คำแนะนำประจำวัน
7 วิธีกู้ผิวคล้ำเสีย ดำแดด ให้กลับมาขาวกระจ่างใส
ผิวคล้ำเสีย เกิดจากอะไร มีลักษณะอย่างไรบ้าง รวมถึงบอกเคล็ดลับการฟื้นฟูผิวคล้ำเสียให้กลับมาขาวกระจ่างใส
หลายๆคน อาจไม่ชอบการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่า อากาศร้อนแล้วครีมกันแดดทำให้รู้สึกเหนียวตัว, รีบจนลืมทาครีมกันแดด, คิดว่าออกไปข้างนอกแค่ครู่เดียว คงไม่เป็นไรหรอก หรือแม้กระทั่ง คนที่ทาครีมกันแดดแล้ว แต่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งที่แดดร้อนหนักๆ แล้วไม่มีการทาซ้ำ ฯลฯ
พฤติกรรมเหล่านี้ อาจทำให้เกิดผิวหมองคล้ำจากแดด หรือผิวคล้ำเสียสะสมได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว หากปล่อยทิ้งไว้โดยละเลย ไม่ดูแล ก็อาจทำให้ผิวพังจนกู้คืนได้ยาก
ดังนั้น บทความนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับเด็ด 7 วิธีกู้ผิวคล้ำเสียสะสม ผิวพังจากแดด ให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้ด้วยตนเอง ฉบับง่ายๆ ที่ใครๆก็สามารถทำตามกันได้
อาการผิวคล้ำเสีย
ก่อนที่จะไปสู่เคล็ดลับ สิ่งแรกที่เราควรทราบก่อน คือ ผิวหมองคล้ำอาการเป็นอย่างไร? แล้วสภาพผิวของเราเข้าข่ายอาการผิวคล้ำรึเปล่า? สามารถตรวจเช็คตนเองได้ ดังต่อไปนี้
- ผิวหมอง หรือ หน้าหมองคล้ำ ไม่สว่างสดใส
- มีฝ้า หรือ ฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ
- เมื่อออกแดด จะรู้สึกว่า ผิวคล้ำง่ายขึ้นกว่าปกติ
- ผิวแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น
- สีผิวไม่สม่ำเสมอกันในแต่ละจุดของร่างกาย
- บางรายอาจมีอาการผิวหนังลอกหลุดออกมา คันตามบริเวณที่ผิวถูกทำลาย
- ผิวมีความไวต่อแสงแดด แสบร้อน หรือ เกิดรอยแดงขึ้นที่บริเวณใบหน้าและลำตัว
สาเหตุของผิวหมองคล้ำ มีอยู่หลากหลายปัจจัย โดยหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผิวคล้ำเสีย คือ “แสงแดด”
แสงแดด มีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งมีการแบ่งออกเป็น UVA UVB คือ รังสียูวีเอ (UVA) เป็นรังสีที่สามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาทำร้ายผิวของเราได้ ทำให้เกิด ฝ้ากระจุดด่างดำ นอกจากจะทำให้เกิดฝ้ากระจุดด่างดำแล้ว รังสียูวียังทำให้เกิดโอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
ส่วนรังสียูวีบี (UVB) เป็นรังสีที่เปลี่ยนแปลงสภาพผิวให้คล้ำขึ้น ทำให้เกิดอาการอักเสบ ผิวคล้ำแดด หน้าหมองคล้ำ แสบร้อน คัน เป็นต้น
สาเหตุอื่นที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย
นอกจากแสงแดดแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ผิวแห้งคล้ำได้ ดังนี้
- การทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางบนผิวหน้าไม่หมดจด หรือไม่ล้างทำความสะอาดผิวหน้า
- การใช้ร่มกันแดดธรรมดาที่ไม่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ไม่บำรุงรักษาผิวที่มีสภาพอ่อนแอ
- การเกิดความเครียดสะสมขึ้นในชีวิตประจำวัน
- จำเป็นต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์
7 วิธีกู้ผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาขาวกระจ่างใส
1. หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน
หากคุณต้องการฟื้นฟูผิวคล้ำให้กลับมาสดใสแข็งแรงได้ดังเดิม ให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 - 15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดแรงจัด ทำให้จากผิวที่คล้ำเสียอยู่แล้ว เมื่อถูกทำร้ายซ้ำ ก็อาจจะเกิดผิวไหม้แดด หรือไวต่อแสงแดดมากขึ้นได้
แต่ถ้าหากใครที่ต้องการรับวิตามินดีจากแสงแดด แนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ 08.00 - 10.00 น. และช่วงเวลา 15.00 - 17.00 น. จึงจะดีกว่า เนื่องจากในช่วงเวลาทั้งสองนี้ แสงแดดจะค่อนข้างเบาบางลง ทำให้สามารถรับวิตามินดีจากแสงแดดได้ โดยที่ผิวไม่ถูกทำร้ายไปด้วย
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร
อาหาร เป็นสิ่งง่ายๆที่หลายๆคนอาจละเลยไป การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ให้หันมาทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ
โดยเฉพาะการเลือกรับประทานผักใบเขียว ผักที่มีเบต้าแคโรทีนอย่าง แครอท ฟักทอง ฯลฯ หรือประเภทผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอปเปิ้ล มะเขือเทศ ก็จะเป็นตัวช่วยในการนำสารวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ มาฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาสุขภาพดี สดใสขึ้นได้
3. เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอไรเซอร์
เมื่อผิวคล้ำเสีย หน้าหมองไม่น่ามอง หรือผิวเกิดการแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น การใช้เซรั่ม หรือมอยเจอไรเซอร์ เป็นหนึ่งในทางเลือกดีๆ ที่จะช่วยเติมเต็มสารอาหารและความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยสามารถใช้งานได้ทั้งตอนเช้าก่อนเริ่มแต่งหน้า และก่อนเข้านอน การใช้มอยเจอไรเซอร์อย่างเป็นประจำ จะช่วยทำให้สภาพผิวแข็งแรงขึ้น เพราะได้รับสารอาหารผิวอย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ในช่วงที่ผิวคล้ำเสีย สภาพผิวอ่อนแอ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของกรด AHA เพราะอาจก่อให้ผิวบางลง เกิดความระคายเคือง และไวต่อแสงแดดมากขึ้นได้
4. ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ
