KEY TAKEAWAYS

  • ผิวแห้ง (Dry skin)คือ ผิวที่มีความมันน้อยกว่าผิวปกติ เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น  ทำให้ผิวมีความแห้งสาก ลอกเป็นขุย ระคายง่ายและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น บางรายที่ผิวแห้งรุนแรง ผิวจะลอกเป็นขุย แห้งแตกเหมือนเกล็ดปลา ซึ่งสามารถนำไปสู่โรคผิวหนังบางประเภทได้
  • วิธีดูแลและแก้ไข แนะนำให้อาบน้ำในอุณหภูมิปกติ รใช้เจลอาบน้ำที่อ่อนโยน ร่วมกับใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้น ดื่มน้ำเปล่า และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • การเลือกรับประทานอาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผิวแห้งขาดน้ำ กลับชุ่มชื้นขึ้นมาได้ โดยวิตามินที่มีช่วยทำให้ผิวแห้งกลับมาดูอิ่มน้ำอีกครั้ง คือ วิตามิน เอ, วิตามิน บี, วิตามิน ซี และวิตามิน อี
     

 

ผิวแห้ง ลอก เป็นขุย รวมไปถึงผิวแห้งขาดน้ำและแพ้ง่าย ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ใคร ๆ ก็อาจเป็นได้ ซึ่งไม่เพียงแต่ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นเท่านั้น แต่อาการผิวแห้งยังอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น โรคผิวหนัง รังสี UV ที่ทำร้ายปราการผิว รวมไปถึง ผิวบาง ผิวแพ้ง่ายที่มีความอ่อนแอ นอกจากจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ง่ายต่อการเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้อีกด้วย

 

สารบัญบทความ

ผิวแห้ง คืออะไร

ผิวแห้ง คืออะไร?

ผิวแห้ง (Dry skin) คือ สภาพผิวที่มีความมันน้อยกว่าผิวธรรมดา มักเกิดจากผิวขาดความมันที่มีผลมาจากต่อมไขมันบนใบหน้าหรือรูขุมขนมีขนาดเล็ก จึงทำให้ผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวได้ไม่เพียงพอ รวมไปถึงผิวแห้งจากการขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวมีความแห้งสาก ลอกเป็นขุย ระคายง่ายและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ไวกว่าผิวธรรมดาหรือผิวมัน

นอกจากนี้ ผิวแห้งที่มีความรุนแรงมักมาพร้อมกับผิวลอกเป็นขุยๆ หรือแห้งแตกเหมือนเกล็ดปลา ผิวลอกเป็นแผ่นหรืออาจจะเห็นเป็นร่อง ๆ อาจนำมาซึ่งอาการผิวแห้งคัน ลอก อาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายและไวต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งอาจเกิดจากภาวะของโรคผิวหนังบางประเภท เป็นต้น

ผิวแห้งมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

ผิวแห้ง เป็นลักษณะของผิวที่ขาดความชุ่มชื้นได้จากหลายปัจจัย สำหรับหลายคนอาจมีลักษณะผิวแห้งมาตั้งแต่กำเนิดหรือในบางคนอาจเป็นภาวะผิวแห้งที่เกิดจากปัจจัยกระตุ้น เช่น เป็นทุนเดิม อากาศที่หนาวเย็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว จึงทำให้ผิวแห้งเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ เช่น 

  • ผิวแห้งตึง
  • ผิวแห้งกร้าน
  • มีอาการคัน
  • ผิวบาง ง่ายต่อการเกิดฝ้า ผิวไหม้แดด
  • ผิวลอกเป็นขุย
  • เกิดริ้วรอยได้ง่าย ๆ 
  • เกิดผื่นคัน แดงเห็นชัด
  • ผิวแห้ง แดง แสบ ตกสะเก็ด ลอกจนเลือดออก
ผิวแห้งมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

สาเหตุของผิวแห้ง เกิดจากอะไร?

