เมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ หรือผิวแห้งผิดปกติ คุณพ่อคุณแม่อาจวิตกกังวลว่าผิวสาก แห้ง หรือผดตามร่างกายของลูกน้อยนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและควรแก้ปัญหาผิวเหล่านี้อย่างไรดี แต่ก่อนอื่นผู้ใหญ่อย่างเราต้องเข้าใจก่อนว่าผิวของเด็กเล็กนั้นมีความบอบบางมากและต้องระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเด็กเล็กมากเป็นพิเศษ รวมถึงเสื้อผ้าและการใช้ชีวิตประจำวันของลูกน้อยที่ยังต้องการการปกป้องผิวมากพอสมควร ซึ่งหากลูกน้อยเริ่มเป็นผื่น ผิวสากๆ หรือผิวแห้ง อาจต้องพิจารณาว่าเกิดจากสาเหตุอะไรและจะมีวิธีดูแลผิวลูกน้อยอย่างไรบ้าง

 

หากลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ เกิดจากสาเหตุอะไร?

หากคุณพ่อคุณแม่เริ่มสังเกตุว่าลูกน้อยเริ่มมีลักษณะผิวสาก แห้ง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าต้องดูแลผิวของลูกน้อยมากเป็นพิเศษ เพราะการที่ลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ อาจบ่งบอกได้ว่าผิวของลูกน้อยนั้นอาจได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ผลิตภัณฑ์หรือครีมทาผิวเด็ก รวมไปถึงอาจเกี่ยวเนื่องกับความผิดปกของผิวหนังที่เกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้ 

 

  1. ผิวสาก ลอกเป็นขุย จากการที่ผิวของลูกน้อยได้รับการเสียดสี ทำให้รู้สึกระคายผิว ผิวแดงเป็นผื่นกระจายตามบริเวณแก้ม แขนด้านนอก รวมถึงบริเวณขา เป็นต้น  
  2. ผิวสาก แห้ง จากความบอบบางของผิวเด็กที่มีความไวต่อสารเคมีและรังสี UV ในแสงแดด
  3. เป็นผื่น ผิวเป็นสากๆ จากการที่ต่อมเหงื่อของเด็กเล็กยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เกิดผื่นขึ้นได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน 
  4. ลูกเป็นผื่น ผิวเป็นสากๆ เนื่องจากถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น การแพ้ผ้าอ้อม การแพ้ครีมทาผิวเด็กที่มีสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายผิว หรืออากาศที่หนาวเย็น เป็นต้น 

 

ดังนั้น หากลูกน้อยลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ อันดับแรกควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่ลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ อย่างถูกต้อง อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลผิวของลูกน้อยมากเป็นพิเศษด้วยการปกป้องผิวของลูกน้อยจากแสงแดด สภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ครีมทาผิวเด็กที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวของลูกน้อยได้อย่างอ่อนโยน เพื่อปลอบประโลมผิวเด็กที่ระคายง่ายให้รู้สึกสบายและระคายน้อยลง

ปัญหาลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ หรือผิวแห้ง เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ เนื่องจากผิวของลูกน้อยยังมีความบอบบางและเกราะป้องกันผิวของลูกน้อยยังไม่แข็งแรงมากนัก โดยมีความหนาเพียง 1 ใน 5 ของผิวผู้ใหญ่ จึงทำให้ผิวของเด็กเล็กมีความไวต่อสารเคมีและสิ่งกระตุ้นจากภายนอก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรปกป้องผิวของลูกน้อยอย่างเหมาะสมและเติมความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวลูกน้อยไม่ไวต่อการระคาย โดยสามารถดูแลผิวลูกน้อยได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ 

