ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน แดดช่วงเช้าก็ยังร้อน เรียกได้ว่าร้อนทุกช่วง ยากที่จะหลีกเลี่ยงแสงแดดนี้ด้วย ทำให้ตัวช่วยที่ดีที่สุดนอกจากการกางร่ม หลบแดด คือการทาครีมกันแดดนี่เอง ที่เป็นเกราะป้องกันผิว สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ของแสงแดดที่เป็นอันตราย 

พบว่ามีหลายคนที่ทากันแดดอยู่ทุกวัน แต่ผิวหน้ายังหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ ผิวไหม้แดด หน้าแก่ก่อนวัย เพราะโดนแดดทำร้าย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะปริมาณที่ทาครีมกันแดดไม่เพียงพอ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง แล้วทาครีมกันแดดที่ถูกต้องคือ 2 ข้อนิ้ว จริงหรือไม่? ทายังไงไม่ให้เป็นคราบ กันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงต้องเลือกยังไง พบคำตอบได้ในบทความนี้

อาจมีข้อสงสัยว่าต้องทากันแดด 2 ข้อนิ้ว หรือ 2 นิ้วมือ เพื่อให้กันแดดมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดทำอันตรายต่อผิวได้ แต่ที่แน่นอนคือแม้ว่าจะทากันแดด 2 ข้อนิ้วแล้ว ผิวหน้ายังเกิดปัญหาความหมองคล้ำจากแสงแดด เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้อยู่ เนื่องจากผิวหน้ามีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมกันแดดไม่มีประสิทธิภาพ ปริมาณในการทาแต่ละครั้งไม่เพียงพอ บางคนอาจจะยังใช้ครีมกันแดดเล็กน้อยแต้มเป็นจุดเล็กๆ ทั่วหน้า ทากันแดดเพียง 2 ข้อนิ้ว การเลือกกันแดดที่ไม่เหมาะสมกับกิจกรรมที่ต้องทำ การใช้กันแดดที่ค่า SPF ไม่เหมาะสม วิธีการทากันแดดไม่ถูกต้อง เกลี่ยไม่ทั่ว เป็นต้น จะเห็นได้ว่าแม้จะทากันแดดแล้วก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำได้อยู่ดี 

คนส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยินกันว่าต้องทากันแดด 2 ข้อนิ้วถึงจะเป็นปริมาณกันแดดที่ใช้แล้วเหมาะสมกับใบหน้า แต่แท้จริงแล้วการทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วหรือน้อยกว่านั้นยังไม่เพียงพอต่อการกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ฉลากกำหนดไว้ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีลดลง หลังๆ มีเภสัชหรือผู้เชี่ยวชาญครีมกันแดดออกมาให้ความรู้ว่าควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม นั่นก็คือ 2 นิ้วมือ โดยบีบครีมกันแดดให้เต็มนิ้ว ซึ่งเริ่มตั้งแต่โคนนิ้วจนถึงปลายนิ้วมือ ทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลาง หากว่าบีบครีมกันแดดออกมาแล้วเป็นเส้นบางๆ ให้บีบซ้ำๆ เพื่อให้มีความหนาขึ้นเต็ม 2 นิ้วมือ 

การใช้กันแดดปริมาณ 2 นิ้วมือ แทนการทากันแดด 2 ข้อนิ้วเพราะว่า ปริมาณนี้เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการใช้บริเวณทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทำให้ครีมกันแดดช่วยป้องกันรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมต้องทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม

หลายคนมักทาครีมกันแดดในปริมาณน้อย เพราะกลัวว่าระหว่างวันหน้าจะเป็นคราบ แต่ไม่ต้องกลัวว่าทาครีมกันแดดแล้วจะเป็นคราบ หากเราเลือกใช้ครีมกันแดดที่ดีและมีคุณภาพ ครีมกันแดดนั้นจะไม่ทิ้งคราบไว้บนผิวหน้า เนื่องจากการทาในปริมาณน้อยจะไม่สามารถช่วยป้องกันผิวได้เต็มประสิทธิภาพ จึงควรทากันแดดในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวีทั้งฝ้า กระ ริ้วรอย ความหมองคล้ำ แบบเต็มประสิทธิภาพตามที่เคลมไว้ 

ใครที่กำลังกังวลใจว่าการทาครีมกันแดดในปริมาณ 2 นิ้วมือ แล้วจะเป็นคราบไหม วันนี้จะมาบอกเคล็ดลับการทากันแดด 2 นิ้วมือยังไงไม่ให้เป็นคราบ โดยไม่ต้องลดปริมาณการทาครีมกันแดดลงเหลือ 2 ข้อนิ้ว หรือน้อยกว่านั้น วิธีการมีดังนี้

ล้างหน้าให้สะอาด

การที่ทาครีมกันแดดแล้วเป็นคราบอาจเป็นเพราะมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้า ทำให้เมื่อทากันแดดแล้วเป็นคราบ เป็นขุย เพราะฉะนั้นก่อนเริ่มทากันแดดควรล้างหน้าให้สะอาดไม่ให้มีสิ่งตกค้างบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ความมันบนใบหน้า เพื่อให้หน้ามีการเตรียมพร้อมได้รับการดูแลจากครีมกันแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นวิธีเตรียมผิวโดยการทาครีมกันแดดก่อนเริ่มต้นแต่งหน้าด้วย

เลือกกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง

หากทากันแดดแล้วเป็นคราบ ไม่ว่าจะทา 2 นิ้วมือ หรือทากันแดดแค่ 2 ข้อนิ้วแล้วก็ยังเป็นขุย เป็นคราบอยู่ เหตุเพราะใช้กันแดดที่ไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะฉะนั้นการเลือกกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวเป็นสิวง่าย อาจจะต้องเลือกกันแดดที่อ่อนโยน คุมมัน ไม่ก่อให้เกิดสิวง่าย ซึ่งการหากันแดดให้ถูกใจและถูกกับผิวหน้าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องหาให้ดี โดยครีมกันแดด Photoderm จาก Bioderma เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของกันแดดที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวมัน ผิวเป็นสิว หรือผิวแห้งที่มีโอกาสทาครีมกันแดดแล้วเป็นคราบเป็นขุยเพราะฉะนั้นการเลือกกันแดดให้ดีแล้วทาในปริมาณ 2 นิ้วมือ จะเป็นวิธีทาครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวก่อนแต่งหน้าที่ช่วยให้หน้าไม่เป็นคราบและได้รับประสิทธิภาพของการปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างเต็มที่

ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทาครีมกันแดดทุกครั้ง

ขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ทากันแดดแล้วไม่เป็นคราบคือการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น ช่วยป้องกันความแห้งของผิวที่เมื่อทาครีมกันแดดลงไปแล้วจะเป็นคราบเป็นขุย นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เมื่อทากันแดดทำให้มีการกระจายตัวได้มากขึ้น กันแดดที่ทาจะทำงานได้มีประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงแดด

เลี่ยงครีมบำรุงผิวบางชนิด ที่ใช้ร่วมกับครีมกันแดดแล้วเป็นคราบ

ครีมบำรุงผิวบางชนิด เมื่อใช้ก่อนการทาครีมกันแดดแล้วเป็นคราบได้เช่นกัน เนื่องจากครีมบำรุงผิวบางชนิดมีส่วนผสมที่ไม่เข้ากันกับกันแดด อย่างครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้เมื่อทาบำรุงหน้าจากนั้นทากันแดดตามแล้วเป็นคราบ เป็นขุยได้ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวบางชนิด โดยอาจจะหาครีมบำรุงตัวอื่นที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ หรือทาครีมบำรุงตัวนั้นในชั้นที่บางเบาไม่หนาเกินไป จึงจะลดการทาครีมกันแดดแล้วเป็นคราบได้  

การเลือกครีมกันแดดจะต้องเลือกที่สามารถกันได้ทั้งรังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) เพราะรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ที่ทำร้ายลึกถึงชั้นผิว ทำให้จะต้องพิจารณาดูเป็นองค์ประกอบแรก ซึ่ง SPF หรือ Sunburn Protection Factor คือค่าที่บอกถึงความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันการไหม้แดงของผิว ที่เกิดจาก รังสียูวีบี (UVB) หากมีค่า SPF ที่สูง จะทำให้สามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้นานมากขึ้นก่อนที่ผิวจะมีอาการไหม้แดง ซึ่งในค่าของ SPF จะมีตัวเลขตามหลัง โดยตัวเลขที่แสดงจะเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงจำนวนเท่าของเวลาในการปกป้องผิวเราจากแสงแดด เช่น ถ้าไม่ทาครีมกันแดดแล้วออกไปยืนท่ามกลางแสงแดดแล้วผิวเริ่มมีอาการไหม้แดงภายใน 10 นาที หากมีการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 2 นิ้วมือ กันแดดที่ใช้มีค่า SPF 15 จะช่วยเพิ่มระยะเวลาในการป้องกันแสงแดดเพิ่มขึ้นอีก 150 นาที (10*15=150 นาที) เรียกได้ว่า SPF สูงเท่าไร ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ ในส่วนของ PA หรือ Protection grade of UVA คือค่าที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ป้องกันรังสียูวีเอ (UVA) ซึ่งจะมีตัวระบุจำนวนเท่าที่สามารถปกป้องผิวได้ เช่น PA+ สามารถป้องกัน UVA ได้ 2-4 เท่า

กันแดดที่มีประสิทธิภาพควรเลือกค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปและมีสัญลักษณ์ PA +++ ขึ้นไป  อีกทั้งต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและกิจกรรมที่ทำอีกด้วย นอกจากนี้กันแดดที่มีประสิทธิภาพจะต้องทาบนผิวแล้วซึมไปได้เลย ไม่ทิ้งคราบ หากทากันแดด 2 นิ้วมือแล้วเป็นคราบ ลองใช้เคล็ดลับข้างต้นก่อน และหากทาครีมกันแดดแล้วยังเป็นคราบอยู่ควรเปลี่ยนยี่ห้อ แทนการลดปริมาณที่น้อยลงจากการทา 2 นิ้วมือมาทากันแดดเพียง 2 ข้อนิ้วแทน

 

สรุป

การทาครีมกันแดดทุกวัน แต่หน้ายังคล้ำเพราะมีหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทากันแดดเพียง 2 ข้อนิ้วปริมาณที่น้อยเกินไป ใช้กันแดดที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมจะต้องใช้ปริมาณ 2 นิ้วมือ จากโคนนิ้วจนถึงปลายนิ้วมือทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลาง โดยเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการทาทั่วทั้งใบหน้าและบริเวณลำคอ ซึ่งจะทำให้กันแดดมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่มาจากแสงแดดได้

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

ปกป้องผิวจากแสงแดด

ผิวแพ้ง่ายที่ต้องเผชิญกับแสงแดด

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม

คุณกำลังมองหาครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงสำหรับผิวของคุณอยู่หรือเปล่า

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฟโตเดิร์ม (Photoderm) คือผลิตภัณฑ์กันแดดครบวงจรสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวที่มีความไวต่อแสงแดด  โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นอย่างแสงแดดหรือสารเคมีผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย และผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดสำหรับผิวมันถึงผิวเป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