หน้ามัน (Oily face หรือ Oily skin) คือ ปัญหาผิวที่เกิดจากการผลิตน้ำมัน (Sebum) บนผิวหน้ามากเกินไป จนทำให้ผิวดูมันเยิ้ม เกิดจากการทำงานผิดปกติของต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป บนผิวหน้าของเรา ต่อมไขมันจะทำหน้าที่ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ให้หน้าแห้งจนเกินไป แต่ในบางครั้งอาจมีปัจจัยต่างๆ ที่มากระตุ้นทำให้ผิวหน้ามันมากกว่าปกติได้ เช่น

  • หน้ามันจากกรรมพันธุ์ สภาพผิวสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ หากคนในครอบครัวมีลักษณะผิวมัน ก็มีโอกาสสูงที่สมาชิกในครอบครัวจะมีผิวมันเช่นกัน
  • หน้ามันจากฮอร์โมน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ระดับฮอร์โมนเพศชาย เช่น ฮอร์โมน DHT จะสูงขึ้น ซึ่งกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันในผิวหน้า ทำให้บางคนมีปัญหาผิวมันมากขึ้น
  • หน้ามันจากสภาพอากาศ สภาพอากาศก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดหน้ามัน โดยเฉพาะในอากาศร้อน ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อและน้ำมันจากผิวหน้า ทำให้หน้ามันและเกิดสิวได้
  • หน้ามันจากการดูแลผิวหน้าไม่ถูก เช่น การล้างหน้าบ่อยเกินไป ผลัดเซลล์ผิวหน้าบ่อยเกินไป หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว รวมไปถึงการปล่อยให้ผิวหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากขึ้น เป็นต้น
  • การจับหรือสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ หรืออารมณ์ความเครียดก็ทำส่งผลให้หน้ามันได้เช่นกัน

ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวหน้ามันเยิ้มมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขุนกว้างหรือสิวอุดตันที่อาจกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด

 

หน้ามัน มีอาการผิวขาดน้ำด้วยได้ไหม? 

สภาพผิวทุกสภาพผิวไม่ว่าผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ก็สามารถเกิดภาวะผิวขาดความชุ่มชื้นได้ทั้งนั้น ซึ่งอาจจะเกิดจากปัจจัยแวดล้อมภายนอกอย่าง สภาพอากาศ มลภาวะ เป็นต้น 

แม้ผิวมันจะมีน้ำมันเคลือบอยู่มาก แต่ผิวอาจขาดน้ำ ทำให้ผิวแห้งกร้าน เหี่ยวย่น และไม่เต่งตึง เนื่องจากขาดความชุ่มชื้นในชั้นผิว

การทำความสะอาดผิวหน้าที่บ่อยมากเกินไป เพราะหน้ามันเยิ้มระหว่างวัน หรือทำความสะอาดผิวหน้าแบบผิดวิธี อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรงนั้น ไม่ได้ช่วยกำจัดน้ำมันบนใบหน้า แต่กลับทำให้ผิวระคายเคืองและแห้งยิ่งขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป

วิธีแก้หน้ามันมีหลายวิธี ซึ่งสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้
 

1. ล้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ

การล้างหน้าให้สะอาดหมดจดทุกวันช่วยลดหน้ามันได้ โดยการล้างหน้าที่แนะนำที่สุดคือ การล้างหน้า 2 ขั้นตอน (Double Cleansing) ที่จะทำความสะอาดผิวหน้ารอบแรกด้วยคลีนซิ่ง ช่วยเช็ดเครื่องสำอางสิ่งสกปรก แล้วตามด้วยการล้างด้วยเจลล้างหน้าสูตรควบคุมความมัน อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว เพื่อช่วยทำความสะอาดผิวให้หมดจดจากคราบสิ่งสกปรก
 

2. ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าเพื่อลดความมัน

หลังจากล้างหน้าเสร็จ รูขุมขนจะเปิดพร้อมรับการบำรุงเต็มที่ ในขั้นตอนนี้อย่าปล่อยทิ้งไว้ให้ผิวหน้าแห้ง เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น ให้รีบใช้โทนเนอร์ที่เนื้อบางเบาและไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว ทาเบาๆ หรือใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้กับผิว พร้อมเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป
 

3. เลือกใช้เจลล้างหน้าสำหรับคนผิวมัน

ผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้า ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ เพราะเจลล้างหน้าจะไม่ทำให้ผิวตึงเอี๊ยดหลังล้างหน้าและสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด รวมถึงมีส่วนช่วยในการคงสมดุลของค่า pH บนใบหน้า จึงเหมาะมากสำหรับคนหน้ามันเป็นสิว รวมถึงผิวที่บอบบางแพ้ง่ายด้วย
 

