ไฮยาลูรอน คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ทำไมจึงจำเป็นในขั้นตอนการบำรุงผิว
ไฮยาลูรอน คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ทำไมจึงจำเป็นในขั้นตอนการบำรุงผิว บทความนี้ จะพาไปดูความสามารถของไฮยาลูรอนในสกินแคร์ ว่าช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างไรบ้าง
ไฮยาลูรอน คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ทำไมจึงจำเป็นในขั้นตอนการบำรุงผิว บทความนี้ จะพาไปดูความสามารถของไฮยาลูรอนในสกินแคร์ ว่าช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างไรบ้าง
KEY TAKEAWAYS
ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยารูโลนิก (Hyaluronic acid) เป็นกรดธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์ มีส่วนช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวมีความสมดุล และช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ แต่เมื่ออายุมากขึ้นกรดไฮยาลูรอนธรรมชาติอาจผลิตได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านจนเกิดเป็นริ้วรอยแห่งวัย ผิวขาดสมดุล สูญเสียความยืดหยุ่น และอาจเกิดปัญหาสุขภาพผิวอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย บทความนี้จะชวนไปทำความรู้จักกรดไฮยาลูรอนที่หลายคนคุ้นหูกันว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร แล้วทำไมถึงจำเป็นต่อการบำรุงผิว
กรดไฮยาลูโรนิค หรือไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) คือกรดธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ เกิดขึ้น และอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่น แต่เมื่ออายุเยอะมากขึ้น กรดชนิดนี้จะค่อยๆ เสื่อมสลาย และมีอัตราการผลิตลดน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อไฮยาลูรอนผลิตได้น้อยลง จึงส่งผลใบหน้าของคนเราเกิดริ้วรอย ร่องลึก ผิวดูแห้งกร้าน หมองคล้ำ และสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวไป อย่างไรก็ตาม ไฮยาลูรอนยังสามารถพบได้ในสกินแคร์ประเภทเซรั่มไฮยาลูรอน หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทดแทนไฮยาลูรอนธรรมชาติได้เช่นกัน
ไฮยาลูรอนนอกจากจะมีคุณสมบัติหลักที่ช่วยดูดซับและกักเก็บน้ำในชั้นผิวแล้ว ไฮยาลูรอนยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายต่อผิว ดังนี้
หนึ่งในคุณสมบัติหลักของสารไฮยาลูรอน คือการดูดซับและกักเก็บน้ำให้กับชั้นผิว ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยื่นหยุ่น และไม่แห้งกร้าน อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่อายุช่วง 20 ปีเป็นต้นไป อัตราการผลิตไฮยาลูรอนในชั้นผิวจะลดน้อยลงเรื่อยๆ การเติมไฮยาลูรอนให้ชั้นผิว จึงถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการปลอบประโลมผิวให้มีสุขภาพดี และหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียน้ำตามอายุจริงของผิวได้อีกด้วย หากต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแบบล้ำลึก และคงอยู่กับผิวยาวนาน Hydrabio Serum เป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นผิว เติมน้ำให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ และช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้ยาวนาน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการอุดตันของรูขุมขน อีกทั้งยังเหมาะกับทุกสภาพผิว
ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นมีโอกาสสูงที่จะเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ง่าย เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการสร้างไฮยาลูรอนในชั้นผิวจะค่อยๆ ลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาผิวตามมาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งขาดความสมดุล ผิวลอกเป็นขุย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอยเล็กๆ หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี ริ้วรอยเหล่านั้นจะค่อยๆ มีความลึกมากขึ้น และกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกที่ยากต่อการดูแลในอนาคต การได้ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนอย่างต่อเนื่อง สามารถลดโอกาสการเกิดริ้วรอย หรือร่องลึกได้ เพราะเป็นการเสริมความชุ่มชื้น เติมน้ำให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ และช่วยเสริมความยืดหยุ่นของชั้นผิว เพื่อให้ผิวนุ่ม เด้งกระชับ แลดูอ่อนเยาว์
เมื่อสุขภาพของผิวแข็งแรง สิ่งที่ตามมาคือผิวของคุณจะแลดูสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ดูสดใส และเรียบเนียน เพราะความสมดุลในชั้นผิวเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม หากคุณกำลังประสบกับปัญหาผิวหมองคล้ำ หน้าโทรม ดูไม่สดใส การได้บำรุงผิวด้วยเซรั่มที่มีไฮยาลูรอนเข้มข้นอย่าง Hydrabio Serum ก็จะเป็นตัวช่วยที่เพิ่มความชุ่มชื้น คืนความสมดุลให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากชั้นผิวของคุณขาดการบำรุงด้วยไฮยาลูรอน อาจก่อให้เกิดภาวะผิวขาดน้ำ และสูญเสียความสมดุลในชั้นผิว จนทำให้ผิวโทรมไปตามกาลเวลา โดยปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อผิวสูญเสียการบำรุงด้วยไฮยาลูรอน มีดังนี้
