มาสก์หน้าทุกวันดีไหม? มาสก์หน้าอย่างไรให้ได้ประโยชน์ และเห็นผลเร็ว
มาสก์หน้าทุกวันดีไหม? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำติดกันทุกวันเป็นประจำ แล้วจะมาสก์หน้าอย่างไรให้ได้ประโยชน์ มาไขข้อข้องใจ และมาสก์หน้ากันอย่างถูกวิธีไปพร้อมในบทความนี้
มาสก์หน้าทุกวันดีไหม? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำติดกันทุกวันเป็นประจำ แล้วจะมาสก์หน้าอย่างไรให้ได้ประโยชน์ มาไขข้อข้องใจ และมาสก์หน้ากันอย่างถูกวิธีไปพร้อมในบทความนี้
มาส์กหน้าทุกวันดีไหม? การมาส์กหน้าที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีคนออกมาแชร์เคล็ดลับผิวกระจ่างใส ดูโกลว์เป็นธรรมชาติด้วยการมาส์กหน้ากันมากมาย แต่ที่จริงแล้วการมาส์กหน้าช่วยอะไรบ้าง? ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละกี่ครั้ง? ในบทความนี้ทาง Bioderma จะพาไปหาคำตอบเกี่ยวกับการมาส์กหน้ากัน
การมาส์กหน้า คือ วิธีการบำรุงผิวรูปแบบหนึ่งที่นำสารที่มีสรรพคุณในการบำรุงผิวมาโปะบนใบหน้า เพื่อบำรุงผิว ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมาส์กหน้านั้นช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยลดปัญหาผิวหนัง อีกทั้งการมาส์กหน้าเป็นการบำรุงผิวได้ล้ำลึก จึงควรมาสก์หน้าควบคู่ไปกับการทาครีมด้วย
โดยทั่วไปแล้วการมาส์กหน้าแบ่งออกเป็น 10 แบบด้วยกัน ได้แก่
การมาส์กหน้าทุกวันจำเป็นหรือไม่? แล้วการทาครีมทุกวันไม่เพียงพอสำหรับการบำรุงผิวจริงหรือ? การมาส์กหน้ามีส่วนช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว กระชับรูขุมขน จากเดิมที่เคยมีรูขุมขนกว้าง รูขุมขนจะแลดูกระชับมากกว่าเดิม ผิวเรียบเนียน ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบระหว่างการมาส์กหน้ากับการทาครีมหรือทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพียงอย่างเดียว จะเห็นว่าการมาส์กหน้าเพิ่มเติมด้วยนั้นจะช่วยบำรุงผิวได้ดีกว่า เนื่องจากการมาส์กหน้าสามารถลงลึกสู่ชั้นใต้ผิวหนังได้ดีกว่า จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วมากกว่าการทาครีมเพียงอย่างเดียว
มาส์กหน้าทุกวันช่วยให้หน้าใสขึ้นจริงหรือไม่? ควรมาส์กหน้าอาทิตย์ละกี่ครั้ง? จริงๆ แล้วการมาส์กหน้าทุกวันถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้จะต้องดูส่วนผสมของมาส์กที่ใช้ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากมาส์กบางชนิดมีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือเป็นมาส์กที่มีข้อความระบุว่าช่วยต่อต้านริ้วรอยต่างๆ จะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว หากได้รับสารเหล่านี้ทุกวัน อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ดังนั้นการมาส์กหน้าทุกวันที่ดี ควรใช้มาส์กที่เป็นสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น
สำหรับวิธีมาส์กหน้าที่ถูกต้องและเห็นผลอย่างรวดเร็วนั้น สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือการรักษาความสะอาด ให้ทำการล้างมือ ล้างหน้าให้สะอาดก่อนมาส์กหน้าทุกครั้ง และเริ่มปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้
ความสะอาด คือ สิ่งสำคัญของการดูแลผิว ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้แต่งหน้า หรือไปทำงานแล้วเพิ่งกลับมา ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดใบหน้า หลังจากนั้นค่อยล้างหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกอีกทีด้วยคลีนเซอร์ โดยควรทำความสะอาดและล้างหน้าก่อนทำการมาส์กหน้าทุกครั้ง เนื่องจากเป็นการเปิดรูขุมขนเพื่อเตรียมความพร้อม ทั้งนี้คลีนซิ่งกับคลีนเซอร์ที่เลือกใช้ ควรพิจารณาจากปัญหาผิวของตนเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น
มาส์กแต่ละแบบก็มีเนื้อที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อเมื่อมาส์กหน้าเสร็จแล้ว ไม่ต้องล้างออก ส่วนบางยี่ห้ออาจต้องล้างออกด้วยน้ำสะอาดก่อนก็มี แนะนำให้อ่านวิธีการใช้งานให้ละเอียดก่อนทำการมาส์กหน้าทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสการแพ้หรือการระคายเคือง
ในปัจจุบันมีการมาส์กหน้าอยู่หลายรูปแบบ ทั้งแบบโคลน แบบมาส์กชีท แบบเจล ฯลฯ อีกทั้งมีหลากหลายสูตรให้เลือกตามปัญหาผิว ดังนั้นการมาส์กหน้าที่ดี จึงควรเลือกสูตรมาส์กตามปัญหาสภาพผิวหนังของตนเอง เช่น หากมีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ให้เลือกมาส์กสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นนั่นเอง
หากใครที่เคยเชื่อว่ามาส์กหน้านานๆ ยิ่งดี คุ้มค่า ประหยัดนั้น ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ โดยปกติแล้วไม่ควรมาส์กหน้าทุกวันเกินกว่า 20 นาที เนื่องจากแผ่นมาส์กจะเริ่มแห้งจนเกิดกระบวนการออสโมซิส ทำให้ความชุ่มชื้นบนใบหน้าถูกดึงออกมา แทนที่จะได้รับความชุ่มชื้น หน้าจะแห้งเสียมากกว่าเดิม จึงควรมาส์กหน้าแต่พอดีตามเวลาที่กำหนด
เป็นไปได้ หากมาส์กหน้าทุกวันเป็นระยะเวลาเกินกว่า 20 นาทีต่อครั้ง เนื่องจากแผ่นมาส์กจะเริ่มแห้ง และดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ อาจเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าปกติ
การมาส์กหน้า คือ วิธีการดูแลผิวรูปแบบหนึ่งที่ใช้สารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวมาวางไว้บนใบหน้า ทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 10-20 นาที โดยการมาส์กหน้าทุกวัน ช่วยให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนมากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้วิธีการมาส์กหน้าทุกวันแบบที่ถูกต้อง คือ การทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งสูตรที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของตนเองก่อน แล้วมาส์กหน้าด้วยมาส์กสูตรที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จากนั้นค่อยตามด้วยครีมบำรุงผิว เนื่องจากการมาส์กหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวทุกอย่างได้ จึงควรใช้ครีมบำรุงเพิ่มเติมหลังจากมาส์กหน้า เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใส ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น