Key Takeaway

  • เหงื่อออกเยอะมากผิดปกติคือการขับเหงื่อมากเกินความจำเป็นของร่างกาย แม้ไม่ได้อยู่ในอากาศร้อนหรือทำกิจกรรมหนัก อาจเกิดเฉพาะจุด เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ หรือทั่วร่างกาย
  • เหงื่อออกเยอะอาจเกิดจากระบบประสาทที่ทำงานไวเกินไปหรือเกิดจากโรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ วัยทอง หรือผลข้างเคียงจากยา รวมถึงปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหารรสจัด คาเฟอีน และความเครียด
  • วิธีรักษาเหงื่อออกเยอะ เริ่มจากใช้ Antiperspirant ที่มี Aluminum Chloride หากไม่ได้ผล อาจใช้ ยารับประทาน ฉีดโบท็อกซ์ จี้ปมประสาท (RFA) หรือในกรณีรุนแรงอาจพิจารณา ผ่าตัด ETS ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ
  • เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นเหงื่อ อาบน้ำเป็นประจำ ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และควบคุมความเครียดเพื่อช่วยลดการกระตุ้นการขับเหงื่อของร่างกาย

 


 

เหงื่อออกเยอะเกินไปอาจเป็นปัญหาที่หลายคนประสบในชีวิตประจำวัน ทั้งจากอากาศร้อน การออกกำลังกาย หรือแม้แต่ความเครียด การเข้าใจสาเหตุของเหงื่อออกเยอะและวิธีการจัดการสามารถช่วยให้คุณรับมือกับปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการขับเหงื่อและวิธีลดความไม่สบายตัวจากเหงื่อส่วนเกิน

หลายคนอาจคิดว่า "เหงื่อออก" และ "เหงื่อออกเยอะ" เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ในความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน มาดูกันว่าทั้งสองกรณีนี้ต่างกันอย่างไร

  • เหงื่อออกตามปกติ เกิดขึ้นเมื่อร่างกายต้องการปรับอุณหภูมิ เช่น หลังออกกำลังกายหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อน เหงื่อที่ออกมาช่วยระบายความร้อน และเมื่อร่างกายเย็นลง การขับเหงื่อก็ลดลงเองตามธรรมชาติ
  • เหงื่อออกเยอะผิดปกติ เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตเหงื่อมากเกินความจำเป็น แม้ไม่ได้ออกแรงหรืออยู่ในอากาศร้อน เช่น เหงื่อออกที่มือ เท้า รักแร้ หรือทั่วร่างกาย

หากร่างกายมีเหงื่อออกมากผิดปกติ อาจส่งผลต่อ Skin Barrier หรือเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแห้ง สูญเสียความชุ่มชื้น และเกิดการระคายเคืองได้ง่าย 

คนเหงื่อออกเยอะเกิดได้จากหลายปัจจัย บางกรณีไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ ขณะที่บางกรณีสามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนและแก้ไขได้ ดังนี้
 

ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน (Primary Hyperhidrosis)

Primary Hyperhidrosis เป็นภาวะที่ทำให้เหงื่อออกเยอะผิดปกติ โดยไม่มีสาเหตุมาจากโรคหรือภาวะสุขภาพอื่นๆ เกิดจากการทำงานที่มากเกินไปของระบบประสาทซิมพาเทติก ซึ่งทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาเกินความจำเป็น แม้ในสภาพอากาศปกติหรือเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรมที่ใช้พลังงานมาก

ภาวะนี้มักเกิดขึ้นเฉพาะจุด เช่น

  • ฝ่ามือและฝ่าเท้า ทำให้รู้สึกเหนียวหรือเปียกตลอดเวลา
  • รักแร้ ทำให้เสื้อเปียกชื้น แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย
  • ใบหน้าและหนังศีรษะ ทำให้หน้ามันและเหงื่อไหลออกมากผิดปกติ

Primary Hyperhidrosis จะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น และสามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การจับมือ การใช้เครื่องมือ หรือการแต่งตัว
 

ภาวะความผิดปกติในร่างกาย (Secondary Hyperhidrosis)

