กระ และจุดดำบนหน้า ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวกวนใจที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนบนใบหน้าไม่แพ้ปัญหาผิวเป็นสิวเลย อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่บำรุงผิวด้วยสกินแคร์อย่างดีแต่ก็ยังมีปัญหากระและจุดดำบนหน้าเกิดขึ้นได้ หากใครอยากรู้ว่าปัญหาจุดดำเล็ก ๆ บนหน้าแบบนี้คืออะไร เกิดจากอะไร และจะป้องกันอย่างไรได้บ้าง มาติดตามกันต่อในบทความนี้เลย 

 

ปัญหากระ จุดดำบนหน้า คืออะไร_Bioderma

ปัญหากระ จุดดำบนหน้า คืออะไร?

จุดดำบนหน้า (Hyperpigmentation) คือ จุดหรือรอยที่เกิดขึ้นบริเวณของผิวหนัง โดยจะเป็นจุดที่มีสีเข้มกว่าสีผิวปกติ สามารถพบได้ในแทบทุกสีผิวทั้งผิวขาว ผิวขาวเหลือง หรือผิวสองสี ซึ่งมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของจุดดำ ได้แก่ 

  • กระ (Freckle) คือ จุดดำบนผิวที่เกิดจากเม็ดสีเมลานิน (Melanin pigment) ทำงานผิดปกติ พบมากตามใบหน้า ลำคอ หรือส่วนต่างๆ ของร่างกายที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อย ๆ ซึ่งกระอาจมีแบ่งออกได้หลายชนิด ได้แก่
  • กระตื้น จุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน มีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร มักพบมากบริเวณใบหน้าที่สัมผัสแสงแดดโดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวขาว
  • กระลึก มีลักษณะเป็นจุดเล็กสีน้ำตาลเข้ม อมเทาดำ ขนาด 2-3 มิลลิเมตร มักพบมากบริเวณโหนกแก้มและจมูก โดยสีของกระลึกจะค่อย ๆ เข้มขึ้นตามอายุ
  • กระแดด มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ขนาด 0.3-2 เซนติเมตร เกิดจากการที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดบ่อย ๆ และอายุที่มากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปกระชนิดนี้อาจขยายใหญ่และนูนขึ้นได้ 

 

  • ฝ้า (Melasma) คือ รอยปื้นสีน้ำตาลที่มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า กระจายเป็นวงกว้างและมีขอบเขตของรอยปื้นที่ไม่ชัดเจน เกิดจากผิวผลิตเมลานินหรือเม็ดสีออกมามากเกินไป โดยมีปัจจัยกระตุ้น คือ แสงแดด หรือฮอร์โมนในร่างกาย มักพบบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก แก้ม จมูก ที่ถูกแสงแดดสัมผัสเป็นประจำและจะมีมากขึ้นเมื่ออายุ 30-40 ปี 

ปัญหากระ จุดดำบนหน้า เกิดจากอะไร?

จุดดำบนหน้า ฝ้าและกระชนิดต่าง ๆ เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังมากกว่าปกติ โดยมีปัจจัยหลัก คือ “แสงแดด” เป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดจุดดำบนหน้า รวมถึงแสงจากไฟ หน้าจอมือถือ หรือจอสมาร์ทโฟนก็ส่งผลให้เกิดจุดดำบนหน้าได้เช่นเดียวกัน ซึ่งปกติแล้วผิวหนังของเราจะผลิตเมลานินออกมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ แต่เมื่อเราต้องตากแดดและเผชิญกับรังสี UV เป็นเวลานาน จึงกระตุ้นให้ผิวสร้างเมลานินมากขึ้นและภาวะไฮเปอร์พิกเมนเทชั่น (Hyperpigmentation) ที่ทำให้เกิดจุดดำบนหน้าตามมา ดังนั้น การใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการเกิดกระ ฝ้า และปัญหาจุดดำบนหน้าที่มีสาเหตุมาจากแสงแดดได้ 

 

4 วิธีเลือกครีมกันแดดทาหน้า ป้องกันกระ จุดดำบนหน้า

การเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวของเราจากรังสี UV ที่ส่งผลให้เกิดปัญหากระและจุดดำบนใบหน้านั้นไม่เพียงแต่ต้องเลือกจากค่า SPF สูงเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาคุณสมบัติของครีมกันแดดที่มีความเหมาะสมกับสภาพผิวและส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อผิวด้วย ดังนี้

 

1. เลือกครีมกันแดดทาหน้าตามประเภท

ครีมกันแดดทาหน้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งมีกลไกการป้องกันแสงแดดและรังสี UV ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

  • ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical) มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสี UV มักมีส่วนผสมของ PABA (Para-Aminobenzoic Acid), Cinnamates Benzophenones หรือ Ecamsules เป็นต้น ซึ่งมีความคงทนต่อแสงแดดอยู่ในระดับดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และบางเบา แต่อาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายหรือแพ้ได้ง่าย
  • ครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical)  ปกป้องผิวด้วยการสะท้อนแสง UV ออกไป มีส่วนผสมของ Zinc Oxide (ZnO) หรือ Titanium Dioxide (TiO2) ที่สามารถคงทนต่อแสงแดดและสามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดี 
  • ครีมกันแดดแบบผสม (Hybrid) มีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ผสมผสานกันระหว่างครีมกันแดดแบบเคมีและแบบกายภาพ บางสูตรอาจมีการผสมรองพื้นหรือสารที่ทำให้ผิวเรียบเนียน สามารถป้องกันแสงแดดได้ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีเนื้อสีที่เข้ากับผิวได้ดี

 

