ป้องกันผื่นแพ้อากาศ อย่างไรได้บ้าง
การป้องกันอาการแพ้อากาศผื่นขึ้นนั้นต้องอาศัยความใส่ใจ และมีวินัยอย่างมาก เพราะไม่มีวิธีไหนที่รักษาได้อย่างหายขาด แต่ต้องคอยหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวสัมผัสกับสารกระตุ้นอาการผื่นแพ้อากาศให้มากที่สุด และพยายามสร้างผิวของเราให้มีสมดุลสุขภาพผิวให้แข็งแรง และเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงพร้อมสู้กับมลภาวะที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน
ใช้ครีมบำรุงสำหรับการฟื้นฟูสมดุลของสุขภาพผิวให้แข็งแรง
วิธีป้องกันผื่นคันแพ้อากาศดีที่สุด คือการปูพื้นฐานสร้างความแข็งแรงให้กับผิวสำคัญที่สุด เพราะเมื่อผิวเราแข็งแรงแล้ว ต่อให้เจอสิ่งกระตุ้นผื่นแพ้อากาศ หรือแม้แต่สิ่งสกปรก มลพิษต่างๆ ก็ไม่สามารถทำร้ายผิวของเราได้
ดังนั้นเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยฟื้นฟูสมดุลของผิว ทำให้สุขภาพผิวแข็งแรง อย่างครีมฟื้นบำรุงสูตรเข้มข้น
หลีกเลี่ยง ฝุ่นละออง และมลภาวะต่างๆ
มลภาวะทางอากาศ ฝุ่นละออง ควัน เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นหลัก ๆ ของการทำให้เกิดผื่นคันแพ้อากาศ คงจะเป็นการณ์ดี ถ้าหากเราแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ โดยการหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวของเราต้องเผชิญกับมลภาวะเหล่านี้ แต่ในปัจจุบันการหลีกเลี่ยงมลภาวะในชีวิตประจำวันคงยากที่จะเลี่ยงได้ เราจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่างครีมกันแดดที่ช่วยเป็นเกราะป้องกันให้ผิวจากฝุ่นและมลภาวะไม่ให้เป็นผื่นแพ้อากาศได้ และเป็นตัวช่วยป้องกันเราจากแดดร้อน แสงยูวี/UV ที่อาจจะทำให้เกิดผื่นแพ้อากาศร้อนได้
ทำความสะอาดเครื่องนอนสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ผิวเราจะไปสัมผัสกับสารกระตุ้นการเกิดผื่นแพ้อากาศได้ และบริเวณที่ควรจะให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ อุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือแม้แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างตุ๊กตาที่อยู่บนเตียงก็ไม่ควรละเว้น เราควรนำไปทำความสะอาดด้วยเช่นกัน โดยปกติเราควรซักอุปกรณ์เครื่องนอนทุก ๆ 1 - 2 สัปดาห์ เพื่อกำจัดคราบครีม คราบเหงื่อ ไรฝุ่น เชื้อแบคทีเรียที่หมักหมมติดกับเนื้อผ้าออกไปให้หมดไม่ให้หลงเหลือ และเมื่อซักทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ก็อย่าลืมนำเครื่องนอนเหล่านี้ไปผึ่งแดดให้แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นจนเป็นเชื้อรา และเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ บนผ้าที่จะนำไปสู่อาการแพ้อากาศผื่นขึ้นได้
ไม่อาบน้ำที่อุณหภูมิร้อนเกินไป
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำที่มีอุณหภูมิร้อนเกินไป เพราะอุณหภูมิของน้ำที่ร้อนเกินไปจะทำให้ผิวของเราเสียความชุ่มชื้นไป จนทำให้ผิวของเราเกิดแห้ง มีอาการระคายเคือง ลอกเป็นขุย และเกิดอาการคัน จนผิวอาจจะอ่อนแอจนสามารถเกิดอาการภูมิแพ้อากาศเป็นผื่นได้
ไม่ใช่เพียงแค่การใส่ใจเรื่องของอุณหภูมิของน้ำที่ใช้อาบเพียงเท่านั้น แต่ควรให้ความสำคัญไปถึงการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างคลีนซิ่ง เจลล้างหน้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายด้วย หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและได้มาตรฐานต่อผิว ก็จะสามารถลดการระคายเคืองต่อผิวลงไปได้ และลดโอกาสในการเกิดผื่นคันแพ้อากาศลงไปได้เช่นกัน
หลีกเลี่ยงสบู่ ผงซักฟอก ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
เลี่ยงที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายที่มีฤทธิ์เป็นด่าง รวมถึงผงซักฟอกที่ใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้านั้นก็ควรเลือกพิจารณาไม่ให้มีฤทธิ์เป็นด่าง เพราะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวเป็นสิ่งที่เราจะต้องใช้สัมผัสกับผิวเราโดยตรง หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้อากาศผื่นขึ้นได้ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าก็เช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสกับผิวเราโดนตรง แต่ผ้าที่ถูกซักด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นด่าง เมื่อผ้าสัมผัสโดนกับผิว หรือเสียดสีกับผิวซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแพ้อากาศได้เช่นกัน ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน หากโดนผ้าที่มีฤทธิ์เป็นด่างถูผิวซ้ำ ๆ ผสมกับเหงื่อที่ไหลยิ่งเพิ่มความระคายเคืองให้กับผิว นำไปสู่ผื่นแพ้อากาศร้อนได้