  • หมั่นดูแลให้อากาศภายในห้องถ่ายเทอยู่เสมอ รวมถึงปกป้องผิวของลูกน้อยการสวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และหมวก เพื่อป้องกันรังสี UV จากแสงแดดที่อาจทำให้ผิวสาก แห้ง แดงและระคายได้
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสผิวลูกน้อย เนื่องจากมือของผู้ใหญ่อย่างเราอาจมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ผิวลูกเป็นผื่นและเกิดการติดเชื้อได้
  • ลดปัจจัยที่ทำให้ลูกน้อยผิวสาก แห้ง หรือเป็นขุยๆ เช่น หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดโดยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมสำหรับผิวเด็กเล็กอยู่ที่ประมาณ 27-28 องศาเซลเซียส รวมถึงไม่แช่น้ำเป็นเวลานานและไม่ฟอกสบู่อาบน้ำนานจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวสาก แห้งได้ง่าย
  • ใช้ครีมอาบน้ำเด็กที่มีความอ่อนโยน โดยมีค่า pH ใกล้เคียงผิวสุขภาพดี หรือมีค่า pH 5.5 หากลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ ควรหลีกเลี่ยงครีมอาบน้ำเด็กที่มีส่วนผสมของน้ำหอม พาราเบน หรือสารบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายผิว โดยอาจสังเกตได้จากข้างขวดผลิตภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ผิวหนัง 
  • บำรุงผิวด้วยการใช้ครีมทาผิวเด็กที่มีส่วนผสมของมอย์เจอร์ไรเซอร์ทาทั้งลำตัวและใบหน้าของลูกน้อยเป็นประจำทั้งเช้าและเย็น เพื่อบำรุงผิวที่บอบบางให้มีความชุ่มชื้น ไม่ระคายง่าย และให้ลูกน้อยสามารถนอนหลับได้อย่างสบายและยาวนานขึ้น ซึ่งควรเป็นครีมทาผิวเด็กที่มีความอ่อนโยน ไม่เหนียวเหนอะหนะ และปราศจากส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ 

ครีมทาผิวเด็กหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับทารก นอกจากจะต้องมีความอ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้นได้ดีและเนื้อครีมต้องไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวแล้ว สิ่งสำคัญคือการช่วยส่งเสริมการสร้างเซราไมด์และโปรตีนเพื่อบำรุงปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าควรใช้ครีมทาผิวเด็กยี่ห้อไหนดี สามารถเลือกครีมทาผิวเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และพาราเบนอย่าง Bioderma Atoderm Intensive Baume

ครีมทาผิว Bioderma Atoderm Intensive Baume สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก ระคายง่าย ลอกเป็นขุย ครีมทาผิวเด็กและผู้ใหญ่สามารถทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบาล์มสูตรเข้มข้นที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก มีส่วนผสมของ PEA ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการไม่สบายผิว และลดการเกาจากผิวที่ระคายได้ถึง 85% * พร้อมส่งเสริมการสร้างปราการผิวให้มีความแข็งแรง ช่วยให้ผิวระคายน้อยลงและชุ่มชื้นขึ้นใน 1 สัปดาห์** ด้วยสิทธิบัตร SKIN BARRIER THERAPY ที่ลดการเกาะจับและลดการสร้าง biofilm ของเชื้อแบคทีเรีย S. aureus พร้อมเสริมการสร้างเซราไมด์และโปรตีนในผิวและฟื้นบำรุงปราการผิวให้แข็งแรงขึ้น 

 

*ผลงานวิจัยในอาสาสมัคร 20 คน อายุ 19-65 ปี ที่มีผิวแห้ง-แห้งมาก ระคายง่าย นาน 7 วัน 

**ผลงานวิจัยจากอาสาสมัคร 20 คน อายุ 19-65 ปี ที่มีผิวแห้ง-แห้งมาก 

ข้อสรุปหากลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ

หากลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ ผิวแห้ง นอกจากจะต้องดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจในการดูแลผิวลูกน้อยและปกป้องผิวของลูกน้อยที่บอบบางเป็นพิเศษ ทั้งการปกป้องผิวจากแสงแดด สภาพอากาศ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก รวมถึงการบำรุงผิวของลูกน้อยด้วยการใช้ครีมทาผิวเด็กที่อ่อนโยน เพื่อให้ผิวของลูกน้อยมีความชุ่มชื้นและไม่ไวต่อการระคาย หรือหากลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ ตามบริเวณต่างๆของร่างกายควรหมั่นทายาและเปลี่ยนเสื้อผ้าของลูกน้อย เพื่อป้องกันผื่นแพ้ที่เกิดจากความอับชื้นหรือเหงื่อด้วยเช่นกัน

BIODERMA Atoderm Intensive baume

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร Skin barrier therapy™

Atoderm Intensive baume

ครีมบำรุงผิวเนื้อเข้มข้น ช่วยปลอบประโลมผิวที่แห้งกร้าน ฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น

สำหรับใคร

สำหรับทุกคนในครอบครัว (ยกเว้นทารกที่คลอดก่อนกำหนด)