สาเหตุของผิวแห้งกร้านมักจะเกิดจากผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นทั้งภายใน และภายนอกมากมายที่กระตุ้นให้ผิวนั้นเสียความชุ่มชื้น ขาดน้ำในผิวไป ได้แก่

 

ปัจจัยภายในร่างกายที่ทำให้ผิวแห้ง

  • กรรมพันธุ์ผิวแห้งที่ถูกส่งต่อผ่านรุ่นสู่รุ่น
  • มีต่อมไขมันใต้ผิวหนังน้อย หรือขนาดเล็กเกินกว่าที่จะผลิตน้ำมันเคลือบผิวได้เพียงพอ
  • การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ
  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีการผลิตน้ำมันธรรมชาติบนผิวน้อยลง
  • ฮอร์โมนที่แปรปรวน อาจส่งผลให้มีผิวแห้งได้ โดยเฉพาะในเพศหญิง

 

ปัจจัยภายนอกร่างกายที่ทำให้ผิวแห้ง

  • สภาพอากาศที่ร้อนจัดหรืออากาศที่หนาวเย็นและมีความแห้งมากเกินไป ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและแห้งแตกได้
  • การอาบน้ำบ่อยเกินไป รวมถึงการอาบอุ่นจัดหรือน้ำร้อนเป็นเวลานาน ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งตึงหลังอาบน้ำ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีค่า pH สูง อาจทำให้ผิวที่แห้งหรือแพ้ง่ายสูญเสียน้ำมันในผิวและทำให้ผิวแห้ง ระคายง่ายมากขึ้นกว่าเดิม 
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมที่มีส่วนผสมของสารเคมีบางชนิดที่อาจส่งผลให้ผิวแห้งได้
  • ผลิตภัณฑ์ซักผ้าบางชนิดส่งผลให้เนื้อผ้าหยาบ เมื่อเสียดสีกับผิว ทำให้ผิวแห้งเป็นขุยหรือผื่นแพ้เสื้อผ้าได้

ผิวแห้งเป็นขุย ผิวแห้งแตก หรือผิวแห้งคันและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากสภาพอากาศ น้ำอุณหภูมิสูง สารเคมี รวมถึงอาการผิวติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน มีอาการที่รุนแรงขึ้นหลากหลายรูปแบบทั้งผิวแห้งเป็นวง ผิวแห้งเป็นจุด ๆ แตกลาย แห้งแสบ หรือตกสะเก็ดเป็นแผ่นได้ หรือพบเป็นผื่นชนิดต่าง ๆ ได้เช่นกัน โดยสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้

 

โรคผื่นระคายสัมผัส (Contact dermatitis)

ผิวแห้งที่เกิดจากโรคผื่นระคายสัมผัส (Contact Dermatitis) มักมาพร้อมกับอาการระคายเคือง แพ้ได้ง่ายจากการสัมผัสสารต่าง ๆ ทั้งจากผลิตภัณพ์เคมี ฝุ่นละอองต่าง ๆ จึงทำให้เกิดผื่นแดง คัน หรืออาจจะมีผิวแห้งแตก ผิวลอกเป็นขุยประมาณ 2 - 4 สัปดาห์

 

ผิวแห้งที่เกิดจากโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis)

Seborrheic Dermatitis (โรคเซ็บเดิร์ม) อีกนึ่งที่เป็นปัญหาของสภาพผิวแห้งที่จะพบเจอกับปัญหาผิวชนิดนี้ได้บ่อย ๆ เพราะผื่นผิวอักเสบนี้ เกิดจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนังมีการอักเสบ ส่งผลให้เกิดผื่นแดง ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย

 

ผิวแห้งที่เกิดจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)

อาการสำคัญของโรคนี้ที่มักพบเป็นประจำ คือ อาการผิวหนังแห้งอักเสบ และมีอาการคันร่วมด้วย อาจจะพบอาการตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง น้ำเหลืองไหล หากมีการติดเชื้อ โดยมักจะเกิดจากสาเหตุของพันธุกรรม และการกระตุ้นจากสภาพแวดล้อม

ปัญหาผิวอื่น ๆ : ผิวคล้ำ

ผิวแห้งเป็นขุย

ผิวแห้งรุนแรงแค่ไหนที่ควรพบแพทย์

อาการผิวแห้งหลายครั้งนั้นส่งผลต่อกาารใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย ดังนั้นหากมีอาการผิวแห้งที่รุนแรงจำเป็นควรไปพบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาผิวแห้ง ซึ่งหากใครมีอาการผิวแห้งร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรเข้าพบแพทย์โดยเร็ว 

  • ผิวแห้งเป็นเวลานาน หากลองรักษาผิวแห้งด้วยตนเองแล้ว แต่อาการยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้น
  • ผิวแห้งที่มีอาการอักเสบ และรู้สึกเจ็บปวดร่วมด้วย
  • ผิวแห้งดำ หนาขึ้น อาจจะเป็นอาการเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
  • ปัญหาผิวแห้งที่ส่งผลต่อการนอนหลับ หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ผิวแห้งที่มีอาการติดเชื้อ หรือมีแผลจากการเกา ผิวแห้งคัน
  • ผิวแห้งลอกเป็นขุย เป็นบริเวณกว้าง

ปัญหาผิวอื่น ๆ : ผื่นแพ้อากาศ

ผิวแห้งรุนแรงแค่ไหนที่ควรพบแพทย์

--------------------------------------------------------------------------------------

วิธีป้องกันและดูแลผิวแห้ง

หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย หรือมีผิวแพ้ง่าย ควรหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ผิวแห้งเพิ่มมากขึ้นและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่เหมาะสมกับผิว โดยสามารถทำตามวิธีดังต่อไปนี้ 

1. อาบน้ำอุณหภูมิปกติ

คนที่มีผิวแห้งควรอาบน้ำที่อุณหภูมิปกติ เพราะว่าอุณหภูมิของน้ำที่สูงจนเกินไป จะทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นในผิวได้ ดังนั้นควรเลี่ยงการอาบน้ำ หรือแช่น้ำนาน ๆ ด้วยน้ำร้อน เพื่อลดการเกิดสภาพผิวแห้งแตก

วิธีป้องกันและดูแลผิวแห้ง

2. ใช้เจลอาบน้ำที่อ่อนโยน

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหากมีส่วนผสมเข้มข้นมากเกินไปก็มักจะมีฤทธิ์ในการทำร้ายปราการผิวได้ และยังทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุยได้ ดังนั้นจึงความเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่อ่อนโยน มีค่า pH ประมาณ 5 ที่ใกล้เคียงกับสภาพผิวมากที่สุดและเลี่ยงส่วนผสมประเภทน้ำหอม สารลดแรงตึงผิว และพาราเบน

ผิวแห้งเป็นจุด

3. ใช้ครีมบำรุงคงความชุ่มชื้น

อีกหนึ่งวิธีที่จะคงความชุ่มชื้นในผิวให้ยาวนานที่สุด ก็คือหลังอาบน้ำเสร็จทันที และเช็ดผิวให้แห้งหมาด ๆ การทาครีมบำรุงผิวทันทีจะช่วยคงให้ผิวมีความชุ่มชื้นอย่างยาวนานขึ้น โดยเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งกร้าน เช่น กลีเซอรอล เซราไมด์ วิตามิน บี 3 เป็นต้น

แขนแห้งเป็นขุย
  • ครีมบำรุงผิว Bioderma Atoderm PP Baume 

มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบาล์มสูตรเข้มข้น สำหรับผิวหน้าและผิวกายที่มีความแห้งขาดน้ำและระคายง่าย มีส่วนผสมของ Vitamin PP หรือไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) พร้อมฟื้นบำรุงปราการผิวให้แข็งแรงให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นแลดูมีสุขภาพดี 

  • ครีมบำรุงผิว Bioderma Atoderm Intensive Baume

มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบาล์มสูตรเข้มข้น สำหรับผิวแห้งมาก ลอกเป็นขุย ระคายง่าย ช่วยให้ผิวระคายน้อยลงและชุ่มชื้นขึ้นใน 1 สัปดาห์* พร้อมส่งเสริมการสร้างเซราไมด์และโปรตีนในผิว ช่วยฟื้นบำรุงปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น 

