การล้างเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตานั้นต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมาก และมีรูขุมขนขนาดเล็กที่เสี่ยงต่อการอุดตันได้ง่าย ซึ่งหลายคนอาจเคยสงสัยว่า คลีนซิ่ง (Cleansing) กับ อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) ต่างกันยังไงและใช้แทนกันได้หรือไม่? วันนี้ Bioderma มีคำตอบ พร้อมบอกเคล็ด(ไม่)ลับการเลือกคลีนซิ่งที่ใช้ได้แบบ 2 in 1

ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางอย่างอายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) กับคลีนซิ่ง (Cleansing) ต่างกันยังไง? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าบนผิวหน้าของเรานั้นมีทั้งส่วนที่บอบบาง ระคายง่าย อย่างเช่น ผิวรอบดวงตาที่มีความบอบบางมากเป็นพิเศษ รวมทั้งมีริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตาที่อาจล้างเครื่องสำอางได้ยากกว่าส่วนอื่นๆ ของใบหน้า 

ซึ่งคลีนซิ่งหรือที่เรียกอีกอย่างว่า รีมูฟเวอร์ (Remover) ก็เป็นผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางได้ทั่วใบหน้าและรอบดวงตาได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวรอบดวงตาระคายได้ง่าย ส่วนอายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) นั้นเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับล้างเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะ จึงมักมีสารประกอบที่อ่อนโยน และปราศจากสารก่อการระคายต่าง ๆ 

คลีนซิ่งกับอายรีมูฟเวอร์ ต่างกันยังไง_Bioderma

คลีนซิ่งและอายรีมูฟเวอร์ เป็นผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวได้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันคลีนซิ่งมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น คลีนซิ่งสูตรน้ำ คลีนซิ่งบาล์ม คลีนซิ่งครีม คลีนซิ่งเจล คลีนซิ่งออยล์ คลีนซิ่งมิลค์ รวมถึงคลีนซิ่งแบบแผ่นเช็ดสำเร็จรูป ซึ่งคลีนซิ่งสามารถใช้เช็ดรอบดวงตาแทนอายรีมูฟเวอร์ได้ แต่ควรเลือกคลีนซิ่งสูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง ไม่มีสารที่ทำให้ผิวระคายง่าย และสามารถขจัดคราบเครื่องสำอางที่ติดแน่นได้ดี

คลีนซิ่ง ใช้แทน อายรีมูฟเวอร์ ได้ไหม_Bioderma

เลือกคลีนซิ่งเช็ดรอบดวงตาแบบไหนดี?

การเลือกคลีนซิ่งที่สามารถนำมาใช้เช็ดทำความสะอาดรอบดวงตาแทนอายรีมูฟเวอร์ได้นั้น นอกจากจะต้องขจัดคราบเครื่องสำอางที่ติดแน่นได้ดีแล้ว ยังต้องมีความอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ โดยสามารถเลือกใช้คลีนซิ่งที่มีคุณสมบัติ ดังนี้

 

1. คลีนซิ่งสูตรน้ำ

คลีนซิ่งสูตรน้ำ (Cleansing Water) บางสูตรจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-Free) สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า และสามารถเช็ดเครื่องสำอางเฉพาะจุดได้ดี เหมาะสำหรับคนผิวมัน เป็นสิว หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย ระคายง่าย 

 

2. อ่อนโยน ไม่ทำร้ายปราการผิว

คลีนซิ่งที่เหมาะสำหรับมาใช้เช็ดรอบดวงตาควรมีคุณสมบัติขจัดคราบเครื่องสำอางได้ดี แต่จะต้องมีความอ่อนโยน ไม่มีสารทำความสะอาดที่รุนแรงต่อผิวบอบบางรอบดวงตาและทำร้ายปราการผิว และไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เช่น คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของ Micellar หรือที่เรียกกันว่า Micellar Water ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับแม่เหล็กดูดซับเอาสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวโดยไม่ทำลายชั้นน้ำมันธรรมชาติที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว จึงสามารถทำความสะอาดผิวรอบดวงตาได้ดีและไม่ทำให้แสบตาอีกด้วย 

 

3. ปราศจากสารก่อการระคาย

เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากเป็นพิเศษ จึงควรใช้คลีนซิ่งที่ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน รวมถึงควรมีค่า pH ที่สมดุลและใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการระคายต่อผิวรอบดวงตาและไม่ทำให้แสบตาขณะเช็ดล้างเครื่องสำอาง 

 

4. มีส่วนผสมบำรุงผิว

นอกจากคลีนซิ่งที่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีแล้ว ควรมีส่วนผสมที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวด้วย เช่น วิตามิน ซิงค์โกลคูเนต สารสกัดจากธรรมชาติ รวมถึงส่วนผสมที่มอบความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เป็นต้น เพื่อถนอมผิวที่บอบบาง ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และฟื้นบำรุงให้ผิวความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

5. มีสารมอบความชุ่มชื้น 

สำหรับผิวที่แห้งขาดน้ำและแพ้ง่าย ควรเลือกใช้คลีนซิ่งที่มีสารที่ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นในผิวธรรมชาติและมีสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย เช่น คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์หรือกลีเซอรีน (Glycerin) สามารถลดการระเหยของน้ำในผิวและทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานมากยิ่งขึ้น

 

เลือกคลีนซิ่งเช็ดหน้า เช็ดเครื่องสำอาง สูตรไหนดี?

