คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
วิธีดูแลผิวเด็กเล็กให้มีความชุ่มชื้นสมวัย
BEAUTY by EXPERT
พญ.ทิวบุญ ศรีพจนารถ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง
คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
BEAUTY by EXPERT
พญ.ทิวบุญ ศรีพจนารถ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง
ผิวหนังถือเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีความสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ เก็บกักน้ำและไขมัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จึงถือเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกายของเรา
เด็กทารกเมื่อคลอดออกจากครรภ์แม่ ระบบต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนังต้องมีการปรับตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากในครรภ์แม่จะมีสารเคลือบผิว (vernix caseosa) และน้ำคร่ำคอยทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิวหนังที่บอบบาง ไม่สูญเสียน้ำและก่อเกิดการระคายเคือง หลังคลอดเมื่อไม่มีสารเคลือบผิวดังกล่าวผิวของเด็กจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างมาก รวมถึงอากาศ มลพิษ ฝุ่น และเชื้อโรค อีกทั้งความแข็งแรงของผิวหนังในเด็กเล็กยังพัฒนาไม่เต็มที่เมื่อเทียบกับผิวหนังผู้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่า ชั้นผิวหนังกำพร้า (epidermis and stratum corneum) ของเด็กเล็กมีจำนวนชั้นที่บางกว่าชั้นผิวหนังของผู้ใหญ่ และพบว่ามีอัตราการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง (transepidermal water loss rate) มากกว่าของผู้ใหญ่
การดูแลผิวหนังเด็กเล็กจึงมีความสำคัญมาก โดยเริ่มจากการอาบน้ำในเด็กทารกโดยทั่วไปแนะนำให้อาบน้ำเปล่า ที่ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป อาจใช้คลีนเซอร์เฉพาะบริเวณจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ใบหน้า มือ บริเวณก้นและขาหนีบ เป็นต้น คลีนเซอร์ที่เลือกใช้ควรมีคุณสมบัติ อ่อนโยน ไม่ใช่สบู่ (non-soap) ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม และมีค่าความเป็นกรดด่างที่สมดุลใกล้เคียงกับผิวหนัง คือประมาณ 4-6 (pH balance) ความถี่ในการอาบควรอาบวันละ 1 -2 ครั้ง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไป และไม่ควรแช่ในน้ำนานเกิน 10 นาทีเพราะจะทำให้ผิวแห้งคัน ระคายเคืองง่าย และก่อให้เกิดผื่นผิวหนังอักเสบได้ หลังอาบน้ำเสร็จเช็ดตัวให้แห้งพอหมาดๆ จากนั้นควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นทาทั่วตัวทันทีภายใน 3 นาทีโดยไม่ปล่อยให้ผิวแห้ง
มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เลือกใช้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคลือบผิวที่ช่วยคงความชุ่มชื้นแก่ผิวได้นาน ปราศจากน้ำหอม หรือใช้น้ำหอมชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสารก่อภูมิแพ้ การเลือกรูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ซึ่งมีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น ขี้ผึ้ง (ointment) ครีม โลชั่น เจล เป็นต้น ให้เลือกตามสภาพผิว หากผิวแห้งมากให้ใช้รูปแบบครีมที่มีความเข้มข้น หรือแบบขี้ผึ้ง จะสามารถให้ความชุ่มชื้นและลดการระเหยของน้ำในผิวหนังได้ดี หากผิวปกติหรือไม่แห้งมากอาจใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบโลชั่นหรือเจล ซึ่งสามารถทาได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญมากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก โดยจากการศึกษาพบว่าการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอในเด็กเล็ก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) ได้โดยเฉพาะในเด็กที่มีโอกาสเกิดโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่มีประวัติพ่อแม่ หรือพี่น้องเป็นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ หรือมีประวัติโรคหอบหืด จมูกอักเสบภูมิแพ้ร่วมด้วย เป็นต้น
พญ.ทิวบุญ ศรีพจนารถ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง