ป้องกันแสงสีฟ้าอย่างไรดี
แสงสีฟ้าอันตรายหลากหลายอย่างที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพสายตา และสุขภาพผิว แม้จะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้สุขภาพสายตาเราเสีย และส่งผลให้เราเสียความมั่นใจจากปัญหาผิวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เราจะต้องหาวิธีป้องกันตัวจากแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์อุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ปลีกตัวออกห่างได้ยากในยุคปัจจุบัน
ป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า
ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ และยังเป็นอวัยวะที่ต้องสัมผัสกับแสงสีฟ้าอยู่ตลอด เพื่อถนอมดวงตาให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด เราควรจะดูแลดวงตาตามวิธีดูแลดวงตา ดังต่อไปนี้
- ระหว่างที่ใช้สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ให้พักการใช้สายตาบ้างตามหลัก 20 - 20 -20 คือ ทุก ๆ 20 นาที ต้องพักสายตาอย่างน้อย 20 วินาที โดยมองไปไกล ๆ อย่างน้อย 20 ฟุต ก็สามารถช่วยลดการเพ่งของดวงตาได้
- ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม ปรับหน้าจอให้ห่างจากตาอย่างน้อย 25 นิ้ว ปรับแสงสว่างภายในห้อง และหน้าจอให้เหมาะสม พร้อมหลีกเลี่ยงการใช้สายตาในพื้นที่ที่ลมพัดแรง ยิ่งทำให้ตาแห้ง
- ติดฟิล์มลดแสง หรือฟิล์มกรองแสงที่หน้าจอให้เหมาะสม
- ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเป็นช่วง ๆ หรือในช่วงที่รู้สึกตาแห้ง
- ควรตรวจสุขภาพดวงตาและวัดค่าสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ป้องกันผิวจากแสงสีฟ้า
ผิวพรรณบริเวณที่หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็จะส่งผลเสียให้เห็นได้ชัดที่สุด เพราะอยู่บริเวณภายนอกของร่างกายทำให้สัมผัสกับแสงสีฟ้าอยู่ตลอดเวลา เป็นสาเหตุที่ทำใบหน้าแก่ ดูเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าคล้ำ หน้าฝ้า กระ จุดด่างดำ เพราะฉะนั้นจึงควรทำวิธีต่าง ๆ เหล่านี้เข้ามาใช้ดูแลผิวพรรณ
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 - 50 ขึ้นไป รวมถึงมีค่า PA ที่สูง ทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อช่ววยลดการที่แสงสีฟ้าจะสัมผัสกับผิวโดยตรง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่ม ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินเอ (Vitamin A) เป็นต้น
- เข้ารับการทำหัตถการทรีทเมนต์กับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ อย่างการเลเซอร์ หรือใช้กรดในการผลัดเซลล์ผิวหน้า เพื่อกระตุ้นการเกิดคอลลาเจน ลดความหมองคล้ำ
- ลดเวลาการใช้อุปกรณ์ที่ก่อแสงสีฟ้าลงไป โดยอาจจะหากิจกรรมยามว่างอื่น ๆ เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา เป็นต้น นอกจากลดการสัมผัสกับแสงแล้ว ยังช่วยลดความเครียดอีกด้วย