Skin Barrier คืออะไร? พร้อมแนะนำวิธีเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
Skin Barrier คือผิวหนังชั้นนอกที่ช่วยป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง แต่ปราการผิวก็อ่อนแอได้เช่นกัน ไปหาสาเหตุปราการผิวอ่อนแอ พร้อมวิธีเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ได้ที่นี่
Skin Barrier คือผิวหนังชั้นนอกที่ช่วยป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง แต่ปราการผิวก็อ่อนแอได้เช่นกัน ไปหาสาเหตุปราการผิวอ่อนแอ พร้อมวิธีเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ได้ที่นี่
Key Takeaway
Skin Barrier หรือเกราะป้องกันผิว เปรียบเสมือนกำแพงเมืองที่คอยปกป้องผิวของคุณจากมลภาวะ แบคทีเรีย และแสงแดดที่จะเข้ามาทำร้ายผิว ปราการผิวที่แข็งแรงจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ลดการระคายผิว และป้องกันปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวลอก ผิวอักเสบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยได้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่ามีปัจจัยหลายอย่าง ที่สามารถทำลายปราการผิวของคุณได้
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจ Skin Barrier หรือเกราะป้องกันผิว ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีการเสริมสร้างปราการผิวให้แข็งแรง เพื่อผิวสุขภาพดีเปล่งปลั่ง จะมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมกันได้เลย
Skin Barrier หรือเกราะป้องกันผิว คือ ชั้นผิวหนังชั้นนอกสุด เหมือนกับกำแพงอิฐที่แข็งแรง มีปูนซีเมนต์ยึดเกาะแน่นหนา ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้ามาในบ้านได้ ในทำนองเดียวกัน Skin Barrier ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ผิว และช่วยรักษาความชุ่มชื้นภายในผิวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ซึ่งการทำงาน Skin Barrier ประกอบด้วยเซลล์ผิวที่เรียงตัวกันเป็นชั้นๆ และมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น เซราไมด์ (Ceramide), กรดไขมัน (Fatty Acids) และคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ซึ่งสารเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำ ป้องกันสิ่งสกปรก รวมถึงควบคุมการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบของผิว
Skin Barrier มีความสำคัญเนื่องจากสามารถแก้ปัญหาผิวได้ ดังนี้
หากมีชั้นปราการผิวที่แข็งแรง ผิวจะดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน เรียบลื่น ไม่ขรุขระ และลดการเกิดการระคายผิว ในทางกลับกัน หากชั้นปราการผิวอ่อนแอ จะส่งผลเสียต่อผิวในลักษณะต่างๆ ดังนี้
เมื่อชั้นปราการผิวอ่อนแอลง ผิวก็จะสูญเสียความชุ่มชื้นและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวต่างๆ มากขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้ชั้นปราการผิวอ่อนแอนั้นมีทั้งปัจจัยภายในร่างกาย ปัจจัยภายนอก และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเอง ดังนี้
เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้ชั้นปราการผิวอ่อนแอ และผลเสียที่จะตามมาแล้ว เรามาดูวิธีการเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เพื่อสร้างชั้นปราการผิวแข็งแรง ให้ผิวสวยกันเลยดีกว่า
เซราไมด์ เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในชั้นปราการผิวตามธรรมชาติ มีหน้าที่หลักในการกักเก็บความชื้น และเสริมสร้างชั้นปราการผิวให้แข็งแรง การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์จึงช่วยเสริมสร้างชั้นปราการผิวให้แข็งแรงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ระบุว่ามีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) ทาบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ
ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เสริมเกราะป้องกันผิวทุกวัน เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ลดการสูญเสียน้ำ และลดการระคายผิว ดังนั้น การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างชั้นปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
แสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำลายชั้นปราการผิว จึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรง เพราะจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายได้ หากจำเป็นต้องตากแดดเป็นเวลานาน ควรสวมหมวก กางร่ม หรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายเมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที
การดูแลผิวที่รุนแรงเกินไป เช่น การขัดผิวแรงๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือการทำความสะอาดผิวบ่อยเกินไป จะทำให้ชั้นปราการผิวเสียหาย จึ้งต้องเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการขัดผิวแรงๆ และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และระคายผิวง่ายนั่นเอง
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ชั้นปราการผิวอ่อนแอลง ทำให้ผิวแก่ก่อนวัยและเกิดริ้วรอย ดังนั้น ควรเลิกสูบบุหรี่ หรือลดปริมาณการสูบบุหรี่ลง เพราะการเลิกสูบบุหรี่จะช่วยให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ทำให้ผิวสุขภาพดีและชั้นปราการผิวแข็งแรงขึ้น
การเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว หรือการดูแลชั้นปราการผิวให้แข็งแรงนั้นมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
การดูแลและเสริมสร้างชั้นปราการผิวหรือ Skin Barrier เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นด่านแรกในการปกป้องผิวของเราจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งนี้ การใส่ใจดูแลชั้นปราการผิวอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำลายผิว และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต จะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรง ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดีในระยะยาว ดังนั้น แนะนำให้เริ่มต้นดูแล Skin Barrier ของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในระยะยาว