Sébium Serum เซรั่มลดโอกาสเกิดสิว ริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง

KEY TAKEAWAYS

• Sébium Serum เซรั่มจาก Bioderma ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมีปัญหาสิว มีริ้วรอย และรูขุมขน  
• Sébium Serum มีส่วนผสมสำคัญได้แก่ Salicylic Acid, N-Acetyl Glucosamine และ Hyaluronic acid
• ดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลจากสิวง่าย ๆ จาก Bioderma 1.) ทำความสะอาดผิวหน้า 2.) ไม่บีบ แคะ หรือแกะสิว 3.) สกินแคร์ที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิว 4.) ทาครีมกันแดด 5.) เลือกรับประทานอาหารที่ไม่ทำให้เกิดสิว
   

Sébium Serum เซรั่มลดโอกาสเกิดสิวจาก Bioderma มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ช่วยให้ริ้วรอยแลดูลดลง รวมถึงมีส่วนช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง เนื่องจากมีสารสำคัญ 3 กลไกที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Fluidativ^TM

บริษัทนาโอส (NAOS) เป็นบริษัทที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์ของผิวเป็นหลัก จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์ BIODERMA ด้วยหลักการ Ecobiology ซึ่งเซรั่มลดโอกาสเกิดสิวอย่าง Sébium Serum ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส สุขภาพผิวดีอย่างยั่งยืน

สถาบันวิจัยของไบโอเดอร์มา ได้คิดค้น Sébium Serum โดยใช้ศาสตร์ Ecobiology โดยผสานสารสำคัญ 3 กลไกคือ Salicylic Acid, N-Acetyl Glucosamine และ Hyaluronic acid ร่วมกับเทคโนโลยี FLUIDACTIV^TM  เพื่อจัดการที่ต้นเหตุของสิวในผู้ใหญ่ ทำให้ได้ออกมาเป็นเซรั่มลดโอกาสเกิดสิว โดยสามารถแก้ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสิว ดังนี้

• ลดปัญหาสิว: กรดซาลิไซลิกสารสำคัญในเซรั่มที่ช่วยลดสิวโดยการผลัดเซลล์ผิว ในขณะที่เทคโนโลยี Fluidactiv^TM ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของน้ำมันในต่อมไขมัน
• รอยสิวดูลดเลือน: กรดซาลิไซลิกช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เผยผิวใหม่ที่ดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนแลดูลดลง ส่วน N-Acetyl Glucosamine (NAG) เป็นน้ำตาลอะมิโนที่พบได้ในผิวหนัง เป็นสารสำคัญในการคงความชุ่มชื้นให้ผิว
• ริ้วรอยดูตื้นขึ้น: กรดไฮยาลูโรนิก ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยมี NAG เป็นตัวช่วยเสริมการสร้างกรดไฮยาลูโรนิกภายในผิวเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย จึงเป็นเซรั่มลดโอกาสเกิดสิวที่ทำให้หน้าใสขึ้นได้อีกด้วย

สิว เป็นปัญหาผิวที่หลายคนเคยเจอ โดยสิวมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน การทำความรู้จักกับสิวประเภทต่างๆ จะทำให้สามารถเลือกวิธีเพื่อนำมารักษาสิวได้ถูกวิธี ป้องกันไม่ให้สิวกลับมาเป็นอีกครั้ง

1. สิวอุดตัน

สิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของเซลล์เนื้อเยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว หรือการอุดตันของไขมันที่ต่อมไขมันผลิตออกมามากเกินไป ทำให้เกิดเป็นสิวในรูปแบบสิวหัวดำกับสิวหัวขาว มักพบที่บริเวณคางและหน้าผาก

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวอุดตันมีอยู่หลายสาเหตุ เช่น สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ ตั้งแต่สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า ไปจนถึงเครื่องสำอาง นอกจากนี้แบคทีเรียก็ยังทำให้เกิดสิวอุดตันได้ ผู้หญิงมักจะเป็นก่อนมีประจำเดือน ส่วนผู้ชายมักเป็นได้ง่ายจากการสูบบุหรี่ หากใช้เซรั่มลดโอกาสเกิดสิวอุดตันก็จะทำให้สิวประเภทนี้เกิดลดลงได้

2. สิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนมักเกิดในผู้หญิงในช่วงที่กำลังจะมีประจำเดือน มักจะขึ้นที่บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง เมื่อประจำเดือนหมด สิวก็จะหายไป แต่ยังทิ้งรอยไว้อยู่ ดังนั้นควรหมั่นตรวจสอบตัวเองว่าประจำเดือนมักมาจะในช่วงเวลาไหน แล้วมีเซรั่มลดโอกาสเกิดสิวไว้ติดบ้าน เพื่อใช้ในช่วงที่มีประจำเดือน เพื่อลดโอกาสการเกิดสิวฮอร์โมน

3. สิวผด

สิวผดเป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดในบรรดาสิวทุกประเภท หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจสะสมจนอุดตันเป็นตุ่มสีแดงได้ ทุกครั้งที่สัมผัสบนผิวหน้าจึงทำให้รู้สึกถึงความไม่เรียบเนียนของผิว ในบางคนอาจเกิดอาการคัน

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดสิวผดคือสภาพอากาศ มลภาวะทางอากาศ น้ำ อาการแพ้เหงื่อ ฮอร์โมน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ข้าวของเครื่องใช้ที่สัมผัสหน้าไม่สะอาด ทั้งปลอกหมอน พัฟแต่งหน้า แปรงแต่งหน้า เป็นต้น

4. สิวหัวช้าง

สิวหัวช้างเป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ปูดนูนขึ้นมาก เกิดจากสิวอุดตันที่ถูกกระตุ้นจากแบคทีเรียทำให้ต่อมไขมันชั้นผิวหนังอักเสบ อาจเป็นทั้งตุ่มนูนแดงที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้เช่นกัน หากใช้เซรั่มลดโอกาสเกิดสิว ก็จะลดโอกาสในการเกิดสิวหัวช้างไปด้วย

5. สิวอักเสบ

อีกหนึ่งสิวที่พัฒนามาจากสิวอุดตันคือสิวอักเสบ สิวประเภทนี้มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง อาจมีหนองหรือบางครั้งเป็นแค่สิวอักเสบไม่มีหัว ทำให้ทุกครั้งที่เกิดจะมีความรู้สึกเจ็บตรงจุดที่สิวขึ้น หากดูแลไม่ดีจะกลายเป็นสิวอักเสบเรื้อรังได้ เมื่อมีสิวอุดตันจึงควรรีบบรรเทาอาการด้วยการใช้เซรั่มที่มีส่วนช่วยในการลดโอกาสเกิดสิว

ใครที่เคยเป็นสิวต้องมีประสบการณ์ในการดูแลตนเองเพื่อให้สิวลดลงกันมาแล้วทุกคน แต่วิธีเหล่านี้เป็นการดูแลตนเองและผิวหน้าอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นสิวอีก โดยสามารถทำได้ดังนี้

ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด

สิ่งสำคัญของการดูแลผิวหน้าที่แท้จริงคือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด โดยการล้างหน้าอย่างถูกวิธี คือล้างหน้าแค่ 2 ครั้งต่อวัน คือช่วงเช้าและช่วงเย็น การล้างหน้าแค่นี้ก็เพียงพอให้หน้าสะอาดแล้ว ดีกว่าการล้างหน้าบ่อยที่จะกระตุ้นให้หน้ามันขึ้น หรือในบางครั้งอาจจะทำให้ผิวแห้ง แตก เกิดความระคายเคืองได้ หากใช้เซรั่มลดโอกาสเกิดสิวควบคู่กับการล้างทำความสะอาดที่ถูกวิธีก็จะสามารถทำให้หน้าแลดูกระจ่างใส ห่างไกลริ้วรอยได้

ไม่บีบ แคะ หรือแกะสิว

พฤติกรรมการบีบ แคะ แกะสิว เป็นพฤติกรรมที่หลายคนห้ามไม่ได้ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นประจำจะยิ่งทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายผิว จนสามารถกระตุ้นให้สิวอักเสบมากขึ้นกว่าเดิมได้ บางทีสิวอาจลุกลาม นอกจากนี้ยังคงทิ้งรอยดำ รอยแดง รวมถึงหลุมสิวไว้อีกด้วย

เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิว

การลดโอกาสเกิดสิวที่ง่ายที่สุดคือการเลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิว เช่น เซรั่มลดโอกาสเกิดสิว โดยควรใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง มีความอ่อนโยน มีคุณสมบัติที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้จริง ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบ หรือสิวประเภทอื่นๆ

ทากันแดดก่อนออกจากบ้าน

แสงแดดหรือแสงอาทิตย์เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและมีริ้วรอย รวมถึงการกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น จึงทำให้หน้ามันตามไปด้วย เพิ่มโอกาสเป็นสิวได้มากกว่าเดิม การใช้ครีมกันแดดจะช่วยป้องกันผิวหน้าจากการทำร้ายของแสงแดด นอกจากนี้การใช้เซรั่มลดโอกาสเกิดสิวควบคู่ไปด้วยยังทำให้รอยดำ รอยแดงจากสิวแลดูจางลงได้อีกด้วย

เลือกกินอาหารที่ไม่ทำให้เกิดสิว

การดูแลผิวพรรณจากภายในก็สำคัญไม่แพ้การดูแลจากภายนอก จึงควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม สังเกตว่ารับประทานอาหารอะไรแล้วเกิดสิวได้ง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้น อาหารส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดสิว เช่น ของมัน ของทอด ไปจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มาจากนม เป็นต้น โดยอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวอักเสบ จนเกิดปัญหาสิวได้