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลีนซิ่งที่สามารถใช้แทนอายรีมูฟเวอร์ได้ สามารถเลือกใช้คลีนซิ่ง 2 สูตรจาก Bioderma ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางที่สามารถใช้ได้ทั่วใบหน้าและทำความสะอาดรอบดวงตาได้อย่างหมดจดโดยไม่ทำให้ผิวระคายง่าย สามารถใช้ได้ทั้งคนที่มีผิวผสม ผิวมัน ผิวแห้งขาดน้ำ และผิวบอบบาง แพ้ง่าย

อาย เมคอัพ รีมูฟเวอร์ Bioderma Sensibio H2O Eye

Eye remover สูตรไมเซล่า (Micella) ทำความสะอาดรอบดวงตาและริมฝีปากสำหรับผิวแพ้ง่าย ลบเครื่องสำอางและเครื่องสำอางแบบกันน้ำได้หมดจด พร้อมบำรุงขนตา ถนอมผิวรอบดวงตาและปากให้ชุ่มชื้นยาวนาน

คลีนซิ่งสูตรไหนดี_Bioderma Sensibio H2O Eye

คุณสมบัติ

  • ล้างเครื่องสำอางกันน้ำและติดแน่นได้อย่างหมดจดโดยไม่ต้องถู 
  • ไม่ทิ้งความมันและลดการสะสมแบคทีเรียสาเหตุของสิว
  • เสริมปราการผิวและบำรุงขนตาให้แข็งแรงขึ้น
  • ปลอบประโลมผิวแพ้ ให้ผิวสบายทันทีหลังใช้

 

คลีนซิ่ง Bioderma Sensibio H2O

คลีนซิ่งไมเซล่าวอเตอร์ (Micella Water) เช็ดทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมปลอบประโลมผิวแพ้ระคายง่ายด้วยส่วนผสมของน้ำตาลธรรมชาติบริสุทธิ์ (Rhamnose, Mannitol, FOS) ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกและการระคายผิว 

คลีนซิ่งสูตรไหนดี_Bioderma Sensibio H2O

คุณสมบัติ

  • ทำความสะอาดผิวล้ำลึก ขจัดสิ่งสกปรกขนาดเล็กและฝุ่น PM 2.5
  • อ่อนโยน ไม่ทำร้ายปราการผิว
  • มีสารสกัดจากแตงกวา ให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิวที่ระคาย 
  • มีค่า pH 5.5 ใกล้เคียงกับผิว ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน 
  • DAFTM PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของ Bioderma ช่วยลดผิวระคายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

 

หากใครที่ต้องแต่งหน้าบ่อยด้วยเครื่องสำอางที่ติดแน่นทนนานกว่าปกติ สามารถเลือกใช้อายรีมูฟเวอร์หรือคลีนซิ่งสำหรับเช็ดรอบดวงตาโดยเฉพาะได้ แต่สำหรับใครที่แต่งหน้าแบบ Everyday Look หรือต้องการความรวดเร็วในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า สามารถใช้คลีนซิ่งแทนกาารใช้อายรีมูฟเวอร์ได้เลย แต่อย่าลืม เลือกคลีนซิ่งให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองกันด้วยนะ!

 

BIODERMA Sensibio H2O eye อายรีมูฟเวอร์ เช็ดเมคอัพกันน้ำหมดจด พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก

คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

ผิวแพ้ง่าย

เทคโนโลยี ไบเฟส ไมเซล่า

Sensibio H2O eye

อายรีมูฟเวอร์ เช็ดเมคอัพกันน้ำหมดจด พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก สูตรอ่อนโยน ปลอบประโลมผิว เสริมปราการผิวแข็งแรง

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

ผิวแพ้ง่าย ผิวธรรมดา

เทคโนโลยี ไมเซล่า

Sensibio H2O

The original Cleansing Micellar Water. Soothes and respects the skin's balance.

คลีนซิ่งไมเซล่า วอเตอร์ (Micellar Water) ปลอบประโลมผิวแพ้ระคายและไม่ทำลายสมดุลของผิว

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น