Secondary Hyperhidrosis เป็นภาวะที่เหงื่อออกเยอะเกินไปซึ่งมีสาเหตุที่ชัดเจน แตกต่างจาก Primary Hyperhidrosis ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีโรคแฝง ภาวะนี้ส่วนใหญ่เกิดจากโรคบางชนิด ภาวะต่างๆ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น
 

ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
 

  • ไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) ร่างกายเผาผลาญเร็วขึ้น ทำให้เหงื่อออกเยอะ
  • วัยทอง (Menopause) ฮอร์โมนลดลง ทำให้ร้อนวูบวาบและเหงื่อออกกลางคืน
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน มักทำให้เหงื่อออกมาก
     

โรคบางชนิดที่ทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ

  • วัณโรค หรือการติดเชื้อร้ายแรง มักทำให้เหงื่อออกตอนกลางคืน
  • โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ร่างกายพยายามปรับตัว ทำให้ขับเหงื่อมากขึ้น
  • โรคพาร์กินสัน ส่งผลต่อระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
     

ยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงทำให้เหงื่อออกเยอะ

  • ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ทำให้ร่างกายขับเหงื่อเพื่อลดไข้
  • ยาต้านซึมเศร้า และยารักษาโรคจิตเภทบางตัว กระตุ้นระบบประสาท ทำให้เหงื่อออกมากขึ้น
  • ยาลดความดันโลหิต เช่น Beta-blockers ส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด ทำให้เหงื่อออกเยอะ
     

ภาวะอ้วนหรือเมตาบอลิกซินโดรม คนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้เหงื่อออกง่าย แม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก

เหงื่อออกเยอะไม่ได้มีแค่การรู้สึกตัวเปียกชื้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ทั้งในแง่ความสบายตัว ความมั่นใจ และสุขภาพ โดยอาการสามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ตามปัจจัยและสาเหตุ ได้แก่
 

อาการเหงื่อออกเยอะไม่ทราบสาเหตุ

อาการเหงื่อออกมากโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนสามารถเกิดขึ้นได้เอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับโรคหรือภาวะอื่นๆ ซึ่งหมายถึงการขับเหงื่อมากเกินความจำเป็นในขณะที่ร่างกายไม่ได้ต้องการระบายความร้อนจากการออกกำลังกายหรืออากาศร้อน อาการที่อาจพบได้มีดังนี้

  • เหงื่อออกมากผิดปกติเฉพาะจุด เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ หรือใบหน้า
  • มักเกิดขึ้นทั้งสองข้างของร่างกายพร้อมกัน เช่น เหงื่อออกที่มือทั้งสองข้าง ไม่ใช่ข้างเดียว
  • อาการจะเริ่มตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยรุ่น และอาจถึงขั้นเรื้อรัง
  • เหงื่อออกเยอะขึ้นเมื่อรู้สึก เครียด กังวล หรือตื่นเต้น
  • ไม่ได้มีอาการอื่นร่วม เช่น ไข้ น้ำหนักลด หรืออ่อนเพลีย
  • เหงื่อออกแม้ไม่ได้ทำกิจกรรมหนักหรืออยู่ในที่อากาศเย็น
  • อาการอาจเป็นๆ หายๆ แต่ไม่หายขาดเอง
     

อาการเหงื่อออกเยอะเพราะร่างกายผิดปกติ

เหงื่อออกเยอะที่เกี่ยวข้องกับโรคหรือความผิดปกติของร่างกาย จะไม่เกิดขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับอาการอื่นที่สังเกตได้ เช่น

  • เหงื่อออกทั่วร่างกาย ไม่จำกัดแค่บางจุด เช่น ฝ่ามือหรือรักแร้
  • เหงื่อออกตอนกลางคืน แม้อากาศเย็นหรืออยู่ในห้องปรับอากาศ
  • น้ำหนักลดผิดปกติ โดยไม่ได้ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย
  • อ่อนเพลียเรื้อรัง ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย หรือเวียนศีรษะ
  • หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น อาจเกิดจากไทรอยด์ทำงานผิดปกติหรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • เหงื่อออกเยอะเมื่อมีไข้สูง อาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ เช่น วัณโรค หรือไข้เลือดออก
  • มือสั่น หรือมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย อาจเกี่ยวข้องกับโรคพาร์กินสัน
  • เหงื่อออกมากหลังรับประทานยา อาจเป็นผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาต้านซึมเศร้า ยาลดไข้ หรือยาลดความดัน
  • มีภาวะผิวซีด หนาวง่าย หรือร้อนวูบวาบผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือดหรือฮอร์โมน

