Key Takeaway

  • อาการคันหน้ายุบยิบคืออาการคันเล็กน้อยที่เกิดขึ้นบนผิวหน้าซึ่งอาจเกิดจากผิวแห้ง การแพ้ หรือการระคายผิวจากสิ่งแวดล้อมหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ
  • คันหน้ายุบยิบมักเกิดจากผิวแห้ง การแพ้เครื่องสำอาง ภูมิแพ้ สภาพอากาศที่แห้ง หรือการติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า
  • วิธีแก้คันหน้ายุบยิบ ได้แก่ การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการเกา ใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
     

อาการคันหน้ายุบยิบมักเกิดจากการระคายผิว ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การแพ้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ผิวแห้ง หรือแม้แต่สภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม โดยอาการเหล่านี้สามารถทำให้ผิวรู้สึกไม่สบายและเกิดการอักเสบได้ มาหาเหตุผลและวิธีดูแลผิวเพื่อลดอาการระคายผิวกัน

คันหน้ายุบยิบคือการระคายผิวเล็กน้อยที่ทำให้เกิดอาการคัน แม้จะเป็นอาการเล็กน้อย แต่การเกาอาจทำให้เกิดรอยแดง แผล หรืออาการระคายผิวที่ทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ อาการคันบริเวณใบหน้ามีหลายสาเหตุ เช่น ผิวแห้ง ภูมิแพ้ตามฤดูกาล หรือการระคายผิวจากสารบางอย่าง แต่ไม่ควรมองข้ามอาการคันยุบยิบที่หน้า เพราะในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของปัญหาภายในร่างกาย เช่น โรคตับ ภาวะผิดปกติของต่อมไทรอยด์ โรคมะเร็ง หรือภาวะขาดธาตุเหล็ก เป็นต้น

คันหน้ายุบยิบอาจส่งผลให้ผิวเกิดอาการคันและระคายผิว หากปล่อยไว้อาจลุกลามไปสู่ปัญหาผิวที่รุนแรงขึ้น ซึ่งมักเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น
 

ใบหน้าแห้ง

อาการผิวแห้งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการคันยุบยิบตามหน้าได้ ซึ่งสามารถเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การขาดน้ำ การล้างหน้าบ่อย การอาบน้ำอุ่นนานเกินไป หรือการอยู่ในสภาพอากาศที่แห้ง เมื่อผิวแห้งจะทำให้รู้สึกตึงและคัน หากเกาผิวอาจทำให้เกิดการระคายผิวที่รุนแรงขึ้น 

การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) ช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้ดี ช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น ลดอาการคันและระคายผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

รักษาความสะอาดไม่ดีหรือแพ้เครื่องสำอาง

การดูแลความสะอาดไม่ดีหรือการแพ้เครื่องสำอางสามารถทำให้เกิดอาการคันหน้ายุบยิบได้ เนื่องจากสิ่งสกปรกหรือสารเคมีในเครื่องสำอางอาจอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดการระคายผิว การสัมผัสกับสารที่ทำให้แพ้อาจทำให้ผิวอักเสบ บวม และคัน รวมถึงทำให้ผิวแห้งและระคายผิวได้
 

ภูมิแพ้

ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการคันหน้ายุบยิบได้เช่นกัน ภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องอาจเป็นภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้วัคซีน หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้บางอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผิวรู้สึกคันและระคายผิวได้ โดยเฉพาะเมื่อผิวแห้งจะยิ่งทำให้เกิดอาการระคายง่ายและคันได้มากขึ้น
 

โรคผิวหนังต่างๆ

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังมักมีอาการคันยุบยิบที่หน้าด้วย โดยโรคผิวหนังที่มักพบอาการนี้ ได้แก่ ภาวะรูขุมขนอักเสบ ผิวหนังอักเสบ โรคลมพิษ และโรคสะเก็ดเงิน
 

อายุมากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังของร่างกายอาจผลิตน้ำมันและความชุ่มชื้นได้น้อยลง ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้งและเกิดอาการหน้าคันยุบยิบตามมา นอกจากนี้การเสื่อมของ Skin barrier หรือเกราะปกป้องผิวที่ทำหน้าที่ลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสารภายนอก ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวระคายง่ายและเกิดอาการคันได้ง่ายขึ้น
 

ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงจากการตั้งครรภ์

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์สามารถทำให้ผิวแห้งและคันได้ง่าย เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้หน้าลอกและระคายผิว เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการคันหน้ายุบยิบ โดยเฉพาะในช่วงที่ฮอร์โมนปรับตัวเร็ว
 

โรคที่เกี่ยวกับตับ ไต ไทรอยด์

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับ เช่น โรคมะเร็งตับหรือโรคนิ่วในถุงน้ำดี มักมีอาการคันยุบยิบตามผิวหนังและใบหน้า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์ก็อาจพบอาการคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณมือ เท้า และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

อาการคันหน้ายุบยิบสามารถเกิดได้หลายรูปแบบ และมีหลายสาเหตุที่ทำให้ผิวรู้สึกไม่สบายตัว เช่น
 

คันหน้ายุบยิบพร้อมผื่น 

คันหน้ายุบยิบพร้อมผื่น เป็นหนึ่งในรูปแบบที่พบได้บ่อย โดยผู้ที่มีอาการนี้จะรู้สึกคันบนใบหน้าพร้อมกับมีผื่นหรือผดผื่นคันเกิดขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักอาจมาจากการแพ้ภูมิแพ้ของร่างกาย ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารระคายผิว เช่น สารเคมีทำความสะอาด สบู่ หรืออาหารบางชนิด
 

คันหน้ายุบยิบแต่ไม่มีผื่น

อาการคันหน้ายุบยิบโดยไม่มีผื่นเป็นอาการที่หลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากอาการนี้ไม่แสดงความรุนแรงและอาจดูเหมือนเป็นเพียงความรำคาญเล็กน้อยจากผิวไม่สบายตัว โดยทั่วไปมักเกิดจากการแพ้เล็กน้อยต่อสภาพแวดล้อม เช่น การอาบน้ำร้อนทำให้ผิวแห้ง ล้างหน้าแล้วคันยุบยิบ หรือการสัมผัสกับสารระคายผิวบางอย่าง

อย่างไรก็ตามอาการคันหน้ายุบยิบโดยไม่มีผื่นก็เป็นอาการที่ควรเฝ้าระวัง เนื่องจากในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคภายใน เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต ภาวะขาดน้ำ หรือขาดธาตุเหล็ก ดังนั้นหากมีอาการคันที่ใบหน้าแต่ไม่มีผื่น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
 

คันหน้ายุบยิบและมีสิว

สิวที่เกิดจากเหงื่อ เครื่องสำอาง รูขุมขนอุดตัน หรือฮอร์โมน สามารถทำให้แบคทีเรียกระจายตัวทั่วใบหน้าและเป็นสาเหตุของการเกิดอาการคันยุบยิบที่หน้าได้ หากใบหน้าเริ่มมีอาการคันรุนแรง พร้อมกับสิวหรือซีสต์ขึ้นร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วนเพื่อตรวจสอบและรับการบรรเทาอาการที่เหมาะสม
 

คันหน้ายุบยิบจากระบบประสาท

อาการคันหน้ายุบยิบที่เกิดจากระบบประสาทเป็นอาการที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคย โดยเกิดจากเส้นประสาทในบริเวณใบหน้าตรวจจับสารระคายผิวและส่งสัญญาณไปยังสมอง จึงทำให้เกิดอาการคันขึ้น อาการคันประเภทนี้บางครั้งอาจเชื่อมโยงกับโรคงูสวัดหรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุของอาการคันได้
 

คันหน้ายุบยิบตอนตั้งครรภ์

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คันยุบยิบตามหน้าอาจเกิดขึ้นได้ โดยมักพบในบริเวณใบหน้า มือ และเท้า ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะน้ำดีคั่งในตับ (Obstetric cholestasis) อาการคันจากภาวะนี้มักจะไม่มีผื่นร่วมด้วย แต่ในบางกรณีอาจมีอาการปัสสาวะสีเข้มเกิดขึ้นพร้อมกัน 

โดยทั่วไปอาการนี้มักเกิดขึ้นประมาณสัปดาห์ที่ 30 ของการตั้งครรภ์ ดังนั้นควรปรึกษาคุณหมอเพื่อเฝ้าระวังอาการและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจตามมา

เมื่อเกิดอาการคันหน้ายุบยิบ สามารถดูแลและบรรเทาได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
 

หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่มีอาการ

เมื่อเกิดอาการคัน ปฏิกิริยาธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นคือการเกา แต่การเกานั้นอาจทำให้เกิดอาการระคายผิว แผล หรือแม้กระทั่งการอักเสบและติดเชื้อ หากคันเริ่มดีขึ้นเอง การเกาอาจขัดขวางกระบวนการดูแลบรรเทาอาการ ทำให้ยากต่อการหายขาด

ดังนั้นทางที่ดีคือการหลีกเลี่ยงการเกา หากจำเป็นควรตัดเล็บให้สั้นเพื่อลดโอกาสเกิดการระคายผิว และถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ การสวมถุงมือฝ้ายขณะนอนหลับจะช่วยลดการระคายผิวจากการเกาได้
 

หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่อาจทำให้เกิดอาการคันหน้ายุบยิบ เช่น ขนสัตว์ น้ำที่ไม่สะอาด เครื่องนอนที่ไม่สะอาด รวมถึงพื้นที่ที่มีฝุ่น ควัน หรือมลภาวะในปริมาณมาก เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายผิวและการเกิดอาการคันบนผิวหน้า
 

ประคบเย็นที่ใบหน้า

การประคบเย็นบริเวณใบหน้าหรือล้างหน้าด้วยน้ำเย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการคันได้ โดยวิธีนี้จะช่วยลดอาการคันโดยไม่ต้องเกาผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายผิวมากขึ้นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมา
 

ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น

การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี หากอุณหภูมิของน้ำเย็นจัดเกินไป สามารถใช้น้ำที่อุ่นขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นและยังช่วยลดอาการคันได้เช่นกัน
 

บำรุงผิวหน้าด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์

การบำรุงผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและอาจช่วยบรรเทาอาการคันหน้ายุบยิบได้ แต่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการระคายผิวเพิ่มเติม
 

ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบอ่อนโยน

ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนหรือสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายต่อผิว
 

ทายาบรรเทาอาการคันหน้ายุบยับ

สามารถใช้ยาที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ยาทาแก้คัน คาลาไมน์โลชั่น หรือยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน เช่น ยาไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) แและควรใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

 

สรุป

อาการคันหน้ายุบยิบคืออาการคันเล็กน้อยบนผิวหน้า ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น ผิวแห้ง การแพ้เครื่องสำอาง ภูมิแพ้ หรือสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม รวมถึงปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น สิว หรือโรคผิวหนังอักเสบ วิธีแก้สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการเกา การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน การประคบเย็น หรือการใช้ยาลดอาการคันตามคำแนะนำ

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮดราบิโอ

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวขาดน้ำ

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮดราบิโอ (Hydrabio)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮดราบิโอ

ทุกสภาพผิว (ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม) อาจประสบปัญหาผิวขาดน้ำได้  ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำจะส่งผลให้ผิวแห้งตึงและสีผิวดูหมองคล้ำลง

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮดราบิโอ (Hydrabio) คือผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในชีวิตประจำวันตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดจนถึงการดูแลผิว  ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผิวขาดน้ำ (ไมเซล่า วอเตอร์ และน้ำนม ) เซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น ... เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!