หลายครั้งที่เราอาจแยกไม่ออกว่าผิวของตนเองนั้นคือผิวประเภทไหนและควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบใด หรือควรเลือกใช้ครีมบํารุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี เพื่อให้เหมาะสมกับผิวของตนเองมากที่สุด แต่สำหรับใครที่มีทั้งผิวมันและผิวแห้งหรือผิวธรรมดาบนใบหน้าควรดูแลผิวอย่างไร? วันนี้มาทำความรู้จักกับลักษณะของ “ผิวผสม” พร้อมวิธีดูแลผิวผสมให้สุขภาพดีกันเลยดีกว่า!

ผิวผสม คืออะไร ?

ผิวผสม (Combination Skin) คือ ลักษณะของผิวที่ผสมกันระหว่างผิว 2 ประเภท ซึ่งอาจเป็นผิวมันผสมผิวแห้ง หรือผิวมันผสมกับผิวธรรมดา โดยมีจุดที่เห็นได้ชัด คือ 

  • ผิวมันบริเวณ T-zone มากเป็นพิเศษ ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง
  • ผิวบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้างมักเป็นลักษณะผิวแห้งหรือผิวธรรมดา
  • ผิวหน้ามีรูขุมขนกว้างและอาจเกิดการอุดตันได้ง่าย

 

ซึ่งผิวผสมในบริเวณที่เป็นผิวมันนั้นมักเกิดจากการผลิตน้ำมันที่มากเกินไป เนื่องจากต่อมไขมันบริเวณนี้มีขนาดใหญ่และรูขุมขนที่กว้างกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ ส่วนผิวผสมบริเวณที่เป็นผิวแห้งอย่างข้างแก้มหรือโหนกแก้มนั้นจะเกิดจากการที่ผิวขาดน้ำหรือการผลิตน้ำมันที่ไม่สมดุล จึงทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ ลอกเป็นขุย และแห้งตึงหลังล้างหน้า 

ปัญหาผิวที่มาพร้อมผิวผสม

ผิวผสม เป็นผิวที่มีความผสมผสานกันของผิว 2 ลักษณะ ซึ่งปัญหาผิวที่มาพร้อมกับผิวผสมอาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับผิวมันและผิวแห้ง เช่น

  • ปัญหาสิว เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวอักเสบ เป็นต้น เนื่องจากบริเวณที่มีผิวมันอย่าง T-zone จะมีความมันเคลือบบนผิวอยู่มากและรูขุมขนกว้าง จึงทำให้เกิดการอุดตันและปัญหาสิวตามมา
  • ปัญหาผิวแห้ง ระคายง่าย รวมถึงผิวหยาบกร้านและลอกเป็นขุยในบริเวณที่เป็นผิวแห้งอย่างรอบดวงตา ข้างแก้มหรือโหนกแก้ม

ปัญหารูขุมขนกว้าง จากการที่ผิวบริเวณนั้นมีขนาดรูขุมขนที่ขยายกว้างกว่าบริเวณอื่นและมีความมันสูง ซึ่งอาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่กระจ่างใส

3 วิธีดูแลผิวผสม ลดหน้ามัน ป้องกันผิวแห้ง

ผิวผสม ดูแลยังไง? ให้ช่วยลดปัญหาผิวและทำให้ผิวผสมมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผิวผสมที่มีทั้งส่วนที่เป็นผิวมันและส่วนที่เป็นผิวแห้ง จึงอาจทำให้การดูแลผิวยากกว่าการดูแลผิวประเภทอื่นๆ ดังนั้นวิธีการดูแลผิวผสมที่ดีอาจจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและใส่ใจในขั้นตอนการดูแลผิว ดังนี้

 

1. การล้างหน้าสำหรับผิวผสม 

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการดูแลผิวทุกประเภท โดยจะต้องล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยคลีนซิ่งในขั้นตอนแรกและตามด้วยการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้า แต่สิ่งสำคัญที่คนผิวผสมควรใส่ใจในขั้นตอนนี้คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความอ่อนโยนแต่สามารถขจัดความมันบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก เพื่อช่วยลดการอุดตันสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงไม่ทำผิวแห้งตึงหลังล้างหน้าด้วย

 

2. การบำรุงผิวสำหรับผิวผสม

การบำรุงผิวถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะลักษณะของผิวผสมในแต่ละบริเวณอาจต้องการการบำรุงที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่สามารถใช้ได้ทั้งผิวมันและผิวแห้ง เช่น

