วิธีการดูแลผิว
สิวผดคืออะไร? มาดูวิธีรักษาที่ได้ผล พร้อมการดูแลผิวให้หน้าเนียนใส
สิวผดคืออะไร? มาดูสาเหตุของสิวผดที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ตั้งแต่วิธีรักษา ไปจนถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว พร้อมเคล็ดลับในการดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวผดซ้ำอีกด้วย
วิธีการดูแลผิว
สิวผดคืออะไร? มาดูสาเหตุของสิวผดที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ตั้งแต่วิธีรักษา ไปจนถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว พร้อมเคล็ดลับในการดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวผดซ้ำอีกด้วย
Key Takeaway
สิวผดคืออะไร? สิวผดคือปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นเมื่ออากาศร้อนหรือมีเหงื่อออก อาจจะสังเกตเห็นได้ยากในช่วงแรก แต่พออากาศร้อนสิวก็จะเห่อขึ้นมา ทำให้รู้สึกคันยุบยิบตามตัวและผิวไม่เรียบเนียน จนรู้สึกรำคาญ โดยเฉพาะสิวผดที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการบีบเอาหัวสิวออกมา และหากถ้าพยายามบีบ แกะ เกา อาจจะระคายผิวจนกลายเป็นสิวอักเสบได้ วันนี้ Bioderma ขอพาทุกคนมารู้จักกับสิวผด พร้อมวิธีรับมือและดูแลรักษาสิวผดได้ในบทความนี้!
สิวผด (Acne Aestivalis, Acne Mallorca) เป็นสิวที่จะมีลักษณะคล้ายผดผื่นหรือตุ่มเล็กๆ อยู่ใต้ผิวหนัง โดยจะรู้สึกได้เมื่อสัมผัสผิวบริเวณดังกล่าว สิวผดแตกต่างจากสิวประเภทอื่นๆ ที่ไม่ค่อยเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีหัวสิว อาจมีอาการคันร่วมด้วย และสิวผดสามารถแดง ลุกลามหรือสิวเห่อได้ เมื่อมีสภาพแวดล้อมกระตุ้นอย่างอากาศ แสงแดด
โดยปกติแล้วสิวผดจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ซึ่งสิวผดเกิดขึ้นได้ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และการมีผิวที่อ่อนแอ ผิวแพ้ง่าย พร้อมทั้งมีลักษณะอาการรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป ในบางรายมีอาการสิวผดรุนแรงเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงปานกลาง สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่ในบางคนที่มีอาการสิวผดที่รุนแรงมาก มีอาการรูขุมขนอักเสบร่วมด้วย ซึ่งหากอยู่ในความรุนแรงนี้จะไม่สามารถรักษาด้วยตัวเองเช่นเดียวกับความรุนแรงอื่นๆ อาจมีความจำเป็นจะต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป
จึงทำให้การรู้วิธีรักษาสิวผดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อผิวที่เรียบเนียน และรักษาสิวผดได้อย่างถูกวิธี ป้องกันการลุกลามไปยังผิวบริเวณอื่นได้
สิวผดมักจะขึ้นในบริเวณที่ผิวหนังมีต่อมไขมันมากและสัมผัสกับอากาศภายนอกได้ง่าย มาดูกันว่าสิวผดมักปรากฏในบริเวณใดได้บ้าง ดังนี้
สิวผดขึ้นเต็มหน้าเกิดจากอะไร? หลังจากที่ทุกคนได้ทราบว่าสิวผดคืออะไร มีลักษณะอาการความรุนแรงอย่างไรบ้างไปแล้วนั้น มาดูกันดีกว่าว่าแท้จริงแล้วสิวผดเกิดจากสาเหตุใด ดังนี้
สาเหตุแรกของการเกิดสิวผดที่หลายๆ คนมักเผชิญ คือ แสงแดดและความร้อน แดดและความร้อนจากแสงอาทิตย์รวมถึงหลอดไฟและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มีรังสี UVA และการที่ผิวได้รับรังสีดังกล่าวเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการปกป้องผิวอาจทำให้เกิดการระคายผิว เพราะรังสียูวีเอสามารถทำร้ายผิวลงไปถึงชั้นในได้ และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายอาจก่อให้เกิดสิวผด และผู้ที่มีสิวผดอยู่แล้วอาจทำให้ขึ้นเยอะกว่าเดิมหรือลุกลามได้
เครื่องสำอางรวมถึงครีมกันแดดบางตัวที่ไม่ได้รับมาตรฐานอาจมีสารที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าและทำให้เกิดการระคายผิวได้ ในผิวที่มีสิวผดอาจรู้สึกระคายผิวมากเป็นพิเศษและทำให้สิวเกิดอาการคัน แดง เห่อ เกิดสิวมากกว่าปกติ
จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งคลีนซิ่ง โทนเนอร์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลบำรุงผิวอย่างเซรั่มที่แก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด และครีมบํารุงผิวหน้าที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ที่ได้รับมาตรฐานชัดเจน และมีส่วนผสมที่เหมาะกับผิว สภาพอากาศร้อนจัดอาจก่อให้เกิดความอบอ้าวและร้อนชื้น เกิดการอุดตันของเหงื่อและไขมันส่วนเกินบนผิวได้ง่ายซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอุดตันและสิวผดได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศที่ร้อนชื้นเป็นปกติ ยิ่งง่ายต่อการเกิดสิวหลายประเภททั้งสิวหัวช้างที่มีความอักเสบและขนาดใหญ่ สิวไม่มีหัว หรือแม้กระทั่งสิวเสี้ยน เพราะแบคทีเรีย สิ่งสกปรกจากคราบเหงื่อมาอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย+มลภาวะ ฝุ่น PM2.5 อาจก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก อาจทำให้ผิวระคายได้และก่อให้เกิดหน้าเป็นสิวผดได้ง่าย
รูขุมขนอักเสบชนิดดังกล่าวมักก่อให้เกิดเชื้อราประเภทยีสต์ในกลุ่ม Malassezia species ทำให้เกิดสิวยีสต์ขึ้นได้ด้วย พบได้มากในวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นเพศชาย เชื้อราประเภทดังกล่าวเกิดจากผิวที่เหงื่อออกง่ายและมีความมันส่วนเกิน บวกกับสภาพแวดล้อมที่มีความร้อน อับชื้น หากเป็นผู้ที่ออกกำลังกายบ่อยก็อาจมีแนวโน้มเกิดเชื้อราประเภทดังกล่าวได้ง่ายกว่า รวมถึงผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้ารัดแน่นเพราะทำให้ผิวเกิดการเสียดสีบ่อย
เชื้อราชนิด P.Ovale เป็นเชื้อรายีสต์ประเภทหนึ่งมักพบได้จากสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะมากและมีความร้อนชื้น เมื่อผิวมีการผลิตไขมันบนผิวมากขึ้นซึ่งเป็นอาหารที่เลี้ยงยีสต์ประเภทข้างต้น ทำให้เชื้อราเกิดการแบ่งตัวได้รวดเร็วขึ้น เกิดเป็นสิวผดมากขึ้น
แม้จะเป็นสาเหตุที่หลายคนไม่ให้ความสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของบางคนอาจทำให้จำเป็นต้องพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ทราบหรือไม่การพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอก็ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน เพราะจะทำให้ผิวเกิดความเสี่ยงที่จะอุดตันได้ง่ายยิ่งขึ้นจากการทำงานที่ผิดปกติของต่อมเหงื่อ ต่อมไขมันในร่างกาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาพักผ่อนน้อยจึงเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
สิวผดเป็นสิวที่แตกต่างจากสิวอื่นทั่วๆ ไปโดยเฉพาะสิวอุดตันที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิวประเภทเดียวกับสิวผด แต่แท้จริงแล้วสิวผดนั้นเป็นตุ่มใสๆ ที่มักจะเกิดจากการที่ผิวถูกกระตุ้นจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ แต่สิวอุดตันเป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนผิวหนัง
วิธีรักษาสิวผดมีหลากหลายวิธีตั้งแต่วิธีเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จนถึงวิธีที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นวิธีแก้สิวผด แต่วิธีรักษาสิวผดแบบธรรมชาติอาจมุ่งเน้นไปที่วิธีการป้องกันมากกว่า เนื่องจากสิวผดอาจมีสาเหตุการเกิดที่ต่างกับสิวชนิดอื่น
การใช้ยาทาเฉพาะที่แม้จะสามารถช่วยรักษาสิวผดเร่งด่วนได้ แต่ก็เป็นวิธีลดสิวผดที่อาจจะส่งผลข้างเคียงได้ หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี ดังนั้นการใช้ยาสิวเหล่านี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนัง โดยยาสำหรับทาสิวผด ได้แก่
สิวผด สามารถรักษาได้อีกวิธีด้วยการทำเลเซอร์ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาปัญหาผิวที่เป็นที่นิยมที่สุดเนื่องจากเห็นผลไวและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถเลือกเลเซอร์จุดที่มีปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำ แต่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวมีความบอบบางและไวต่อแสงเป็นพิเศษ หากไม่ดูแลผิวอาจทำให้ระคายผิวเกิดแผลเป็นหรือแม้กระทั่งฝ้ากระจุดด่างดำบนผิวได้ ทำให้อาจต้องใช้ครีมลดรอยสิวร่วมด้วย
การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวผด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน หรือมีอาการความรุนแรงของสิวผดที่อยู่ในลักษณะรุนแรง เพื่อเป็นการตรวจสภาพผิวและปัญหาผิวอื่นๆ ที่อาจมีและเลือกหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผิวของแต่ละบุคคลนั่นเอง
แม้ว่าจะไม่มีวิธีรักษาสิวผดหรือผื่นให้หายขาดได้ แต่เราก็ยังดูแลผิวให้แข็งแรง รวมถีงลดโอกาสการเกิดสิวผดได้ด้วยเช่นกัน ลองมาดู 9 วิธีดูแลสิวผดที่ต้นตอที่จะช่วยให้คุณบอกลาสิวผด ลดการระคายผิว ดังนี้