ปัญหาริ้วรอยถือเป็นสิ่งที่ใครหลายคนกังวล เนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณอายุมากขึ้นเรื่อยๆ และผิวกำลังสูญเสียความยืดหยุ่น และขาดความชุ่มชื้นในชั้นผิวอย่างมาก โดยธรรมชาติแล้ว เมื่ออายุเข้าเลข 20 ผิวของคนเราจะเริ่มผลิตคอลลาเจน อีลาสติน รวมถึงไฮยาลูรอนได้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไฮยาลูรอนที่เปรียบเสมือนสารหล่อลื่น และตัวกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว เมื่อขาดไฮยาลูรอนไปแน่นอนว่าชั้นผิวจะเริ่มแห้งกร้าน หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยที่เริ่มมองเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกหนึ่งสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อผิวขาดไฮยาลูรอนคือ ผิวลอกเป็นขุย เนื่องจากขาดความชุ่มชื้นในชั้นผิว หากคุณมีผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น และขาดการดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภาวะผิวลอกเป็นขุยมากขึ้น ทำให้หนึ่งในสกินแคร์ที่ไม่ควรขาดสำหรับคนผิวแห้ง และผู้ที่ผิวขาดความสมดุลจนเกิดความมันมากเกินไป คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีไฮยาลูรอนเข้มข้น เพื่อช่วยเสริมความชุ่มชื้น คืนความสมดุลให้กับผิว และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว เพื่อให้ผิวดูอิ่มน้ำอยู่เสมอ
ผิวที่ขาดการบำรุงและสูญเสียความชุ่มชื้น นอกจากปัญหาริ้วรอย และผิวแห้งกร้านแล้ว อีกหนึ่งในสิ่งที่เป็นผลกระทบจากผิวขาดการบำรุงด้วยไฮยาลูรอนคือปัญหาผิวหมอง ผิวดูโทรม ไม่สดใส เมื่อผิวสุขภาพไม่ดี สิ่งที่สามารถสังเกตได้ง่ายที่สุดคือ ความเปล่งปลั่งของผิวจะหายไป โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีความเสี่ยงจากแสงแดด ฝุ่น ควัน และมลภาวะ ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การบำรุงผิวด้วยไฮยาลูรอน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นประจำ
เมื่อเห็นความสำคัญของไฮยาลูรอน และเหตุผลที่ต้องใช้สกินแคร์ที่มีสารไฮยาลูรอนกันแล้ว ไปดูกันต่อว่าไฮยาลูรอนมีวิธีใช้งาน และวิธีการเลือกไฮยาลูรอนที่เฉพาะเจาะจงกับสภาพผิวอย่างไรบ้าง เพื่อให้การใช้ไฮยาลูรอนบำรุงผิวได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เนื่องจากปัญหาผิวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ให้คุณลองลิสต์ปัญหาผิวในเบื้องต้นก่อนว่ามีปัญหาผิวแบบใด เช่น ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ผิวมัน ขาดความสมดุล หรือผิวผสม เพื่อให้สามารถเลือกสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณได้อย่างถูกต้อง
สกินแคร์ในทุกวันนี้มีการใส่ส่วนผสมที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ครอบคลุม ลองสังเกตส่วนผสมที่มีอยู่ในสกินแคร์ที่เลือกซื้อให้ดี เนื่องจากคุณสามารถเลือกใช้งานสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับผิวคุณได้สูงสุดด้วยสกินแคร์เพียงตัวเดียวได้ อีกทั้งวิธีนี้ยังเป็นการลดขั้นตอนการบำรุงไม่ให้ซ้ำซ้อน หรือมากเกินไปได้
ปริมาณและอัตราการผลิตไฮยาลูรอนในชั้นผิวของมนุษย์จะค่อยๆ ลดลงไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้ไฮยาลูรอนบำรุงผิว คุณควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับขนาดโมเลกุลของไฮยาลูรอนให้ดี เพราะโมเลกุลของไฮยาลูรอนที่มีขนาดเล็ก จะสามารถซึมเข้าไปในชั้นผิวได้ดีมากกว่าไฮยาลูรอนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ โดยหากต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัย ควรเลือกใช้ไฮยาลูรอนประเภท HWW HA ที่ช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิว หรือ LMW-HA ที่เป็นไฮยาลูรอนขนาด 52 kDa ซึ่งสามารถช่วยเติมเต็มริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และยังช่วยบำรุงให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
การใช้ไฮยาลูรอนในรูปแบบของสกินแคร์ คุณควรทาเช้า-เย็นอย่างต่อเนื่องในทุกวัน เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้น และช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยแห่งวัย หากต้องการเติมความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ คุณสามารถเลือกใช้ทั้งเซรั่ม และมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน โดยเรียงลำดับการทาจากเนื้อสัมผัสของสกินแคร์ที่มีน้ำหนักเบากว่าก่อน คือเริ่มด้วยการทาเซรั่มไฮยาลูรอน ตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์
หากใช้ไฮยาลูรอนในรูปแบบของอาหารเสริม คุณสามารถรับประทานได้ในทุกช่วงเวลาที่ต้องการ แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานหลังจากอาหารเสร็จทันที เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหาร และวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุด
ไฮยาลูรอน คือ กรดชนิดหนึ่งที่มีอยู่ใต้ชั้นผิวและร่างกายของมนุษย์ โดยไฮยาลูรอนสามารถผลิตขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุ 20 ปีเป็นต้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิตไฮยาลูรอนได้น้อยลง และไม่เสถียรเท่าในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น หากชั้นผิวขาดไฮยาลูรอนก็จะทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอย ผิวโทรม หรือผิวหมองคล้ำได้
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน เพื่อทดแทนการลดลงของไฮยาลูรอนธรรมชาติในชั้นผิวได้ โดยเฉพาะสกินแคร์ประเภทเซรั่ม หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวค่อยๆ กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี และห่างไกลจากปัญหาริ้วรอยแห่งวัย
ผิวขาดน้ำ
ทุกสภาพผิว (ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม) อาจประสบปัญหาผิวขาดน้ำได้ ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำจะส่งผลให้ผิวแห้งตึงและสีผิวดูหมองคล้ำลง
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไฮดราบิโอ (Hydrabio) คือผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในชีวิตประจำวันตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดจนถึงการดูแลผิว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผิวขาดน้ำ (ไมเซล่า วอเตอร์ และน้ำนม ) เซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น ... เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันให้ตัวคุณเลย!