*ผลงานวิจัยจากอาสาสมัคร 20 คน อายุ 19-65 ปี ที่มีผิวแห้ง-แห้งมาก 

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือเที่ยบเท่ากับประมาณ 6 - 8 แก้วต่อวัน จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งกร้าน พร้อมทั้งทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดี ขับถ่ายของเสียต่าง ๆ ออกไปได้ และยังทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

รักษาผิวแห้ง

5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 

หากรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ผักโขม ถั่วเหลือง และอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี จะมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น

6. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว

ในบางครั้งเราอาจมีพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวให้แห้งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น การขัดถูผิวแรงๆ การไม่ทาครีมกันแดดจึงทำให้รังสี UV ทำร้ายผิวได้ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ตลอดจนการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้และดูแลสุขภาพผิวในภาพรวมให้มากยิ่งขึ้น 

อากาศหนาวผิวแห้ง

หากกำลังเผชิญกับปัญหาผิวแห้ง การรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี ส่งผลให้สุขภาพผิวพรรณนั้นดูอิ่มน้ำ สดใสเปล่งปลั่งได้

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอกับควรต้องการของร่างกาย
  • ทาครีมบำรุงผิวสม่ำเสมอ หลังอาบน้ำทุกครั้ง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ควรหลับอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง 
  • เลี่ยงการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์

สภาพผิวอื่น ๆ : ผิวผสม

ผิวแห้งกร้าน

แน่นอนว่าผิวที่มันเกินไป หรือผิวที่แห้งเกินไป จะทำให้ผิวนั้นเสียสมดุล ทำให้สภาพผิวอ่อนแอ ง่ายต่อการระคายเคืองต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ 

และผิวแห้งนั้นจะมีวงจรการหลุดลอกของเซลล์ผิวที่ยาวนานกว่า ทำให้เซลล์ผิวเก่าเหล่านี้ตกค้างอยู่บนผิว ส่งผลให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน กลายเป็นสิวได้

การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินมากมายก็อาจจะไม่เพียงพอ เพราะเราไม่สามารถบริโภคปริมาณอาหารได้มากเพียงพอ ทำให้การเลือกรับประทานอาหารเสริมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ผิวขาดน้ำ ชุ่มชื้นขึ้นมาได้ โดยวิตามินที่ช่วยทำให้ผิวแห้งกลับมาดูอิ่มน้ำอีกครั้ง ได้แก่

  • วิตามิน เอ
  • วิตามิน อี
  • วิตามิน ซี
  • วิตามิน บี

ปัญหาผิวอื่น ๆ : แพ้ฝุ่น

ข้อสรุป

นอกจากผิวมัน ผิวผสมเท่านั้นที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวกวนใจ แต่ผิวแห้งเองนั้น ก็เกิดปัญหาผิวตามมาได้เช่นกัน ดังนั้นควรแก้ปัญหาผิวแห้งเหล่านี้ให้หมดไป โดยหัวใจหลักในการดูแลผิวแห้งนั้น คือการคงความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างยาวนานที่สุด ทั้งพยายามเลี่ยงการทำร้ายผิวให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และหมั่นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่เสมอ ทั้งจากครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ รวมถึงอาหารเสริมที่จำเป็นต่อผิวด้วยเช่นกัน

Bioderma Atoderm PP Baume หลอด 200 ml

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร Ecodefensine™

Atoderm PP Baume

บำรุงผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง

สำหรับใคร

สำหรับทุกคนในครอบครัว (เด็กอายุมากกว่า 3 ปี)

BIODERMA Atoderm Intensive baume

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร Skin barrier therapy™

Atoderm Intensive baume

ครีมบำรุงผิวเนื้อเข้มข้น ช่วยปลอบประโลมผิวที่แห้งกร้าน ฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น

สำหรับใคร

สำหรับทุกคนในครอบครัว (ยกเว้นทารกที่คลอดก่อนกำหนด)