แม้ครีมหรือยาที่มีส่วนผสมช่วยรักษาสิวผดสิวอุดตันแรงๆ จะเป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน แต่หากเป็นไปได้เราควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือยาที่ทำให้ผิวหน้าระคายผิวมากขึ้น โดยเฉพาะยาแต้มสิวบางชนิด เพราะยาแต้มสิวส่วนมากจะมีส่วนผสมที่ระคายผิว ทำให้ผิวแห้ง และมีความรุนแรงต่อสภาพผิวของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน ดังนั้นควรหาข้อมูลก่อนใช้หรือว่าปรึกษาเภสัชกรถึงผลข้างเคียงของการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์อย่างอื่นด้วย
การล้างเครื่องสำอางให้หมดจดใช้เพียงโฟมล้างหน้าอย่างเดียวอาจไม่พอเพราะเป็นการทำความสะอาดผิวแค่ภายนอกเท่านั้น การใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าให้ทั่วก่อนการล้างหน้าหรืออาบน้ำในตอนเย็นจะเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก โดยควรเลือกเป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยน ช่วยลดโอกาสการเกิดสิ่งตกค้างอุดตันภายในผิวหนัง และลดแนวโน้มการเกิดสิวซึ่งรวมไปถึงสิวผดนั่นเอง
การทำความสะอาดใบหน้าอย่างเหมาะสม โดยใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้งในช่วงเช้า-เย็นเพื่อเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนและล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้าออก ไม่ควรล้างหน้าหรือเช็ดหน้าบ่อยเกินไปเนื่องจากอาจเป็นการทำให้ระคายผิวและเป็นการกระตุ้นให้สิวผดลุกลามได้
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า การล้างหน้าเป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลผิว แต่การเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะสม เช่น ไม่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ระคายผิวอย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ และเป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวต่างไม่ว่าจะผู้ที่มีผิวขาดน้ำ หรือจะเป็นคนที่มีผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง ระคายผิวง่าย การเลือกสูตรที่เหมาะสมจะช่วยในการสร้างผิวที่แข็งแรงมากขึ้นได้
การใช้ผลิตภัณฑ์อื่นอย่างเช่น สบู่เหลวอาบน้ำ อาจมีสารตึงผิวมากเกินไป หากใช้กับใบหน้าแล้วอาจทำให้ผิวตึงและระคายผิวได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าโดยเฉพาะที่มีความอ่อนโยน ได้มาตรฐาน เช่น
Sensibio Gel moussant ทำความสะอาดผิวหน้าและรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคาย ให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
Sébium Gel moussant เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวมันและเป็นสิว มีส่วนช่วยลดความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันของรูขุมขน ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจดโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
แสงแดดถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการกระตุ้นการเกิดสิวผดและการลุกลามของสิวผด เพราะนอกจากความร้อนและอบอ้าวจากแสงแดดที่ทำให้เกิดเหงื่อแล้ว แสงแดดยังมีรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผิวได้ถึงชั้นด้านใน สามารถทำร้ายผิวในระยะยาวได้ ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเพื่อป้องกันการทำร้ายผิว และทำให้เกิดเหงื่อ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป
แนะนำ Photoderm Aquafluide ที่มีเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องผิวจากแสงแดดได้สูงสุดด้วยเทคโนโลยี SUN ACTIVE DEFENSE เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ควบคุมความมันได้ยาวนาน ให้ความชุ่มชื้น 8 ชั่วโมง
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้ผิวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ จึงทำให้ผิวแข็งแรง ช่วยลดอัตราการเกิดสิวชนิดต่างๆ รวมไปถึงสิวผดให้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นการพักผ่อนยังช่วยให้ผิวดูสดใสอีกด้วย