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกวิธีจะยิ่งช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้งานของเซรั่ม Sébium Serum ให้ดียิ่งขึ้นได้ เพื่อให้เซรั่มช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้เห็นผลชัดเจน

ผลิตภัณฑ์ใช้อย่างไร

ผลิตภัณฑ์ไบโอเดอร์มา Sébium เป็นเซรั่มลดโอกาสเกิดสิวที่สามารถใช้ได้ทุกวัน เหมาะสำหรับผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย โดยสามารถหยดเซรั่ม 2-3 หยดเพื่อมาใช้ทาฟื้นบำรุงผิวหน้าและบริเวณลำคอ หลังจากทำความสะอาดผิวแล้วเรียบร้อย 

แบ่งการใช้ออกเป็น 4 ขั้นตอนเพื่อให้เข้าใจการใช้ผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น ดังนี้

• ขั้นตอนที่ 1 เริ่มต้นทำความสะอาดผิวหน้าให้ทั่วด้วยคลีนซิ่ง Sébium H2O ซึ่งเป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับผิวผสมถึงผิวมัน รวมถึงผิวเป็นสิวง่าย ให้การทำความสะอาดที่หมดจดแต่อ่อนโยน ช่วยลดความมันกับแบคทีเรีย จึงลดสาเหตุของการเกิดสิวได้
• ขั้นตอนที่ 2 เมื่อทำความสะอาดผิวหน้าแล้วให้หยดเซรั่ม Sébium Serum ออกมา 2-3 หยดลงบนผิวหน้า ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยทาเซรั่มอย่างอ่อนโยนให้ทั่วใบหน้า 
• ขั้นตอนที่ 3 จนเซรั่มถูกทาจนทั่วใบหน้า ให้นวดเบาๆ เพื่อให้เซรั่มซึมซาบลงสู่ผิว เข้าไปฟื้นบำรุงและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสิวอีก
• ขั้นตอนที่ 4 ปิดท้ายด้วยการใช้ครีมบำรุง Sébium Sensitive ครีมบำรุงสำหรับผิวบอบบาง ผิวอ่อนแอและมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เพื่อเป็นการปลอบประโลมผิว เติมความชุ่มชื้น ช่วยทำให้รอยดำ รอยแดงแลดูจางลง 

ประสิทธิภาพของ Sébium Sensitive ที่โดดเด่นเลยคือการเป็นเซรั่มที่ช่วยลดโอกาสเกิดสิว เพื่อให้เลือกใช้เซรั่มได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ต้องการ มาทำความรู้จักกับประสิทธิภาพของเซรั่มตัวนี้ให้มากขึ้นได้เลย

เข้าใจผลิตภัณฑ์มากขึ้นเพื่อใส่ใจผิวได้อย่างตรงจุด

ผิวที่เป็นสิวได้ง่ายเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อย มักจะเกิดขึ้นในรูปแบบของสิวหัวดำและจุดสีขาวหรือสีแดง ซึ่งมีระดับความรุนแรงต่างกัน สิวในผู้ใหญ่หมายถึงสิวที่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงวัยผู้ใหญ่ ปรากฏการณ์นี้เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ ความเครียด รูปแบบการดำเนินชีวิต แต่ยังรวมถึงปัจจัยภายใน เช่น ระดับฮอร์โมนที่ผันผวน สิวในวัยผู้ใหญ่มีลักษณะที่เหมือนกันกับวัยรุ่นในเรื่องของความมันส่วนเกินและการอุดตันของรูขุมขน รวมไปถึงการอักเสบ แต่มีสัญญาณแรกเริ่มของริ้วรอยแห่งวัยร่วมด้วย เช่น ริ้วรอย รวมถึงผิวดูไม่กระจ่างใส ผ่านการทดสอบภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนัง

ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้

*ผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้วใน 7 วัน เห็นผลลัพธ์ในเรื่องของปัญหาสิว รอยสิว รูขุมขนกว้าง ริ้วรอย

ผลลัพธ์หากใช้ต่อเนื่อง

ผลประเมินทางคลินิก (หลังใช้ 28 วัน):

• 41% รอยแดงสิวดูจางลง
• 15% ริ้วรอยดูตื้นขึ้น

สรุป

Sébium Serum เป็นเซรั่มลดโอกาสเกิดสิวที่ผสานสารสำคัญ 3 กลไกคือ Salicylic Acid, N-Acetyl Glucosamine, และ Hyaluronic acid ร่วมกับเทคโนโลยี FLUIDACTIV^TM  เพื่อจัดการที่ต้นเหตุของสิวในผู้ใหญ่ โดย Salicylic Acid คือสารสำคัญที่ช่วยลดปัญหาผิว จากการป้องกันการเกิดออกซิเดชันของน้ำมันในต่อมไขมัน รวมถึงช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนแลดูลดลง Acetyl Glucosamine กับ Hyaluronic acid เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยทำให้ริ้วรอยแลดูลดลงได้