4. ซับผิวหน้าด้วยผ้าสะอาด

ไม่เพียงแค่ขั้นตอนในการทำความสะอาดเท่านั้น แต่ควรใส่ใจไปจนถึงขั้นตอนเช็ดผิวหน้าด้วยเช่นกัน เพราะถือได้ว่าการเช็ดหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีลดหน้ามันที่คาดไม่ถึง โดยควรเลือกใช้ทิชชูสำหรับเช็ดหน้าหรือผ้าขนหนูเนื้อนุ่มซับเบาๆ เพื่อลดการเสียดสีที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองและไม่ควรกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกิน ควรใช้มือเบาๆ ระหว่างการเช็ดหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดที่มากเกินไป 
 

5. แก้หน้ามันด้วยมาสก์หน้าเพิ่มความชุ่มชื้น

มาสก์หน้าสำหรับคนหน้ามันรูขุมขนกว้างใช้อะไรดี? ที่จริงแล้วการมาสก์หน้าเป็นการลดความมันบนใบหน้าได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่หน้ามัน รูขุมขนกว้าง และหน้าแห้งขาดน้ำ ดังนั้นการมาสก์หน้าทุกวันจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำและมีความสมดุลมากขึ้น
 

6. ใช้กระดาษซับหน้ามันระหว่างวัน

กระดาษซับมันเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าออกไปได้ โดยใช้กระดาษซับมัน ซับตามบริเวณทีโซน (T-ZONE) ได้แก่ บริเวณหน้าผาก คาง และ จมูก ประมาณ 15-20 วินาที หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษซับมันแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคือง และไม่ควรถูใบหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ความมันบนใบหน้าสูญเสียสมดุลได้
 

7. เติมความชุ่มชื้นด้วยครีมทาหน้าบำรุงผิวมัน

นอกจากการบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์หรือมาส์กหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้นแล้ว ควรทาครีมบำรุงเพื่อช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวได้นานขึ้น แต่ควรระวังการใช้ครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะอาจทำให้ผิวหน้ามันมากขึ้นและเกิดสิวตามมาได้
 

8. ผลัดเซลล์ผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

การผลัดเซลล์ผิวเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้หน้ามันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสครับหน้าหรือการใช้กรดจากผลไม้ โดยจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วและช่วยให้หน้าสะอาดกระจ่างใสมากขึ้น ซึ่งเป็นการลดการอุดตันในรูขุมขนและการเกิดสิวได้ สำหรับคนหน้ามันควรเลือกใช้ BHA ในการผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากเป็นกรดที่สามารถละลายในไขมันได้ดี ช่วยควบคุมความมันและปรับรูขุมขนให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น
 

9. หลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามัน

การทาครีมกันแดดในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับทุกสภาพผิว แต่สำหรับคนที่มีผิวหน้ามันอาจเจอกับปัญหาหน้าเยิ้มระหว่างวัน จึงควรเลือกใช้ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ที่ทาแล้วไม่เป็นคราบขาวและช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ยาวนาน เช่น Photoderm AKN MAT SPF30 หรือ Photoderm Cover Touch SPF50+ เป็นต้น
 

10. ใช้ยาแก้ปัญหาหน้ามัน

การใช้ยาแก้ปัญหาหน้ามันมักเป็นการใช้ยาที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดบางชนิดที่มีผลในการลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน หรือยาที่มีส่วนผสมของยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Antiandrogens) เช่น ไซโปรเทอโรน ซึ่งช่วยลดการกระตุ้นของฮอร์โมนที่ทำให้หน้ามันได้

เราสามารถแก้ปัญหาหน้ามันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมบางประการ เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้าและช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ดังนี้
 

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว และป้องกันไม่ให้ผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป เพื่อชดเชยความแห้งกร้าน เมื่อผิวขาดน้ำก็จะกระตุ้นการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ซึ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นจากภายใน ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าได้
 

เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ฮอร์โมนทำงานได้อย่างสมดุล ซึ่งคนหน้ามันควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน อาหารที่มีรสหวาน เพราะอาหารเหล่านี้มีผลทำให้ร่วงกายผลิตน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วย
 

นอนหลับให้เต็มอิ่ม 

การนอนหลับให้เต็มอิ่มหมายถึงการนอนประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน โดยควรนอนในที่เงียบสงบและมีอุณหภูมิที่สบาย เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและปรับสมดุลฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อฮอร์โมนต่างๆ เช่น ฮอร์โมนเพศชาย (DHT) ที่กระตุ้นการผลิตน้ำมันในผิวหน้าได้รับการควบคุมได้ดี จะช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้ามันน้อยลง
 