เหงื่อออกเยอะเกินไปไม่ใช่แค่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะแต่ยังส่งผลต่อสุขภาพผิวและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องกลิ่นตัว การระคายเคือง และปัญหาผิวหนังต่างๆ โดยเฉพาะในผู้ที่แพ้เหงื่อตัวเอง ซึ่งอาจเกิดอาการคัน แสบ หรือมีกลิ่นตัวแรงขึ้นง่าย ทั้งยังส่งผลเสียอีกมากมาย ดังนี้
 

  • มีกลิ่นตัวแรงขึ้น เมื่อเหงื่อสะสมและทำปฏิกิริยากับแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อที่เหม็นเปรี้ยวหรือกลิ่นอับได้
  • เกิดผดผื่นและอาการแพ้เหงื่อ เหงื่อที่สะสมบนผิวทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแดง คัน หรืออักเสบได้ง่าย
  • เสี่ยงเป็นเชื้อราและสิวจากความอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ และแผ่นหลัง ที่มักมีเหงื่อออกมาก
  • ทำให้เสื้อเปียกชื้นและเกิดคราบเหงื่อ เหงื่อที่ออกมากอาจทำให้เสื้อเปียกเป็นวงและเกิดรอยเหลือง โดยเฉพาะในเสื้อสีขาว
  • ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ เหงื่อออกเยอะเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ รู้สึกเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หรือเป็นตะคริวได้
  • ส่งผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิต เหงื่อที่ออกมากผิดปกติอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว หลายคนกังวลเวลาต้องพบปะผู้คน

หากเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติจนรบกวนการใช้ชีวิต ควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ จากนั้นแพทย์จะเลือกวิธีรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ โดยวิธีที่ใช้ในการรักษามีดังนี้
 

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อระงับเหงื่อออกเยอะ

การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อเป็นวิธีแรกในการช่วยควบคุมคนที่เหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ โดยเฉพาะในบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องจะช่วยลดโอกาสเกิดผื่นลมพิษที่อาจเกิดจากการระคายเคืองได้ ซึ่งสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อได้ดังนี้

  1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Aluminum Chloride สารนี้ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อและลดการขับเหงื่อได้ เหมาะสำหรับคนที่เหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ
     
  2. ทาผลิตภัณฑ์ก่อนนอน ควรทาก่อนนอนขณะที่ร่างกายเย็นและเหงื่อออกน้อยที่สุด เพื่อให้สารออกฤทธิ์ได้เต็มที่ รวมถึงไม่ควรใช้ตอนที่ผิวเปียกหรือเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เพราะอาจทำให้ระคายเคือง
     
  3. ใช้เฉพาะบริเวณที่ต้องการ ไม่ควรใช้ทั่วร่างกาย เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรืออุดตันรูขุมขน จนเกิดผื่นหรือลมพิษ ควรเริ่มจากปริมาณน้อยแล้วค่อยเพิ่มตามความจำเป็น
     
  4. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารแต่งกลิ่นมากเกินไป อาจทำให้ผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบอบบางและเสี่ยงต่อลมพิษ
     
  5. หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที หากมีอาการแสบ คัน หรือเกิด ผื่น หลังใช้ ควรหยุดใช้และล้างออกทันที หรืออาจเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน หรือปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสม
     

ใช้ยาหรือสารระงับเหงื่อ

การใช้ยาและสารระงับเหงื่อเป็นอีกวิธีที่ช่วยควบคุมภาวะเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ โดยแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ทั้งในรูปแบบทาและรับประทานขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ วิธีใช้ให้ได้ผลมีดังนี้
 

  1. ใช้สารระงับเหงื่อแบบทา (Antiperspirant) ช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อโดยอุดรูขุมขนชั่วคราว ควรทาก่อนนอนหรือช่วงที่เหงื่อน้อย หลีกเลี่ยงการทาหลังโกนขนหรือบริเวณที่มีแผลเพราะอาจระคายเคือง หากรู้สึกแสบหรือคัน ควรลดความถี่การใช้หรือเลือกสูตรที่อ่อนโยน
     
  2. ใช้ยารับประทานเพื่อลดเหงื่อ (Anticholinergic drugs)
    แพทย์อาจแนะนำยากลุ่ม Anticholinergic เช่น Glycopyrrolate หรือ Oxybutynin เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ เหมาะสำหรับคนที่เหงื่อออกเยอะมาก แต่ยานี้อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ตาพร่า หรือใจสั่น จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
     
  3. ใช้ยาทาหรือยาสำหรับกรณีเฉพาะ
    สำหรับผู้ที่เหงื่อออกมากจากความเครียดหรือฮอร์โมนผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำยา Beta-blockers หรือ Clonidine เพื่อลดความเครียด โดยยาบางชนิดช่วยลดการกระตุ้นระบบประสาทที่ทำให้เหงื่อออกมาก ควรใช้ภายใต้คำแนะนำแพทย์ เพราะอาจมีผลต่อความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ
     

ฉีดโบท็อกซ์สำหรับภาวะเหงื่อออกเยอะ

การฉีดโบท็อกซ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ โดยเฉพาะในบริเวณที่ผลิตเหงื่อมาก เช่น รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และหนังศีรษะ โบท็อกซ์จะทำหน้าที่ยับยั้งสัญญาณประสาทที่กระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้ร่างกายผลิตเหงื่อในบริเวณนั้นลดลง

แพทย์จะฉีดโบท็อกซ์เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก โดยใช้เข็มขนาดเล็ก ฉีดเป็นจุดๆ ห่างกันประมาณ 1-2 เซนติเมตร ขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นภายใน 2-7 วัน และอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน หลังจากนั้นอาจต้องฉีดซ้ำเพื่อคงประสิทธิภาพ

แม้การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดเหงื่อได้ดี แต่ในบางกรณีอาจมีผลข้างเคียง เช่น บริเวณที่ฉีดรู้สึกตึงชั่วคราว หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเล็กน้อย นอกจากนี้หากเป็นผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ครีมง่าย ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้าเพื่อลดความเสี่ยงของอาการแพ้ หรือการระคายเคืองหลังฉีด
 

การผ่าตัดหรือการจี้ปมประสาท

การรักษาภาวะเหงื่อออกเยอะมากผิดปกติด้วยการผ่าตัดหรือการจี้ปมประสาทเป็นทางเลือกสุดท้าย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อวิธีอื่น เช่น การใช้สารระงับเหงื่อ การฉีดโบท็อกซ์ หรือการใช้ยา วิธีการทำมีดังนี้

 

  1. การผ่าตัดตัดเส้นประสาทซิมพาเทติก (Endoscopic Thoracic Sympathectomy – ETS) 

วิธีนี้ใช้กล้องส่องเข้าไปในช่องอกเพื่อตัดหรือหนีบเส้นประสาทซิมพาเทติกที่ควบคุมการขับเหงื่อ เหมาะสำหรับผู้ที่เหงื่อออกเยอะผิดปกติที่ฝ่ามือ หรือบางกรณีที่รักแร้ อาจมีผลข้างเคียง เช่น เหงื่อออกชดเชยที่หลัง หน้าท้อง หรือขา

 

  1. การจี้ปมประสาทด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency ablation – RFA) 

วิธีนี้ใช้คลื่นความถี่วิทยุส่งพลังงานความร้อนไปทำลายเส้นประสาทที่กระตุ้นการขับเหงื่อ มีความแม่นยำสูงและฟื้นตัวเร็วกว่า ETS แต่ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร และอาจต้องทำซ้ำหากเหงื่อออกมากกลับมาอีก

 

