สิวข้าวสาร (Milia) ไม่ใช่สิวหิน! เผยข้อมูลที่หลายคนเข้าใจผิด

แม้จะเป็นสิวเม็ดเล็กๆเท่าเม็ดข้าวสาร แต่สิวข้าวสารก็สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายๆคนอยู่ไม่น้อย Bioderma จึงจะพาทุกๆคนมาทำความรู้จักกับสิวข้าวสารหรือสิวเม็ดข้าวสารกัน ว่ามีลักษณะอย่างไร แล้วเราจะมีวิธีดูแลรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดสิวข้าวสารได้อย่างไร

สารบัญบทความ

• สิวหัวข้าวสาร (Milia) คือ
• สิวเม็ดข้าวสาร ไม่ใช่สิวหิน
• สิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไร
• สิวข้าวสาร มีลักษณะแบบใดบ้าง
• วิธีดูแลรักษาสิวเม็ดข้าวสาร
• ข้อสรุปของสิวเม็ดขาวสาร

สิวหัวข้าวสาร (Milia) คือ

สิวหัวข้าวสาร สิวเม็ดข้าวสาร หรือสิวข้าวสาร (Milia) คือ สิวสีขาวไข่มุกขนาดเล็ก ที่ภายในบรรจุโปรตีนผิวหนังที่เรียกว่า เคราติน เอาไว้มากเกินไปจนเกิดอุดตันในชั้นใต้ผิวหนัง

สิวข้าวสารนั้นมีลักษณะเป็นตุ่มแข็งขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีสีขาวคล้ายกับไข่มุกหรือเม็ดข้าวสาร ส่วนใหญ่แล้วสิวหัวข้าวสารเหล่านี้มักจะไม่ได้ผุดขึ้นทีละเม็ด แต่จะขึ้นทีละมากๆเป็นกลุ่มตามผิวหนังบริเวณใบหน้า รอบดวงตา หน้าผาก แก้ม หรือจมูก และบางครั้งก็สามารถพบได้ตามลำตัวและอวัยวะเพศได้เช่นกัน สิวข้าวสารสามารถเกิดได้ในทุกเพศทุกวัย แม้ปกติแล้วสิวข้าวสารจะไม่ได้มีอันตรายหรือทำให้มีอาการคันร่วมด้วยแล้ว แต่หากเกิดในบริเวณที่ได้รับการเสียดสีกับเสื้อผ้า ก็อาจจะทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเกิดการระคายเคืองและแดงขึ้นมาได้

สิวเม็ดข้าวสาร ไม่ใช่สิวหิน

เชื่อว่าหลายๆคนมักจะเกิดความสับสนอยู่บ่อยครั้งว่าสิวที่ขนาดเล็กแข็งๆที่ขึ้นอยู่นี้คือสิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหินกันแน่ เพราะสิวทั้งสองประเภทมีลักษณะใกล้เคียงกันจนแยกได้ยาก Bioderma จึงจะขอพาทุกคนไปดูกันว่าสิวข้าวสารแตกต่างจากสิวหินอย่างไร เพื่อที่จะได้ดูแลรักษาสิวแต่ละประเภทได้อย่างถูกวิธี

สิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไร

สิวหัวข้าวสารเกิดจากอะไรนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้ในปัจจุบันจะยังระบุสาเหตุที่แน่ชัดในการเกิดสิวข้าวสารที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เราสามารถแบ่งสาเหตุการเกิดสิวข้าวสารคร่าวๆได้ ดังนี้

• ต่อมไขมันยังมีการเติบโตไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิดสิวข้าวสารได้ สาเหตุในการเกิดสิวข้าวสารนี้มักพบในการเกิดสิวข้าวสารในเด็กทารก พบมากถึง 40%-50% ของทารกแรกเกิดที่จะมีสิวหัวข้าวสารเกิดขึ้น เพราะเป็นช่วงวัยที่ต่อมไขมันยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้เกิดสิวข้าวสารตามบริเวณจมูก ศีรษะ ใบหน้า ภายในปาก หรือตามช่วงลำตัวด้านบนของเด็กทารก โดยสิวข้าวสารในเด็กทารกมักจะหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์หลังคลอด
   
• เส้นใยเคราตินที่อยู่ใต้ผิวหนังสะสมตัวมากเกินไปจนอุดตันกลายเป็นสิวเม็ดข้าวสาร ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวข้าวสารดังกล่าวสามารถเกิดได้ทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ มักปรากฏตามบริเวณเปลือกตา หน้าผาก รอยพับจมูก ตามลำตัว หรืออวัยวะเพศ สิวข้าวสารจากการสะสมตัวของเคราตินสามารถหายไปเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ในบางกรณีก็อาจจะคงอยู่นานหลายเดือนกว่าจะหาย
   
• อาการเจ็บป่วยต่างๆ ก็สามารถทำให้เกิดสิวหัวข้าวสารได้ เช่น กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome) มะเร็งผิวหนังบางชนิด เป็นต้น
   
• ความผิดปกติทางพันธุกรรมในบางครั้งก็สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารที่ผิวหนังได้
   
• สิวข้าวสารอาจจะเจริญเติบโตมาจากการติดเชื้อที่ผิวหนังจากโรคผิวหนังบางชนิด
   
• บางกรณีสิวเม็ดข้าวสารเกิดจากการได้รับบาดเจ็บทางผิวหนัง เช่น การเป็นแผลจากการที่ผิวหนังถูกเสียดสีซ้ำๆ ผื่น แผลไฟไหม้ หรือผิวหนังอักเสบ เป็นต้น
   
• การใช้ยาบางชนิดสามารถระตุ้นให้เกิดสิวข้าวสารได้เช่นกัน

บริเวณที่มักเกิดสิวข้าวสาร

เนื่องจากสิวข้าวสารนั้นเกิดขึ้นได้หลายบริเวณตามแต่ละสาเหตุ ไม่เพียงแต่เกิดบนใบหน้าเท่านั้น แม้แต่ตามลำตัวก็สามารถมีสิวเม็ดข้าวสารได้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่มักปรากฎเป็นสิวเม็ดข้าวสารใต้ตา สิวเม็ดข้าวสารเปลือกตา สิวเม็ดข้าวสารแก้ม สิวเม็ดข้าวสารหน้าผาก

สิวข้าวสาร มีลักษณะแบบใดบ้าง

เนื่องจากสิวหัวข้าวสารเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทำให้ลักษณะของสิวข้าวสารก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไป โดยเราสามารถแบ่งสิวข้าวสารตามลักษณะของสิวข้าวสารได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้

• สิวข้าวสารแบบราบ
  เป็นสิวที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแล้วลามกลายมาเป็นก้อนแข็งเป็นปื้นยาวในบริเวณที่ผิวหนังติดเชื้อ ในผู้ผิวหนังติดเชื้อบางคนอาจจะมีก้อนแข็งยาวหลายเซนติเมตรได้เช่นกัน สิวข้าวสารชนิดนี้พบในบริเวณหลังใบหู หน้าแก้ม รอบดวงตา และตามสันกรามได้เป็นส่วนใหญ่
   
• สิวข้าวสารแบบแผลเป็น
  เป็นสิวหัวข้าวสารที่ลุกลามจากการที่ผิวหนังได้รับบาดแผล จนเกิดการอักเสบ เป็นผื่น เป็นแผลจากไฟไหม้ หรือแผลจากการเสียดสีในบริเวณดังกล่าวซ้ำๆ ทำให้ต่อมไขมัน รูขุมขนถูกรบกวน จนเกิดสิวข้าวสารขึ้น
   
• สิวข้าวสารแบบแตกได้
  สิวเม็ดข้าวสารชนิดนี้มักไม่ได้ขึ้นทีละเม็ด แต่จะขึ้นเป็นกลุ่มทีละมากๆ หลายเม็ด ตามบริเวณใบหน้า แขนช่วงบน และลำตัวช่วงบน อีกทั้งสิวข้าวสารชนิดนี้ยังทิ้งปัญหากวนใจไว้อีก เพราะสิวชนิดนี้สามารถแตกได้ เมื่อสิวชนิดนี้แตกออก อาจจะทำให้มีอาการคัน และทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวข้าวสารเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสิวที่ใช้เวลานานในการรักษา
   
• สิวข้าวสารที่เกิดจากสารหรือยาบางชนิด เช่น ฟลูออโรยูราซิล ไฮโดรควิโนน และสเตียรอยด์ เป็นต้น สามารถทำให้เกิดสิวข้าวสารได้

การกดสิว

การกดสิวเป็นหนึ่งในวิธีแก้สิวเม็ดข้าวสารง่ายๆวิธีหนึ่ง เพียงแค่ใช้เข็มกดลงไปที่หัวสิวก่อน เพื่อเปิดหัวสิวข้าวสาร จากนั้นจึงค่อยๆกดหัวสิวข้าวสารออกมา แต่การที่เรากดสิวข้าวสารด้วยตัวเองนั้นอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของผิวได้ หากเรากดหัวสิวออกมาไม่หมด หรืออาจจะทิ้งรอยช้ำ และรอยแผลไว้ได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้เข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้กดสิวข้าวสารให้ดีกว่า ด้วยความชำนาญการของแพทย์และอุปกรณ์ที่สะอาดได้คุณภาพ จะทำให้สิวไม่อักเสบและทิ้งรอยแผลไว้น้อยที่สุด

