วิธีการดูแลผิว
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทาตอนเช้าได้ไหม? และควรทายังไงไม่ให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวสามารถทาตอนเช้าได้ไหม ทำไมบางคนทาแล้วหน้ามัน เป็นสิว และมีวิธีทายังไงให้หน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน
วิธีการดูแลผิว
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวสามารถทาตอนเช้าได้ไหม ทำไมบางคนทาแล้วหน้ามัน เป็นสิว และมีวิธีทายังไงให้หน้าไม่มันเยิ้มระหว่างวัน
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อลดและป้องกันไม่ให้ผิวเกิดภาวะขาดน้ำ แห้ง ลอก คัน หรือรู้สึกระคาย ถึงแม้ว่าผิวหนังของเราจะสามารถผลิตสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นได้เองตามธรรมชาติ แต่อากาศและสภาพแวดล้อมยังส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นไป จึงควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
แต่สำหรับหลาย ๆ คนอาจพบว่าเมื่อทามอยส์เจอร์ไรเซอร์แล้วกลับพบว่าหน้ามันกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ตอนเช้าจะทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน แถมยังทำให้เกิดสิวตามมาอีกด้วย แล้วต้องทาตอนไหน ทายังไงไม่ให้หน้ามันระหว่างวัน?
หากทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วหน้ามันมากกว่าเดิม ทั้งที่โดยปกติแล้วผิวแทบไม่มันหรือไม่เคยมีปัญหาหน้าเยิ้มระหว่างวันมาก่อน นั่นอาจเป็นเพราะว่ามอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้มีส่วนผสมของน้ำมันแร่ (Mineral Oil) หรือปิโตเลียมมากจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผิวหน้ามันขึ้นและเกิดการอุดตันได้ง่าย นอกจากนี้การเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวยังทำให้เกิดสิวได้ โดยเฉพาะตัวมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มักมีส่วนผสมของ Comedogenic ที่อาจไปอุดตันในรูขุมขน จนทำให้เกิดสิวขึ้นมาด้วยนั่นเอง
ดังนั้นหากไม่อยากทามอยส์เจอไรเซอร์แล้วหน้ามัน เป็นสิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเหมาะสมกับประเภทผิวของตัวตนเอง ซึ่งมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ได้แก่
1. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล มีความบางเบาและมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่ายและรวดเร็วกว่ามอยส์เจอไรเซอร์เนื้ออื่น ๆ เหมาะสำหรับผิวบอบบางหรือผิวแพ้ระคายง่าย โดยอาจเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic acid , Glycerine หรือ Xylitol ที่ช่วยเติมและกักเก็บน้ำในผิวเพื่อคงความชุ่มชื้นยาวนานยิ่งขึ้น
2. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้ออิมัลชัน มีลักษณะเหลวคล้ายน้ำนม แต่เนื้อหนักกว่าแบบเนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวธรรมดา โดยสามารถเลือกใช้ Bioderma Sensibio Defensive Serum มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงและปลอบประโลมปราการผิวหน้าให้แข็งแรง ทำให้ผิวอ่อนนุ่มและรู้สึกสบายผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น มีความเข้มข้นน้อยกว่าแบบเนื้อครีม เหมาะสำหรับผิวธรรมดาไปจนถึงผิวมัน เช่น Bioderma Sebium Pore Refiner ครีมบำรุงผิวสำหรับคนผิวมันและผิวผสมที่มีความบางเบา สามารถทาได้ทั่วใบหน้าและบริเวณ T-Zone สามารถใช้ควบคู่กับครีมบำรุงอื่น ๆ หรือใช้เป็นเมคอัพเบสได้
4. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม มีความเข้มข้นและหนัก ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะสำหรับคนที่ผิวแห้งมากหรือต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษอย่าง Bioderma Sebium Sensitive มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีมบางเบา สำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งขาดน้ำ มีส่วนช่วยลดการผลิตน้ำมันในรูขุมขนด้วยส่วนผสมของ Zinc Gluconate ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมันในระดับที่พอดี เมื่อทาแล้วจะได้ผิวที่นวลเนียน ไม่มันวาว รวมถึงสามารถใช้ควบคู่กับยาทาสิวได้
มอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถทาได้ทั้งในตอนเช้าและก่อนนอน โดยสามารถทาหลังจากล้างหน้าแล้วประมาณ 3 นาที เนื่องจากความชุ่มชื้นในผิวยังคงอยู่ จึงทำให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้น แต่หากใครที่กังวลว่าการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ในตอนเช้าแล้วจะทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน แนะนำว่าเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวของตนเองและเรียงลำดับการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ร่วมกับสกินแคร์อื่น ๆ ให้เหมาะสมด้วย
การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ตอนเช้าหรือการทาบำรุงก่อนแต่งหน้าอาจจะต้องอาศัยการเรียงลำดับการทาให้ถูกต้องเพื่อป้องกันหน้ามันระหว่างวัน โดยเริ่มจากการทามอยส์เจอไรเซอร์หรือสกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาก่อน โดยสามารถเรียงตามลำดับได้ ดังนี้
1. น้ำตบหรือเอสเซนส์
2. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเซรั่ม / เนื้อเจล
3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น
4. มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม
โดยแต่ละชั้นไม่ควรทาในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ซึมลงผิวได้ยาก รวมถึงควรเว้นระยะให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือสกินแคร์แต่ละตัวซึมเข้าสู่ผิวก่อน ซึ่งมีวิธีการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้หน้าไม่มัน ไม่เป็นสิว ดังนี้
1. เริ่มทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังจากล้างหน้าและเช็ดด้วยโทนเนอร์แล้วประมาณ 3 นาที
2. วอร์มเนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนทาลงบนใบหน้าเพื่อไม่ให้เนื้อครีมหนามากจนเกินไป โดยแตะเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์มาวอร์มบนหลังมือและใช้ปลายนิ้วนวดวนเบา ๆ ให้มอยส์เจอไรเซอร์มีความอุ่นใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกาย จะช่วยให้ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
3. ใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนางแตะมอยส์เจอร์ไรเซอร์และค่อย ๆ ทาจากส่วนบนของหน้าไล่ลงมาข้างล่างจากนั้นเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าจนถึงลำคอ ซึ่งการใช้นิ้วกลางหรือนิ้วนางจะมีแรงกดที่พอดี จึงทำให้ผิวเสียดน้อย ไม่ทำให้ช้ำหรืออักเสบได้ง่าย หากเป็นเนื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้น เช่น เนื้อครีม อาจไม่ต้องทาในปริมาณมากหรือหนาจนเกินไป แต่หากเป็นเนื้อที่มีความบางเบาสามารถทาให้ทั่วใบหน้าได้
4. รอให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึมลงผิวประมาณ 2-3 นาที จากนั้นสามารถทายาแต้มสิว ลงสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ที่มีเนื้อหนักตามลำดับ และสามารถลงกันแดดหรือเมคอัพได้ตามปกติ
จะเห็นว่าการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถทาได้วันละ 2 ครั้งทั้งตอนเช้าและตอนเย็น โดยเรียงลำดับการทามอยส์เจอไรเซอร์และสกินแคร์ให้ถูกวิธีและเลือกใช้เนื้อมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่หน้ามันง่ายควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เนื้อเจล เนื้ออิมัลชัน หรือเซรั่ม เป็นต้น รวมถึงควรดูว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้นมีส่วนผสมที่ช่วยในการควบคุมความมันบนใบหน้าด้วยหรือไม่ เพื่อไม่ทำให้ผิวหน้ามันเยิ้มระหว่างวันและเกิดสิวกวนใจ แถมยังเป็นการเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน ลดการเกิดปัญหารูขุมขนกว้าง และผิวแห้งขาดน้ำได้ดีอีกด้วย