  • โทนเนอร์และเซรั่ม 

การทาครีมบำรุงผิวหน้าในขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า ควรเป็นเนื้อครีมบำรุงที่มีเนื้อบางเบาอย่างโทนเนอร์หรือเซรั่ม เพราะสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วและมีสารบำรุงผิวที่เข้มข้นแต่ไม่ทิ้งคราบความมันไว้บนผิว โดยคนที่มีผิวผสมควรเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) กลีเซอรีน (Glycerin) เป็นต้น  เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำ และช่วยให้ผิวมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น

  • ครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์

สำหรับคนผิวผสมที่อาจมีปัญหาสิวหรือผิวแห้งขาดน้ำร่วมด้วย อาจมีความกังวลว่าการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีความเข้มข้นอย่างมอยส์เจอไรเซอร์จะทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งอันที่จริงแล้วทั้งผิวที่มีลักษณะมันและผิวแห้งล้วนต้องการความชุ่มชื้นเช่นเดียวกัน แต่อาจจะต้องเลือกครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับทาผิวในบริเวณที่แตกต่างกัน เช่น

  • บริเวณผิวมันหรือ T-zone ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์

เนื้อบางเบาและไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่รู้สึกเหนอะหนะ และทำให้ผิวอุดตัน

 

  • บริเวณผิวแห้ง ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นและมอบความชุ่มชื้นสูง เพื่อลดการเกิดผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และปลอบประโลมผิวระคายง่ายให้รู้สึกสบายขึ้น
  • บริเวณผิวเป็นสิว ซึ่งอาจมีอาการบวมแดงหรือจำเป็นต้องใช้ยาแต้มสิวร่วมด้วย ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสำหรับคนผิวเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย เพื่อช่วยลดการระคาย ป้องกันการเกิดรอยแดงจากสิว รวมถึงไม่มีส่วนผสมของสารก่อให้เกิดการแพ้ง่าย เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

คนผิวผสม เลือกใช้ครีมบํารุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดี?

ครีมบํารุงผิวหน้ายี่ห้อไหนดีและเหมาะสำหรับผิวผสม ขอแนะนำ Bioderma Sebium Sensitive ครีมบํารุงผิวหน้าที่ใช้ได้ทั้งคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่ายและผิวขาดน้ำ รวมถึงสามารถใช้ควบคู่กับยาทาสิวได้

 

Bioderma Sebium Sensitive 

ครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อบางเบาสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หรือแห้งขาดน้ำ สามารถใช้คู่กับยาสิวหรือใช้เป็นเมคอัพเบสก่อนแต่งหน้าได้โดยไม่ทิ้งคราบมันไว้บนผิว ด้วยสิทธิบัตร FLUIDACTIVTM patent ที่ช่วยปรับคุณภาพลดความข้นหนืดของไขมันในต่อมไขมันใต้ผิวหนัง (Sebum) และช่วยลดโอกาสเกิดสิวที่ต้นเหตุ รวมถึงสามารถดูดซับน้ำมันส่วนเกินที่ออกมาได้ทันที พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้ผิวยาวนานถึง 12 ชั่วโมง 

 

วิธีใช้ครีมบํารุงผิวหน้า 

  • วอร์มครีมบำรุงผิวหน้า Bioderma Sebium Sensitive ลงบนหลังมือให้มีความอุ่นใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกาย
  • แตะเนื้อครีมทาลงบนผิวหน้า โดยทาจากส่วนบนของหน้าไล่ลงมาข้างล่างและลำคอให้ทั่ว
  • รอให้ครีมบำรุงซึมลงบนผิวหน้าประมาณ 2-3 นาทีและตามด้วยยาทาสิว
  • สามารถทาได้วันละ 1-2 ครั้งหลังขั้นตอนการล้างหน้าและบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์

 

 

จะเห็นได้ว่า การดูแลผิวผสมจำเป็นต้องใช้วิธีแบบผสมผสาน เพราะสภาพผิวที่มีความแตกต่างกันย่อมต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีและเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยปรับให้ผิวผสมมีความสมดุลมากขึ้น รวมถึงช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาด้วย 

BIODERMA Sébium Sensitive ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวเป็นสิวง่าย ผิวแพ้ง่ายและอ่อนแอเป็นสิวง่าย

เทคโนโลยี Inflastop™

Sébium Sensitive

ครีมบำรุงสำหรับผิวเป็นสิวง่าย ปลอบประโลม คืนความชุ่มชื้น ลดโอกาสเกิดสิว

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น