2. เลือกครีมกันแดดทาหน้าให้เหมาะกับผิว

สำหรับใครที่อยากป้องกันกระ หรือจุดดำบนหน้าแต่กลับมีปัญหาผิวอื่น ๆ กวนใจ ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม ซึ่งครีมกันแดดทาหน้าบางประเภทอาจไม่เหมาะสมกับสภาพผิว จึงแนะนำให้เลือกครีมกันแดดทาหน้าที่มีเนื้อครีมเหมาะกับผิวของตนเอง เช่น 

  • เนื้อครีม เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง 
  • เนื้อเจล เหมาะสำหรับคนผิวมัน 
  • เนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับคนเป็นสิวง่าย 

 

3. เลือกครีมกันแดดทาหน้าจากส่วนผสม

ครีมกันแดดทาหน้าบางสูตรอาจมีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันกระและจุดดำบนใบหน้าได้ เช่น Ectoin หรือ Extremolytes เป็นสารสกัดชีวโมเลกุลในรูปแบบอนุพันธ์กรดอะมิโนที่สกัดจากจุลินทรีย์ Halomonaselongata ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายด้วย UVA รวมถึง Mannitol ที่มีประโยชน์ต่อผิวในการลดการแพ้และการระคายผิว จึงช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและต้านทานอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น 

 

4. เลือกครีมกันแดดทาหน้าที่มี SPF สูง

ครีมกันแดดทาหน้าที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแดดสูงควรมีค่า SPF ตั้งแต่ 30 + ขึ้นไป  โดยเฉพาะหากต้องออกกลางแจ้งบ่อย ๆ ควรเป็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไปและมีค่า PA+++ เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB รวมถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ที่ยาวนานขึ้น 

 

ครีมกันแดดทาหน้า ป้องกันกระ จุดดำบนหน้า ยี่ห้อไหนดี?

ครีมกันแดดทาหน้าที่ช่วยป้องกันกระ จุดดำบนหน้า จาก Bioderma นอกจากจะมีค่า SPF สูงแล้วยังมี UV filter ประสิทธิภาพสูงและอ่อนโยนต่อผิว พร้อมส่วนผสมของ Ectoin และ Mannitol ที่ช่วยจัดการปัญหาเซลล์ผิวเสื่อม กระ จุดดำบนหน้าที่เกิดจากการถูกรังสี UV ทำร้าย

ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma : Photoderm Aquafluide SPF 50+

ครีมกันแดดทาหน้าเนื้อบางเบา SPF 50+ PA++++ เหมาะทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่ทำให้ผิวหน้ามันวาวและไม่เป็นคราบขาว ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB มาพร้อมสิทธิบัตร DAF™  (Dermatological Advanced Formulation) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวมีความต้านทานต่อมลภาวะได้ดีขึ้น

ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma  ป้องกันกระ จุดดำบนหน้าจากแสงแดด

 

 ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma : Photoderm Cover Touch SPF 50+

ครีมกันแดดทาหน้า SPF 50+ PA++++ เม็ดสีมิเนอรัล มีให้เลือก 2 สี  อ่อนโยนแต่ปกปิดรอยสิว รอยดำสูง 81% ยาวนานทั้งวัน (8 ชม.) *  เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมัน และผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป มาพร้อมเทคโนโลยี Sun Active Defense ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและปกป้องผิวเสื่อมจาก UVA ได้สูงถึง 84%** จัดการปัญหาเซลล์ผิวเสื่อมและจุดด่างดำ พร้อมสิทธิบัตร FLUIDACTIV™ ช่วยปรับคุณภาพซีบัมให้ลดความเหนียวข้น ไม่อุดตัน และลดความมันบนใบหน้า 

* ผลการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่าง 31 คนที่มีผิวผสม-ผิวมันจำนวน 28 วัน

** ผลการวิจัยในอาสาสมัคร 20 คน ปี 2021 Eurofins Dermscan 20E0976/ Poland 2021

ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma สำหรับผิวผสม ผิวมัน และผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย

 

สำหรับใครที่อยากหน้าเนียนใส ไกลปัญหากระ จุดดำบนหน้า รวมถึงฝ้าที่เกิดจากแสงแดด ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้ในวันที่ไม่ได้ออกไปกลางแจ้ง เพื่อปกป้องผิวจากแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แถมยังช่วยปกป้องผิวจากสาเหตุการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยผิวดูใส และไม่หมองคล้ำง่ายอีกด้วย

BIODERMA Photoderm Aquafluide SPF50+ ครีมกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตัน สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

ปกป้องผิวทั่วไป

ผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร SUN ACTIVE DEFENSE

Photoderm Aquafluide SPF50+ (Invisible)

ครีมกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตัน สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

ปกป้องผิวทั่วไป

ผิวผสมถึงผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย การแพ้ฟิลเตอร์ที่เป็นเคมี

สิทธิบัตร SUN ACTIVE DEFENSE

Photoderm COVER Touch MINERAL SPF50+ light

ครีมกันแดดสีเนื้อ ปกปิดรอยสิว คุมมัน ลดโอกาสเกิดสิว

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Photoderm COVER Touch MINERAL SPF50+ very light ครีมกันแดดปกปิดขั้นสุด สูตรมิเนอรัลให้ผิวรู้สึกราวกับหายใจได้

ปกป้องผิวทั่วไป

ผิวผสมถึงผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย การแพ้ฟิลเตอร์ที่เป็นเคมี

สิทธิบัตร Fluidactiv™

Photoderm COVER Touch MINERAL SPF50+ very light

ครีมกันแดดปกปิดขั้นสุด สูตรมิเนอรัลให้ผิวรู้สึกราวกับหายใจได้

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น