การเลเซอร์สิวข้าวสาร

วิธีเลเซอร์สิวข้าวสารเป็นวิธีรักษาสิวข้าวสารที่แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ก็ให้ผลการรักษาที่ดี รวดเร็ว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ให้เป็นปัญหากวนใจกับผู้ที่เข้ารับการรักษาอีกด้วย เพราะในการเปิดหัวสิวนั้นจะใช้เลเซอร์ในการเปิดหัวสิวข้าวสารแทนการใช้เข็ม ซึ่งจะทิ้งรอยแผลไว้น้อยกว่า

การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว

เนื่องจากหนึ่งในสาเหตุการเกิดสิวเม็ดข้าวสารคือการอุดตันของต่อมเหงื่อในชั้นผิวลึก หากเรามีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมักหมมไว้ เพื่อให้ในขั้นตอนทำความสะอาดผิวเราจะสามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้สะอาดล้ำลึกยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหลายรูปแบบทั้งเป็นตัวคลีนซิ่ง โทนเนอร์ เจลล้างหน้า เซรั่ม หรือครีมบำรุง ให้เลือกใช้ตามความสะดวกของผู้ใช้งาน

รักษาความสะอาดใบหน้า

หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว ขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดนั่นก็คือขั้นตอนการทำความสะอาดใบหน้า เพราะการรักษาความสะอาดบนใบหน้าอยู่เสมอจะช่วยลดการอุดตันของคราบเหงื่อ ฝุ่น ควัน เครื่องสำอาง และครีมกันแดด ไม่ให้นำไปสู่การเกิดสิวเม็ดข้าวสาร

คลีนซิ่งที่เหมาะสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย ผิวมัน ผิวผสม Bioderma Sebium H2O คลีนซิ่ง ไมเซล่า วอเตอร์ ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับผิว ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ขจัดฝุ่น ควัน เครื่องสำอาง ครีมกันแดดได้อย่างล้ำลึก ไม่ทำร้ายปราการผิว ผสานกับ Copper Zinc Complex ควบคุมความมันส่วนเกินและกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวหัวข้าวสาร แล้วเสริมสร้างผิวให้แข็งแรงต้านมลภาวะด้วย D.A.F Patent Complex สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma

Bioderma Sebium Gel Moussant เจลล้างหน้ามีส่วนประกอบของ Copper Zinc Complex ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และควบคุมความมันหลังล้างหน้ายาวนานถึง 4 ชั่วโมง เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย ผิวมัน ผิวผสม เพราะยังมี D.A.F Patent Complex ทำให้ผิวแข็งแรง ต้านมลภาวะ พร้อมกับ Ginkgo Biloba Leaf Extract ช่วยลดการระคายเคืองของผิว

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวหน้า

เพื่อไม่ให้ผิวหน้าต้องถูกรบกวนบ่อยๆ และนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวก็เป็นส่วนสำคัญในการลดแนวโน้มในการเกิดสิวข้าวสารได้

น้ำตบคุมมันที่มีส่วนผสมของ Zinc และ Vitamin B6 Bioderma Sebium Lotion อีกทั้งยังมี BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก ลดการอุดตันสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวข้าวสาร และ Fluidactiv Patent สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma ช่วยลดการระคายเคือง และเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว

กระชับรูขุมขนให้เล็กลงด้วย Agaric acid ใน Bioderma Sebium Pore Refiner ครีมบำรุงผิวเหมาะสำหรับคนผิวมันและรูขุมขนกว้าง มี Fluidactiv Patent ช่วยปรับคุณภาพซีบัม ลดการอุดตันสาเหตุของการเกิดสิวเม็ดข้าวสาร มี AHA BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ปรับให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส พร้อมทั้ง Mattifying Powder ช่วยควบคุมความมันนานถึง 8 ชั่วโมง คู่กับ D.A.F Patented Complex ในการลดการระคายเคืองของผิว เสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

ข้อสรุปของสิวเม็ดขาวสาร

โดยปกติทั่วไปแล้วสิวข้าวสาร รวมทั้งสิวหินที่มีลักษณะคล้ายเคียงกันสามารถหายเองได้ภายในระยะเวลาไม่นาน เราอาจจะดูแลรักษาและป้องกันการเกิดสิวข้าวสารง่ายๆด้วยวิธีการทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่ทิ้งสิ่งสกปรกตกค้างไว้บนใบหน้า เพราะสิวหัวข้าวสารนั้นเกิดจากการอุดตันฝังลึกในชั้นผิว ไม่เพียงเท่านั้นเราต้องใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่อ่อนโยนและได้มาตรฐาน ไม่รุนแรงจนรบกวนผิว กระตุ้นให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารบนใบหน้าเพิ่ม