การเหงื่อออกเยอะอาจสร้างความไม่สบายตัวและส่งผลต่อชีวิตประจำวัน หลายคนอาจสงสัยว่า เหงื่อออกเยอะ แก้ยังไงดี มีแนวทางในการป้องกันและดูแลตัวเองอย่างไร สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
 

อาบน้ำเป็นประจำทุกวัน

การอาบน้ำเป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยลดเหงื่อและควบคุมความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกเยอะมาก การเลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เหมาะสมมีส่วนช่วยลดปัญหาผิวแห้งและระคายจากเหงื่อได้ดี

ควรอาบน้ำวันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้ครีมอาบน้ำผิวแห้ง หรือออยล์อาบน้ำที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากสบู่และสารที่อาจก่อให้เกิดการระคาย สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือระคายง่ายจากเหงื่อ แนะนำ Bioderma Atoderm Gel Douche ซึ่งเป็นเจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน ช่วยทำความสะอาดผิวโดยไม่ทำให้แห้งตึง หรือหากต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ Bioderma Atoderm Shower Oil เป็นตัวเลือกที่ช่วยฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิว พร้อมลดความแห้งตึงหลังอาบน้ำได้
 

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดผลกระทบจากเหงื่อออกเยอะ โดยเฉพาะกลิ่นตัวที่เกิดจากแบคทีเรียสะสมบนผิว หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ยังช่วยให้รู้สึกมั่นใจตลอดวัน โดยเริ่มจาก

  1. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและระดับการขับเหงื่อ หากเหงื่อออกเยอะ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี Antiperspirant เพื่อลดการผลิตเหงื่อ หากมีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์และสารแต่งกลิ่นแรง เพื่อลดการระคาย
     
  2. ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหลังอาบน้ำ ใช้ผลิตภัณฑ์หลังผิวแห้งสนิทเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้หลังโกนขนรักแร้เพื่อลดการระคาย หากใช้แบบลูกกลิ้งหรือครีม ควรรอให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า เพื่อลดการเกิดคราบขาวหรือเหลือง

หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ไม่สามารถควบคุมเหงื่อหรือกลิ่นได้ดีพอ อาจต้องพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่มี Aluminum Chloride ซึ่งช่วยควบคุมเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือเลือกใช้สูตรที่มีสารต้านแบคทีเรีย เพื่อลดการสะสมของเชื้อที่เป็นสาเหตุของกลิ่นตัว
 

ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยระบายเหงื่อได้ดี

การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมช่วยลดความอับชื้นและป้องกันอาการระคายเคืองจากเหงื่อ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผื่นแพ้เสื้อผ้า ซึ่งมักเกิดจากการระบายอากาศที่ไม่ดี ทำให้เหงื่อสะสมและกระตุ้นให้เกิดอาการคันหรือผื่นแดง

  1. เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศดี เช่น ผ้าฝ้าย (Cotton) ผ้าลินิน (Linen) และผ้าใยไผ่ (Bamboo fabric) ซับเหงื่อได้ดีและช่วยให้อากาศถ่ายเท หลีกเลี่ยงผ้าสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์หรือไนลอน เพราะทำให้เกิดความอับชื้นและอาจกระตุ้นผื่นแพ้เสื้อผ้า
     
  2.  เลือกเสื้อผ้าทรงหลวม ไม่รัดแน่นเกินไป เพราะเสื้อผ้าที่พอดีตัวช่วยให้เหงื่อระเหยออกได้ง่าย ลดโอกาสเกิดความอับชื้น หากใส่เสื้อรัดรูปหรือแนบเนื้อเกินไป อาจทำให้เหงื่อสะสมและเกิดอาการคันหรือระคายเคือง
     
  3. ใช้เสื้อผ้ากีฬาเทคโนโลยี Dry-Fit เหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ต้องเจออากาศร้อน เพราะช่วยระบายเหงื่อได้เร็วและลดความเหนียวเหนอะหนะ ผ้าที่มีเทคโนโลยีช่วยดูดซับและระเหยเหงื่อได้เร็ว จะช่วยลดโอกาสเกิดผื่นแพ้เสื้อผ้า

หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิด

อาหารและเครื่องดื่มบางประเภทสามารถกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อมากขึ้น หากต้องการลดเหงื่อ ควรเลือกบริโภคอาหารที่ไม่กระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายผลิตเหงื่อเกินความจำเป็น เหงื่อออกเยอะ แก้ยังไง มีวิธีปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและเผ็ด อาหารที่มีพริก ขิง หรือกระเทียม จะกระตุ้นระบบเผาผลาญและทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ส่งผลให้เหงื่อออกเยอะขึ้น หากต้องการลดเหงื่อ ควรเลือกอาหารรสอ่อนแทน
     
  • ลดการบริโภคคาเฟอีน กาแฟ ชา และเครื่องดื่มชูกำลังที่มีคาเฟอีน จะกระตุ้นระบบประสาทและเพิ่มการทำงานของต่อมเหงื่อ หากต้องการลดเหงื่อ ควรเลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน เช่น น้ำเปล่า หรือน้ำสมุนไพรที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น
     
  • งดหรือจำกัดแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ร่างกายระบายความร้อนออกทางเหงื่อ หากต้องดื่ม ควรจำกัดปริมาณและเลือกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ
     
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นและเกิดเหงื่อออกมาก ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลธรรมชาติ เช่น ผลไม้ หรืออาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ
     
  • เพิ่มอาหารที่ช่วยลดเหงื่อ ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น แตงโม แตงกวา และผักใบเขียว ช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของร่างกายและลดการขับเหงื่อ ส่วนอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง และกล้วย ช่วยควบคุมระบบประสาทและลดอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ

 

สรุป

เหงื่อออกเยอะอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจากระบบประสาทที่ทำงานผิดปกติหรือโรคบางชนิด หากเหงื่อออกมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรเลือกวิธีรับมือที่เหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ การฉีดโบท็อกซ์ หรือการรักษาด้วยยา นอกจากนี้ การปรับพฤติกรรมก็ช่วยลดเหงื่อได้ เช่น อาบน้ำเป็นประจำ เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นเหงื่อ และดื่มน้ำให้เพียงพอ หากอาการรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาที่เหมาะสม

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า เหงื่อออกเยอะ แก้ยังไง สาเหตุ วิธีหลีกเลี่ยง และแนวทางการรักษา ทำอย่างไรได้บ้าง

สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มี Aluminum Chloride เพื่อลดการขับเหงื่อ หากไม่ได้ผล อาจใช้ยารับประทานหรือฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ หรือกรณีที่รุนแรงอาจพิจารณาการจี้ปมประสาท (RFA) หรือ การผ่าตัด ETS นอกจากนี้การเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นเหงื่อ และดื่มน้ำให้เพียงพอ ก็ช่วยลดอาการได้เช่นกัน

เหงื่อออกที่ใบหน้ามากกว่าปกติอาจเกิดจากระบบประสาทซิมพาเทติกทำงานไวเกินไป (Primary Hyperhidrosis) หรือมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ความเครียด อุณหภูมิร้อน การออกกำลังกาย หรืออาหารรสจัด นอกจากนี้ อาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือภาวะวัยทอง

เหงื่อออกเยอะมากผิดปกติ คือเหงื่อออกมากเกินความจำเป็นของร่างกาย โดยไม่ได้เกิดจากอากาศร้อนหรือการออกกำลังกาย เช่น เหงื่อออกมากแม้ขณะพักผ่อน ออกเฉพาะจุดเช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือทั่วร่างกายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออโตเดิร์ม

ทำความสะอาดและบำรุงผิว

ผิวแห้งถึงผิวแห้งมาก

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออโตเดิร์ม (Atoderm)

Bioderma ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออโตเดิร์ม

ผิวแห้งคือผิวที่มีลักษณะตึงและขาดความอ่อนนุ่ม
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออโตเดิร์ม (Atoderm) นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกายที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแห้งมากสำหรับใช้ประจำวัน อีกทั้งยังช่วยดูแลผิวที่มีปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรืออาการคันควบคู่ไปด้วย... เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นในการฟื้นบำรุงผิวให้เนียนนุ่มและรู้สึกสบายผิว บอกลาผิวแห้งตึงและคันหลังอาบน้ำไปได้เลย!