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปยังทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันบนใบหน้า การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์จึงช่วยให้ผิวไม่ผลิตน้ำมันมากเกินไป และลดหน้ามันได้
 

หลีกเลี่ยงความเครียด

ความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่าคอร์ติซอล ซึ่งสามารถกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น การจัดการกับความเครียดจึงช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า และช่วยให้หน้ามันน้อยลงได้
 

ลดการสัมผัสใบหน้า

หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เช่น การแตะหรือการลูบหน้า เพราะจะทำให้น้ำมันและสิ่งสกปรกจากมือเข้าสู่ผิวหน้า กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น การลดการสัมผัสใบหน้าจึงช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและลดความมันได้
 

ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าสำหรับคนหน้ามัน

  1. ล้างหน้าให้สะอาด แต่ก็ไม่ล้างบ่อยจนเกินไป
  2. เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และช่วยลดความมันบนผิวได้
  3. ใช้ครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ
  4. ผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  5. ใช้กระดาษซับมันบ้างระหว่างวัน
  6. พยายามไม่แคะ แกะ เกา รบกวนผิว
  7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ในกรณีที่มีปัญหาผิวอื่นๆ เพิ่มเติม
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนักๆ และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ว่าจะน้ำตบ โทนเนอร์ เซรั่ม ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวหน้า
  • ใช้กระดาษซับมัน หรือแป้งที่มีคุณสมบัติดูดซับความมัน ซึ่งเป็นการแก้ไขหน้ามันเฉพาะหน้า ต้องใช้การดูแลรักษาจากต้นเหตุที่แท้จริงควบคู่ไปด้วย
  • ดื่มน้ำให้เพีงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะจะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น
  • กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน นม และอาหารน้ำตาลสูง เพราะมีส่วนทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้ผิวหน้าอักเสบได้
  • ใช้ครีมกันแดด หรือสเปรย์กันแดดที่มีส่วนผสมของ Zinc ช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้า
     

วิธีเลือกส่วนผสมและผลิตภัณฑ์สำหรับคนหน้ามัน

วิธีลดหน้ามัน รวมไปถึงปัญหาผิวอย่างสิวขึ้นและรูขุมขนกว้างนั้น ต้องทำควบคู่กันทั้งการทำความสะอาดและการบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว โดยจะต้องชำระล้างความมันและสิ่งสกปรกให้หมดจดและเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยลดความมันบนใบหน้าได้
 

เลือกส่วนผสมที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า

หลายคนที่เผชิญกับปัญหาหน้ามันอาจไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไหนดี ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนช่วยในการควบคุมความมันบนผิวหน้าได้ มาดูกันว่าส่วนผสมใดบ้างที่เหมาะสำหรับคนหน้ามัน

  • เรตินอล (Retinol) ริ้วรอย สารสกัดจากวิตามิน A ที่ช่วยลดหน้ามันโดยการเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ลดการอุดตันของรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้ามีความสมดุลมากขึ้น ทำให้ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้ และยังช่วยลดริ้วรอย
     
  • กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ลดรอยสิว คือสารสกัดจากอ้อยที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวมีความสมดุล  ลดหน้ามัน และยังช่วยลดรอยสิวได้
     
  • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) คือสารสกัดจากวิตามินบี 3 ที่ช่วยบำรุงผิว ปรับสมดุลการผลิตน้ำมัน ลดการอักเสบ และช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
     
  • กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ผิวชุ่มชื้น คือสารธรรมชาติที่พบในร่างกาย ช่วยกักเก็บน้ำในผิว ช่วยลดหน้ามันด้วยการทำให้ผิวชุ่มชื้น โดยไม่เพิ่มน้ำมันส่วนเกิน ช่วยให้ผิวสมดุลและลดการผลิตน้ำมันจากผิวได้
     
  • กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) คือสารสกัดจากเปลือกวิลโลว์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินที่อุดตันในรูขุมขน ลดความมันและป้องกันการเกิดสิว
     
  • ซิงค์ กลูโคเนต (Zinc gluconate) คือสารสกัดจากสังกะสีที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า ลดการเกิดสิวและช่วยปรับสมดุลผิวให้ดูสุขภาพดี

หากเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวหน้าก็เป็นหนึ่งในวิธีแก้หน้ามันได้ ทั้งยังช่วยซ่อมแซมผิวให้แข็งแรง และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่มีค่าความอุดตันสูง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาหน้ามันเป็นสิวได้ โดยผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับคนหน้ามัน มีดังนี้
 