ร่างกายของมนุษย์มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ คือ “น้ำ” เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของทุกเซลล์ที่อยู่ภายในร่างกาย การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาด ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สดใส โทนสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากผิวส่วนหนึ่งถูกทำร้ายจากแสงแดด จะค่อยๆถูกฟื้นฟู ทำให้ผิวค่อยๆสม่ำเสมอกันมากยิ่งขึ้น
โดยปริมาณน้ำดื่มที่แนะนำ คือ 8 - 10 แก้ว หรือประมาณ 1,500 - 2,000 มิลลิลิตร ในแต่ละวัน และควรค่อยๆดื่มน้ำตลอดทั้งวัน ทำแบบนี้ซ้ำอย่างสม่ำเสมอและเป็นประจำ จะช่วยให้ผิวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้
5. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะมีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนภายในร่างกาย และกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งการที่เราสามารถนอนหลับได้อย่างสนิท เข้านอนในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะทำให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดความสมดุลกัน
ฮอร์โมนภายในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น Growth Hormone เป็นสารที่ถูกหลั่งออกมาขณะที่เรานอนหลับ ซึ่งสารนี้จะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอให้กลับมาดีขึ้นได้ พร้อมทั้งยังเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของร่างกายอีกด้วย
กระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาที่เรานอนหลับพักผ่อน โดยเซลล์ผิวจะมีการสร้างใหม่ขึ้นมา แทนเซลล์เก่าที่ถูกผลัดออกไป ทำให้สภาพผิวดูสดใส ไม่หมองคล้ำนั่นเอง
6. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดได้ การทาครีมกันแดดเป็นประจำ และการเลือก SPF กับ PA ที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ จะช่วยสามารถปกป้องผิวจากการถูกรังสีอัลตราไวโอเลตทำร้ายได้
โดย spf คือ ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีบี (UVB) ซึ่งค่าตัวเลขที่มาก ก็จะสามารถปกป้องได้นานยิ่งขึ้น ส่วน pa คือ ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งเครื่องหมายบวก (+) จะเป็นตัวแสดงถึงการป้องกันที่ดียิ่งขึ้น
ทาง Bioderma ขอแนะนำครีมกันแดดที่จะเป็นตัวช่วยดีๆในการปกป้องผิวคุณจากรังสียูวีของแสงแดด ดังนี้
- Photoderm Aquafluide SPF50+
ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide SPF50+ เป็นครีมกันแดดทาหน้าสูตรน้ำนม ที่ทำให้ใช้งานได้ง่าย บางเบาสบายผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน อีกทั้งยังกันเหงื่อ ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม และยังสามารถป้องกันรังสียูวีเอ(UVA) กับ ยูวีบี(UVB) ได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง
เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย บอบบาง เพราะผ่านการทดสอบของมาตรฐานแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังแล้วว่า มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางสากลแล้วว่า สารภายในครีมกันแดดไม่ทำร้ายปะการัง แพลงตอน สาหร่ายทะเล สิ่งมีชีวิตต่างๆ
รวมไปจนถึงการได้รับสิทธิบัตร DAFTM complex (Dermatological Advanced Formulation) ที่ส่งเสริมผิวแพ้ง่าย ให้แข็งแรง ต้านทานต่อมลภาวะได้ดีขึ้นอีกด้วย
- Photoderm Cover Touch 50+
ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Cover Touch SPF50+ เป็นครีมกันแดดสีเนื้อ สูตรมิเนอรัล(Mineral) 100% สามารถปกป้องผิวจากแสงแดด อีกทั้งยังช่วยคุมมัน ปกปิดได้นานถึง 8 ชั่วโมง กันน้ำ ความร้อน และความชื้นต่างๆได้
เหมาะสำหรับผิวผสม-ผิวมัน ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยน มียูวีฟิลเตอร์ ที่เป็นมาตรฐานจากยุโรป ทำให้ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพจะสูง แต่ยังคงความอ่อนโยนต่อผิวไว้ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และไม่ตกค้างสะสมในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ผิวคล้ำเสีย..แก้ไขได้ หากดูแลอย่างเหมาะสม
ผิวคล้ำเสีย มีสาเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหลักนั้น คือ แสงแดด ที่หลายๆคนมักหลีกเลี่ยงได้ยาก จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดก่อนออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากรังสีอัลตราไวโอเลต
นอกจากครีมกันแดด ที่จะเป็นตัวช่วยดีๆแล้ว ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่สามารถช่วยให้ผิวคล้ำเสีย ให้กลับมาเป็นผิวที่สุขภาพดีได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ การนอนหลับพักผ่อน การใช้ครีมบำรุงผิว การเลือกรับประทานอาหาร ฯลฯ ดังนั้น เราควรเลือกวิธีการดูแลฟื้นฟูผิวของตนเอง ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ปกป้องผิวจากแสงแดด
ผิวแพ้ง่ายที่ต้องเผชิญกับแสงแดด
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm)
คุณกำลังมองหาครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวของคุณอยู่หรือเปล่า
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm) คือผลิตภัณฑ์กันแดดครบวงจรสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่มีความไวต่อแสงแดด โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างแสงแดดหรือสารเคมีผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวมันถึงผิวเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