10 วิธีจัดการสิวแพ้แมส แพ้หน้ากากอนามัย
สิวแพ้แมส หรือ maskne (mask acne) ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ยาก ในยุคที่ใคร ๆ ก็ต้องใส่แมสตลอดทั้งวัน แต่เรานั้นสามารถจัดการให้อาการดีขึ้นได้ง่าย ด้วยทริค 10 วิธีลดอาการแพ้แมสสิวขึ้น และอาการแพ้แมสผื่นขึ้น ดังต่อไปนี้
1. ล้างหน้าด้วยเจลล้างที่อ่อนโยน
เริ่มต้นด้วยขั้นตอนการดูแลผิวง่าย ๆ ที่เป็นพื้นฐานเลย คือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่มีคราบน้ำมัน คราบสิ่งสกปรกตกค้าง เป็นต้นเหตุให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยควรเริ่มต้นทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งเป็นขั้นตอนแรก เพื่อเน้นทำความสะอาดใบหน้าที่มีเครื่องสำอาง และครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันน้ำออกไปได้หมด แล้วจึงทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนเซอร์เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้าง และคราบคลีนซิ่งออกไปให้หมดจด
2. ใช้ครีมทาหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดสิว เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ต้องบำรุงผิวอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ผิวเสียความชุ่มชื้น เพราะหากถ้าผิวเสียความชุ่มชื้น ตามกลไกของร่างกาย หากผิวแห้ง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะทำการกระตุ้นให้ผลิตน้ำมันบนผิวออกมามากขึ้น จะยิ่งทำให้ผิวง่ายต่อการอุดตัน ดังนั้นเราควรจะเริ่มบำรุงผิวขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าทันที ด้วยโทนเนอร์เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอน การทาเซรั่ม และครีมบำรุง ต่อมาตามลำดับ ให้สารบำรุงซึมซาบสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก
3. งดแต่งหน้า หรือใช้คลีนซิ่งในกาทำความสะอาดหน้าเสมอ
วิธีดูแลผิวหน้าที่เป็นสิวแพ้แมสวิธีถัดมา ก็คือผิวใต้แมสนั้นมีความอบอ้าว และอับชื้นมาก การที่เราใช้เครื่องสำอางทาลงผิวหน้าทำให้ผิวหน้ายิ่งง่ายต่อการอุดตัน เพราะส่วนผสมจากเครื่องสำอาง จะผสมรวมเข้ากับน้ำมันในผิว แล้วจึงเข้าไปอุดตันลงไปในรูขุมขน
ดังนั้นจึงควรใช้อายรีมูฟเวอร์ในการเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา และรอบริมฝีปาก จึงใช้คลีนซิ่งในการเช็ดเครื่องสำอางทั่วใบหน้าเพื่อขจัดเครื่องสำอาง และครีมกันแดดที่ไม่กันน้ำออกไปได้อย่างหมดจด
4. เปลี่ยนหน้ากากอนามัยหรือซักทุกครั้ง
เปลี่ยนหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งบ่อย ๆ เลี่ยงการใช้หน้ากากอนามัยซ้ำ ๆ หากหน้ากากเปื้อนหรือเปียกชื้น ให้รีบเปลี่ยนทันที เพราะหน้ากากอยามัยที่ใช้แล้วจะมีการสะสมตัวของเชื้อแบคทีเรียอยู่ หากต้องการถอดแมส เพื่อทำกิจกรรม เช่น รับประทานอาหารสักครู่ ควรถอดแมสตรงสายคล้องหู
ไม่ควรสัมผัสตรงด้านหน้าของแมส และไม่เก็บแมสไว้ในที่เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อโรค เช่น กระเป๋ากางเกง หรือบนโต๊ะรับประทานอาหาร และล้างมือทุกครั้งก่อนจะสวมใส่หน้ากากอนามัย
หากเลือกสวมใส่หน้ากากผ้า หลังจากการใช้งานเสร็จทุกครั้ง ให้ซักทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน แล้วจึงนำไปตากแดดให้แห้ง เพื่อไม่ให้อับชื้นจนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา
5. ถอดหน้ากากทุกๆ 4 ชั่วโมง
หากอยู่ในพื้นที่โล่ง ไม่แออัด คนในบริเวณน้อย ห่างจากผู้คนอย่างน้อย 2 เมตร หรือในพื้นที่ปลอดภัยจากเชื้อโรค อย่างห้องส่วนตัวที่อยู่คนเดียว รถส่วนตัวที่อยู่คนเดียว ให้พักผิวหน้า ได้ระบายความอบอ้าวภายใต้แมสออกบ้าง สัก 10 - 15 นาที ทุก ๆ 4 ชั่วโมง จึงถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อระบายอากาศบ้าง
6. ทามอยเจอไรเซอร์ทุกครั้งก่อนใส่แมส
ก่อนสวมใส่แมส ควรทามอยเจอไรเซอร์ลงบนผิวก่อนทุกครั้ง เพราะการทาครีมบำรุงจะทำให้ความชุ่มชื้นในผิวยังคงอยู่ และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยลดการเสียสีดของผิวกับหน้ากากอนามัยได้ เพราะหากผิวเรามีความแห้งกร้านมาก จะยิ่งทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวได้มาก ลดอาการระคายเคืองต้นเหตุของสิวแพ้แมสได้
7. เลือกหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพ
นอกจากเลือกแมสจากประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคแล้ว การเลือกแมสที่มีเนื้อสัมผัสที่มีคุณภาพ ทำจากวัสดุที่ได้มาตรฐาน มีเนื้อแมสที่อ่อนนุ่ม ไม่ระคายเคือง หรือมีเนื้อผ้าเป็นเนื้อผ้าแบบนาโนซิงค์ (Nano Zinc) มีสารช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดโอกาสของการเกิดสิวแพ้แมส
8. ลดการเสียดสีกับหน้ากากอนามัยโดยตรง
หากคนไหนมีปัญหาสวมแมสแล้วเกิดการเสียดสีบริเวณใบหน้าอย่างมาก อาจจะลดปัญหาการเสียดสีของเนื้อแมสกับผิว ได้โดยการใช้กระดาษทิชชู่รองก่อนสวมแมสทับ วิธีนี้จะช่วยลดการเสียดสีให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้
9. ถอดหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อถึงบ้าน
เมื่ออยู่ในเคหะสถานที่พัก ที่คาดว่าปลอดภัยจากเชื้อ ให้ถอดหน้ากากนามัยออก เพื่อให้ผิวภายใต้แมสได้ระบายอากาศจากอากาศที่อบอ้าวบ้าง ลดความอับชื้น บ่อเกิดของอาการแพ้แมสสิวขึ้น
10. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป
การพักผ่อนให้เพียงพอ ครบอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และไม่อยู่ในภาวะเครียด จะทำให้ภายในร่างกายมีสมดุลของฮอร์โมนที่ดี สารต่าง ๆ ในร่างกายหลั่งไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทำให้ร่างกายสุขภาพดี สุขภาพผิวก็ดีตาม ภูมิคุ้มกันผิวแข็งแรงไม่ระคายเคืองง่าย และไม่เกิดการกระตุ้นจากภายในให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก จนมีแนวโน้มในการเกิดการอุดตัน