1. คลีนซิ่ง Bioderma Sebium H2O

คลีนซิ่ง Bioderma สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวผสมและผิวมัน โดยเฉพาะในบริเวณ T-Zone ที่มีความมันมากและมีโอกาสเกิดสิวได้ง่าย คลีนซิ่งไมเซล่า วอเตอร์ โครงสร้างคล้ายคลึงกับผิว สามารถความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน ขจัดคราบเครื่องสำอางล้ำลึกโดยไม่ทำร้ายปราการผิว ด้วยส่วนผสมของ Zinc gluconate และ Copper Sulfate ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าและลดการสะสมของแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดสิว มาพร้อม DAFTM PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma ช่วยลดผิวระคายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว
 

2. เจลล้างหน้า Bioderma Sebium Gel Moussant

เจลล้างหน้าลดหน้ามัน ไกลสิว ผิวไม่แห้งตึง สามารถชำระล้างทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด  มีความอ่อนโยนต่อผิวโดยปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน ด้วยส่วนผสมของ Copper Zinc Complex ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและความมันบนใบหน้า พร้อมสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba leaf extract) ช่วยปลอบประโลมผิวระคายให้รู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น
 

3. ครีมทาหน้า Bioderma Sebium Pore Refiner

ครีมทาหน้าบำรุงผิวสำหรับคนผิวมันและผิวผสมที่มีความบางเบา สามารถทาได้ทั่วใบหน้าและบริเวณ T-Zone มีส่วนผสมของ Mattifying Powder ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า พร้อม Fomes Officinalis สารสกัดจากเห็ดที่ช่วยให้รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น และส่วนผสมของ BHA (Salicylic Acid) ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ทำให้ผิวระคาย พร้อมเสริมปราการผิวให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

สรุป

ปัจจัยที่ทำให้เกิดหน้ามัน ได้แก่ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง สภาพอากาศร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม และการขาดน้ำในผิวหน้า ส่วนวิธีแก้หน้ามัน ได้แก่ การเลือกสกินแคร์ที่ควบคุมความมัน ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับให้เต็มอิ่ม หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ใช้โทนเนอร์และครีมบำรุงที่เหมาะสม รวมถึงการใช้สารสกัดที่ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว เช่น เรตินอลและกรดไกลโคลิก

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหน้าถึงมันและจะดูแลอย่างไรให้เหมาะสม วันนี้เราจะมาพูดถึงคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับหน้ามัน เพื่อให้สามารถดูแลและป้องกันการเกิดหน้ามันได้อย่างถูกวิธี

หน้ามันเกิดจากการที่ต่อมไขมันบนใบหน้าผลิตน้ำมัน (Sebum) ออกมามากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ความเครียด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับผิว

สำหรับหน้ามัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารควบคุมความมัน เช่น ไนอะซินาไมด์ กรดซาลิไซลิก หรือซิงค์ ซึ่งช่วยควบคุมความมันและลดการอุดตันของรูขุมขนได้ยาวนาน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง

วิธีแก้หน้ามันแบบธรรมชาติ ได้แก่ การดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เครียด และไม่สัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น

เมื่อผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ร่างกายจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันและเหงื่อออกมาเพื่อรักษาสมดุลความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ใบหน้ามีน้ำมันมากกว่าปกติ

สามารถใช้กระดาษซับมันเพื่อซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า หรือใช้โทนเนอร์ที่ช่วยกระชับรูขุมขนและควบคุมความมันได้ทันที เพื่อให้ผิวดูสดชื่นและไม่มันระหว่างวัน

การทำความสะอาดผิวหน้าที่บ่อยมากเกินไป หรือทำความสะอาดผิวหน้าแบบผิดวิธีไม่ใช่วิธีการแก้หน้ามันที่ถูกต้อง อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรงนั้น ไม่เพียงไม่ช่วยกำจัดน้ำมันบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังคงทำให้ผิวแห้ง ระคายผิวมากกว่าปกติ ทำให้ผิวยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป

พาส่อง วิธีการล้างหน้าที่ถูกต้องที่ห้ามพลาด! ในบทความนี้ : วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง สะอาด ไกลสิว พร้อมสำหรับการบำรุง

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวผสมถึงผิวเป็นสิวง่าย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม

ผิวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เนื่องจากผิวจะมีความหนามากขึ้น มันเงา เกิดสิวอักเสบเป็นจุดมากน้อยแตกต่างกันไป และบางครั้งก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวมันและเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีเบี่ยม (Sébium) มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำโดยเฉพาะ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับผิวมัน อย่างเจลล้างหน้าและไมเซล่า วอเตอร์ มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวเป็นสิวง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!