วิธีการดูแลผิว
ผิวมัน เป็นสิว เริ่มต้นที่จุดไหนก่อนดี?
ผิวมัน ผิวเป็นสิว เป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนกำลังพบเจอ และไม่รู้จะเริ่มต้นจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี บทความนี้ Bioderma มีคำตอบให้!
ผู้ที่มีสภาพผิวมัน มักจะมีปัญหาสิวตามมาอยู่เสมอ เพราะว่าน้ำมันส่วนเกินบนผิวนั้นทำให้ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดตามผิวได้ง่าย ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน และก่อให้เกิดโอกาสในการเกิดสิวได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ที่มีสภาพผิวมันจึงต้องดูแล หมั่นทำความสะอาด และบำรุงผิวของตัวเองให้ดีกว่าผู้ที่มีสภาพผิวแบบอื่น ๆ ซึ่งหลายคนที่มีสภาพผิวมันก็อาจจะสงสัยว่าควรเริ่มต้นจากที่จุดไหนก่อนดี ดังนั้น ทาง Bioderma จึงได้รวบรวมขั้นตอนในการดูแลผิวของคนผิวมันมาให้ในบทความนี้แล้ว เพื่อที่จะได้เริ่มต้นดูแลผิวได้อย่างถูกวิธีมากที่สุด
1. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการ Doble Cleansing
การทำความสะอาดหน้า ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลผิวที่หลาย ๆ คนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าหากทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นสิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมัน เพราะมีฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดบนผิวได้ง่ายกว่าสภาพผิวแบบอื่น รวมถึงคราบครีมกันแดด และเครื่องสำอางที่อาจตกค้างบนผิว ดังนั้น การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการ Double Cleansing หรือการทำความสะอาดผิวหน้า 2 รอบ โดยใช้คลีนซิ่งในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเช็ดฝุ่น สิ่งสกปรก ครีมกันแดด และเครื่องสำอางออกไปก่อน และจึงค่อยล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อล้างทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ที่หลงเหลือจากการเช็ดคลีนซิ่งไปแล้ว ทำให้ได้ผิวหน้าที่สะอาดหมดจด ลดโอกาสในการอุดตันของรูขุมขน และลดโอกาสในการเกิดสิว แต่ว่าผู้ที่มีสภาพผิวมัน และเป็นสิว ควรเลือกใช้คลีนซิ่งและคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ดังนี้
Sensibio H2O Eye
Sensibio H2O Eye เป็นอายรีมูฟเวอร์ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานจักษุแพทย์ พร้อมผสานทั้ง 3 คุณค่าไว้ในขวดเดียวกัน ได้แก่
1. ช่วยเช็ดทำความสะอาด ด้วยสัดส่วนไมเซล่าและออยล์ 70:30 ทำให้ล้างเครื่องสำอางกันน้ำ หรือแบบที่ติดแน่นออกได้ง่าย ไม่ต้องถูแรงให้เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย ลบทุกสิ่งสกปรกได้อย่างหมดเกลี้ยง ไม่ทิ้งคราบ ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว ทำให้ไม่หนักหน้า ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
2. ช่วยบำรุง ด้วยโปรวิตามินบี 5 เสริมปราการผิวและบำรุงขนตาให้แข็งแรงขึ้น และช่วยคืนความชุ่มชื้นให้รอบดวงตาและริมฝีปาก ทำให้ขนตาไม่หลุดร่วง และแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งลอกอีกด้วย
3. ช่วยปลอบประโลม ด้วย FOS & สิทธิบัตร DAF ช่วยปลอบประโลมผิวแพ้ ทำให้รู้สึกสบายผิว และระคายผิวน้อยลงทันทีหลังใช้ (งานวิจัยความพึงพอใจ ในอาสาสมัคร 30 ราย) พร้อมปรับสภาพผิวให้ต้านทานมลภาวะได้ดียิ่งขึ้น
Sebium H2O
Sebium H2O เป็นคลีนซิ่ง สูตรไมเซล่า วอเตอร์ ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับผิว ทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน และช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก ครีมกันแดด และเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึก ไม่ทำร้ายปราการผิวมาพร้อมกับส่วนผสมของคอปเปอร์ซัลเฟต (Copper Sulfate) และ ซิงค์กลูโคเนต (Zinc Gluconate) ที่ช่วยลดความมันส่วนเกิน และลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และมี DAF PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว
Sebium Gel Moussant
Sebium Gel Moussant เป็นเจลล้างหน้าสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน และมีปัญหาสิว เพราะสามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด มีความอ่อนโยนต่อผิว มีค่า pH 5.5 ใกล้เคียงกับผิว ล้างแล้วผิวไม่แห้งตึง ปราศจากแอลกอฮอล์ และพาราเบน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ช่วยลดความมัน และลดโอกาสในการเกิดสิว ด้วย Copper Zinc Complex ซึ่งช่วยลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของปัญหาสิว และลดความมันบนใบหน้าหลังใช้ และสารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Leaf Extract) ที่ช่วยละผิวระคาย และมี DAF PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องสิว
ผู้ที่มีผิวมัน หรือผิวเป็นสิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องสิว เพราะมีเนื้อสัมผัสที่ไม่หนักเกินไป ไม่เสี่ยงต่อการอุดตัน หรือทิ้งความเหนอะหนะไว้ รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องสิว เช่น BHA AHA หรือ Zinc เป็นต้น เพราะว่าส่วนผสมเหล่านี้สามารถช่วยควบคุมความมัน และช่วยลดความมันส่วนเกินออกจากผิว นอกจากนี้ยังควบคุมสมดุล pH บนผิว ทำให้ผิวมีความมันน้อยลง ส่งผลให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน และโอกาสในการเกิดสิวน้อยลงตามไปด้วย โดยตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยเรื่องสิวได้ มีดังนี้
Sebium Lotion
Sebium Lotion เป็นน้ำตบที่ช่วยเรื่องสิวได้ ด้วยส่วนผสมต่าง ๆ ที่สามารถช่วยควบคุมความมัน และลดโอกาสในการเกิดสิวได้ ดังนี้
- Capryloyl Glycine ที่ช่วยควบคุมสมดุล pH ของผิว ทำให้โอกาสในการเกิดสิวน้อยลง
- Glycerin ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนานมากถึง 8 ชั่วโมง
- Zinc และวิตามินบี 6 ลดการผลิต Sebum ช่วยควบคุมความมันบนผิวได้
- Agaric Acid หรือสารสกัดจากเห็ด ที่ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนแลดูเล็กลง
- BHA มีหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น
นอกจากนั้นยังมี FLUDACTIV PATENT และ DAF PATENTED CONPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา ที่ช่วยปรับคุณภาพในการผลิตน้ำมันของผิว และช่วยลดความข้นหนืดของน้ำมันบนผิว ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนน้อยลง และช่วยลดปัญหาสิวที่สาเหตุ รวมถึงช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวมากขึ้น
3. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว
ถึงแม้จะผิวมัน หรือผิวเป็นสิว ก็ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ดูแลผิวด้วยเช่นกัน โดยเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว เช่น มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่หนักผิว ไม่ทิ้งความมัน หรือความเหนอะหนะไว้ และมีส่วนผสมในการช่วยบำรุงผิว และช่วยเรื่องสิว เพื่อช่วยปรับสมดุลผิวให้ดีมากขึ้น ช่วยควบคุมความมัน รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างสมดุล ส่วนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ควรเลือกใช้กับผิวมัน และผิวเป็นสิว คือแบบที่มีเนื้อสัมผัสที่หนัก ไม่สบายผิว เช่น เนื้อครีมที่มีความเข้มข้น หรือมีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้ทิ้งความมันวาว หรือความเหนอะหนะไว้ ทั้งยังมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับผิวของเราอีกด้วย ยิ่งส่งผลให้เกิดโอกาสในเสี่ยงต่อการอุดตัน และเป็นสิวเพิ่มขึ้นได้
Sebium Sensitive
Sebium Sensitive เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่สามารถใช้คู่กันกับยาสิวได้ มีเนื้อครีมที่บางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความมันวาวไว้บนผิว ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดียาวนานถึง 12 ชั่วโมงด้วยส่วนผสมของ Glycerin มาพร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยในเรื่องสิว เช่น Zinc Gluconate ที่ช่วยลดการผลิตน้ำมันในรูขุมขน Methyl Methacrylate Crosspolymer ที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน และได้รับสิทธิบัตร FLUDACTIV PATENT และ Bukuchiol ที่เป็น Seborestore Techonology ช่วยลดการหนืดตัวของไขมันในรูขุมขน และสิทธิบัตร DAF PATENTED COMPLEX และ INFLASTOP COMPLEX ปลอบประโลมผิว ลดการระคาย และช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงมากขึ้น
Sebium Pore Refiner
Sebium Pore Refiner เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า และให้ความแมตต์หลังทา มาพร้อมกับส่วนผสมที่ช่วยเรื่องสิว ไม่ว่าจะเป็น Mattifying Powder ที่ช่วยลดความมัน และดูดซับความมัน Fomes Officinalis Extract หรือสารสกัดจากเห็ดที่ช่วยกระชับรูขุมขนแลดูเล็ดลง AHA & BHA (Salicylic acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียน รวมถึงได้รับสิทธิบัตร FLUIDACTIV PATENT ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว และลดความข้นหนืดของน้ำมันในผิว ที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิวที่สาเหตุ และมี DAF PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของไบโอเดอร์มา ช่วยลดผิวระคาย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว
4. มาส์กหน้าเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน หรือผิวเป็นสิว มักจะมองข้ามการใช้ชีทมาส์ก เพราะคิดว่าจะทำให้ผิวเกิดการระคาย หรือสิวจะขึ้นมากกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงนั้นการใช้ชีทมาส์กที่เป็นสูตรเติมน้ำให้ผิว เช่น สูตร Moisture สูตร Hyaluronic Acid หรือชื่อสูตรอื่น ๆ ที่มีสรรพคุณในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สามารถช่วยปรับสภาพผิวของเราให้มีความอิ่มน้ำ มีความชุ่มชื้น ช่วยเติมน้ำให้ผิว และช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้ดีขึ้น ทำให้ผิวของเราไม่ผลิตน้ำมันออกมาจนมากเกินไป เพราะผิวมีความชุ่มชื้นมากพอแล้ว ส่งผลให้หน้ามันน้อยลง ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จับบนผิวหน้าได้ยากขึ้น ช่วยลดโอกาสในการอุดตันของรูขุมขน และช่วยให้โอกาสในการเกิดสิวน้อยตามลงไปด้วย
5. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
หลาย ๆ คนที่มีสภาพผิวมัน และผิวเป็นสิวจะต้องไม่ชอบทาครีมกันแดดอย่างแน่นอน เพราะว่ามีความเหนียว และเหนอะหนะทิ้งไว้ ทำให้รู้สึกว่าหนักผิว และผิวหน้าของเรามันกว่าเดิม และถึงแม้ว่าจะไม่ชอบ แต่ผู้ที่เป็นสิวผิวมันก็ต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA และรังสี UVB ที่สามารถทำลายผิวได้มากกว่าที่คิด และถ้าหากใครมีรอยสิว แต่ไม่ทากันแดดก็จะทำให้รอยสิวเข้มขึ้นด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหน ทุกคนก็ควรทากันแดดเป็นประจำ โดยผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสำหรับคนผิวมัน และเป็นสิว มีดังนี้
Photoderm Cover Touch SPF50+
Photoderm Cover Touch SPF50+ เป็นครีมกันแดดสูตร 100% Mineral ที่มีสีเนื้อ ช่วยปกปิดรอยได้อย่างเรียบเนียน หลังทาจะเป็นเนื้อแมตต์ ช่วยคุมมันได้เป็นอย่างดี และช่วยลดโอกาสในการเกิดสิว ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว ทนเหงื่อ ความร้อน และความชื้นได้ดี ไม่ระคายเคืองต่อดวงตา และไม่ใส่น้ำหอม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน และผิวผสม ด้วยเทคโนโลยี Sun Active Defense (UV filters + Ectoin + Mannitol) ที่ช่วยปกป้องผิวเสื่อมจากยูวีเอได้สูงขึ้นถึง 84% (จากผลการวิจัย ในอาสาสมัคร 20 คน ปี 2021 Eurofins Dermscan 20E0976/ Poland 2021) สามารถจัดการปัญหาเซลล์ผิวเสื่อม จุดด่างดำ ที่มีสาเหตุจาก UVA ทำร้ายอย่างได้ผล รวมถึงมี UV filter ประสิทธิภาพสูงผลแต่อ่อนโยนต่อผิว ช่วยป้องกันผิวไหม้จาก UVB ได้เป็นอย่างดี
6. เลิกแกะ แคะ หรือบีบสิวด้วยตัวเอง
สิ่งสำคัญที่ผู้มีผิวเป็นสิวต้องห้ามทำอย่างเด็ดขาด คือ การเลิกแกะ แคะ และบีบสิวด้วยตัวเอง เพราะว่าการแกะสิว หรือแคะสิวนั้นอาจะทำให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม และอาจเกิดอาการลุกลามขึ้นมาได้ รวมถึงการบีบสิวที่ไม่ควรบีบด้วยตัวเอง เพราะอาจบีบสิวออกมาได้ไม่หมด ทำให้สิวเกิดขึ้นที่เดิมซ้ำ ๆ เกิดอาการอักเสบ และอาจทิ้งรอยสิวไว้ด้วย ดังนั้น ถ้าหากสิวขึ้นควรใช้แผ่นแปะสิว เพื่อป้องกันไม่ให้ไปจับ แกะ แคะ หรือบีบสิว และถ้าหากสิวมีขนาดใหญ่ มีอาการเจ็บ หรือปวดร่วมด้วย ควรพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี
7. ดูแลตัวเองให้ดีจากปัจจัยภายใน
ปัญหาสิวนั้นสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิว สภาพอากาศ หรือมลภาวะต่าง ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นเราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถดูแลตัวเองให้ดีจากปัจจัยภายใน เพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี รวมถึงความเครียด และพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ควรพยายามลดให้น้อยลง หรือถ้าหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรเครียด และงดการสูบ หรือดื่มเลยได้ยิ่งดี เพื่อให้ร่างกายของเรานั้นมีสุขภาพและมีระบบการทำงานที่ดีมากยิ่งขึ้น เมื่อปัจจัยจากภายในดี ผิวพรรณก็จะดูสดใสตามมาด้วย
สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวมัน หรือผิวเป็นสิว สามารถเริ่มต้นแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยตัวแบบง่าย ๆ ตามเทคนิคที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และชีทมาส์ก หรือการทาครีมกันแดดเป็นประจำ รวมถึงการดูแลตัวจากปัจจัยภายใน ไม่ว่าจะเป็นการนอน หรือการเลือกทานอาหาร ที่จะช่วยให้ผิวของเรานั้นดีขึ้นจากภายในสู่ภายนอก และช่วยแก้ปัญหาสิวได้จากต้นตอ จนทำให้ทุกคนได้กลับมามั่นใจในผิวของตัวเองอีกครั้ง