ใครว่าการรับประทานอาหารไม่สำคัญ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวผดยิ่งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ก็จะช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่ดี โดยเฉพาะการรับประทานผัก ผลไม้ จะช่วยให้ผิวได้วิตามินและแร่ธาตุที่ดีในการบำรุงผิวนั่นเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะหลายๆ คนที่ชอบเอามือไปแคะ แกะ เกา ลูบ หรือกดสิวในบริเวณที่เป็นสิวผดยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้สิวผดลุกลามมากขึ้น และอาจส่งผลให้สิวผดเกิดการระคายผิว จนกลายเป็นสิวอักเสบ หากต้องการให้สิวผดหายควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ และเลิกทำอย่างเด็ดขาดเพื่อให้ผิวห่างไกล ปราศจากสิวผดนั่นเอง
นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ในการจับผิว ไปจนถึงใบหน้าเพื่อป้องกันการลุกลามของสิวผดแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ เมื่อถึงคราวที่ต้องสัมผัสใบหน้าหรือผิวบริเวณต่างๆ สิ่งที่สัมผัสจะต้องมีความสะอาด ฉะนั้นจึงควรล้างมือทุกครั้งก่อนที่จะสัมผัส หรือหากเป็นสิ่งของใดๆ อย่างทิชชู ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ ควรใส่ใจในเรื่องความสะอาดอยู่เสมอ
แม้ว่าสิวผดจะเป็นสิวที่เกิดขึ้นจากทั้งสภาพผิว อากาศความร้อน เหงื่อ และอื่นๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิวผดนั้นก็มีเรื่องที่ชวนให้เข้าใจผิด หรือมีความเชื่อผิดๆ เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสิวผด ดังนี้
สรุปแล้วสิวผดคืออะไร? สิวผดหรือ Acne Aestivalis เป็นตุ่มเล็กๆ ขนาด 1-2 มิลลิเมตรที่เกิดใต้ผิวหนัง มักไม่มีหัวสิวและอาจมีอาการคันร่วมด้วย สาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัยต่างๆ ทั้งแสงแดด ความร้อน ความชื้น เครื่องสำอาง และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การใช้ยาทาเฉพาะที่ การทำเลเซอร์ ไปจนถึงการปรึกษาแพทย์ผิวหนังในกรณีที่มีอาการรุนแรง อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันและดูแลที่ต้นเหตุ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด การทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลผิวให้เหมาะสม
สิวผด สิวอุดตันแม้จะมีลักษณะสิวที่ใกล้เคียงกัน แต่ความจริงแล้วสิวทั้ง 2 ชนิดเป็นสิวคนละประเภทกัน โดยสิวผดเป็นตุ่มใส ๆ เกิดจากการที่ผิวได้รับการทำให้ระคายผิว แต่สิวอุดตันเกิดจากการที่รูขุมขนอุดตันจากสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้า และน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ดังนั้นวิธีรักษาสิวผดนั้นก็จะแตกต่างไปจากวิธีรักษาสิวอุดตัน
สิวผดและสิวข้าวสารเป็นปัญหาผิวที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิวชนิดเดียวกัน แต่ทั้งสองมีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกัน
หน้าเป็นสิวผดสามารถเกิดจากการใส่แมสก์ได้ เพราะสิวผดเกิดจากการระคายผิว แล้วหน้ากากอนามัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผิวบริเวณหน้าช่วงล่างได้รับการเสียดสี และอับชื้นเป็นประจำทำให้เกิดสิวผดได้ ดังนั้นวิธีลดสิวผดอีกวิธีหนึ่งก็คือไม่ควรใช้แมสก์ซ้ำ หากเป็นแมสก์ผ้าก็ควรซักและตากให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดสิว
สิวผดกี่วันหาย เป็นคำถามจากทุกคนที่เป็นสิวผดสงสัยกันไม่น้อย แม้ระยะเวลาการหายของสิวผดระบุเป็นจำนวนวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่สิวผดเป็นสิวที่สามารถหายได้เร็วกว่าสิวประเภทอื่นๆ โดยวิธีการรักษาสิวผดเร่งด่วนที่จะช่วยให้สิวผดหายได้เร็วนั้นคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็นการเจอแสงแดด อากาศร้อนบ่อย การใช้สกินแคร์เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดสิวผด หรือไปจนถึงการพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัย ฯลฯ ซึ่งหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สิวผดก็จะสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ควรบีบหรือแกะสิวผด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดสิวอักเสบที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดรอยแดงหรือรอยดำที่ต้องใช้เวลานานในการรักษา
สิวผดไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่ทำให้เกิดอาการคันและระคายผิวได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือเมื่อมีเหงื่อออกมาก สิวผดมักจะหายไปเองเมื่อสภาพแวดล้อมดีขึ้น แต่ถ้ามีอาการรุนแรงหรือไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม