วิธีการดูแลผิว

วิธีเลือกครีมกันแดดทาหน้าให้เหมาะกับสีผิว พร้อมค่า SPF ที่แนะนำ

เฉดสีผิวแต่ละประเภทอาจมีความไวต่อแสงแดดไม่เท่ากัน มาดูกันว่าการเลือกครีมกันแดดทาหน้าให้กับสีผิวควรดูจากอะไร พร้อมค่า SPF ที่แนะนำ

การเลือกครีมกันแดดทาหน้านั้น หลายคนอาจมองว่ายิ่งค่า SPF ยิ่งสูงยิ่งดี ซึ่งอันที่จริงแล้ว ค่า SPF ในครีมกันแดดสูงๆ อาจไม่จำเป็นสำหรับสีผิวบางประเภทก็เป็นได้ มาดูกันว่าสีผิวของคนเรานั้นแบ่งออกเป็นกี่เฉดและควรเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะกับสีผิวของตนเอง

เฉดสีผิวเกิดจากอะไร มีกี่ประเภท

โดยทั่วไปแล้วเฉดสีผิวของคนเรามีความแตกต่างกันออกไปตามกรรมพันธุ์หรือเชื้อชาติ โดยเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นสารสีที่ทำให้เกิดสีผิวที่แตกต่างกันออกไป ถูกสร้างโดยเซลล์ เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ในชั้นผิวหนังกำพร้าชั้นที่ติดกับชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งเฉดสีผิวที่ไม่เท่ากันของคนเราจะขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของเมลานินที่ถูกสร้างขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

ยูเมลานิน มีส่วนประกอบเป็นไนโตรเจน ทำให้เม็ดสีของผิวมีลักษณะเป็นสีดำ มักพบในเส้นผม ขนตามร่างกาย และเซลล์ผิวหนัง โดยอยู่ 2 แบบ คือ

ยูเมลานินสีดำและสีน้ำตาล พบมากในคนเอเชียและคนผิวคล้ำ

ฟีโอเมลานิน มีส่วนประกอบเป็นไนโตรเจนและซัลเฟอร์ ให้เม็ดสีแดงหรือสีเหลือง พบมากในคนผิวขาว

ซึ่งเม็ดสีเมลานินในผิวส่งผลให้คนเรามีสีผิวที่แตกต่างกันออกไป โดยองค์การอนามัยโลกได้แบ่งสีผิวออกเป็น 6 ประเภท ตามความไวต่อการตอบสนองกับแสงแดด ดังนี้

1. เฉดสีผิวขาวมาก-ผิวขาดซีด

เฉดสีผิวสีขาวมากหรือขาวซีดจะมีความไวต่อแสงแดดมาก คนที่มีผิวลักษณะนี้มักมีกระบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม จมูกและหน้าผาก รวมถึงมักเกิดอาการผิวไหม้แดดได้ง่าย

2. เฉดสีผิวขาว

เฉดสีผิวสีขาวจะเกิดผิวสีแทนได้ยาก มีความไวต่อแดดและเกิดผิวไหม้แดดได้ง่าย

3. เฉดสีผิวขาวเหลือง

ผิวขาวอมเหลืองเมื่อได้รับแสงแดดผิวจะเปลี่ยนเป็นสีแทน ทนต่อแสงแดดได้นานกว่าเฉดผิวขาวและขาวซีด

4. เฉดสีผิวน้ำตาลหรือผิวสองสี

ผิวสีน้ำตาล ผิวสองสี รวมถึงผิวดำแดงจะมีความทนต่อแสงแดดได้นานกว่าและเกิดผิวสีแทนได้ง่าย มักไม่ค่อยพบอาการผิวไหม้แดด

5. เฉดสีผิวน้ำตาลเข้ม

ผิวสีน้ำตาลเข้มจะเกิดผิวสีแทนได้ง่าย ทนต่อแสงแดดได้นานและมักไม่พบอาการผิวไหม้แดด

6. เฉดสีผิวดำหรือสีหมึก

ผิวสีดำมีความทนต่อแสงแดดได้ดี ไม่เกิดอาการไม่แดด สามารถเกิดผิวแทนได้

ค่า SPF ของครีมกันแดดทาหน้าที่แนะนำ

เฉดสีผิวขาว ผิวขาวมากหรือผิวขาดซีด ควรใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15-30 ขึ้นไป เพราะผิวอาจไหม้แดงและเกิดอาการแสบร้อนได้ง่าย
เฉดสีผิวขาวเหลือง อาจเข้มหรือแดงขึ้นได้ง่ายหลังจากถูกแสงแดด จึงควรใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15-30 ขึ้นไป
เฉดสีผิวน้ำตาลหรือผิวสองสี อาจเกิดผิวคล้ำหรือเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาล แต่ยังมีความทนต่อแดดอยู่บ้าง จึงควรใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 10-15 ขึ้นไป
เฉดสีผิวน้ำตาลเข้ม มักเกิดอาการแสบร้อนได้น้อยมากหรือผิวไหม้แดดได้ยาก สามารถใช้ครีมกันแดดที่มี ค่า SPF ตั้งแต่ 10-15 ขึ้นไป
เฉดสีผิวดำหรือสีหมึก หลังจากถูกแดดสีผิวไม่มีการเปลี่ยนแปลง สามารถใช้ครีมกันแดดที่มี ค่า SPF ตั้งแต่ 6-10 ขึ้นไป

วิธีเลือกครีมกันแดดทาหน้าให้เหมาะกับสีผิว

เนื่องจากคนเรานั้นมีสีผิวไม่เท่ากันเป็นธรรมชาติ การเลือกครีมกันแดดทาหน้าจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสีผิวของตนเอง เพื่อให้ผิวหน้าดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติ แต่งหน้าง่ายและไม่ทำให้ผิวขาวลอยหรือผิวคล้ำลงกว่าสีผิวจริง อีกทั้งการเลือกสีของครีมกันแดดให้เข้ากับผิวยังช่วยปกปิดจุดบกพร่องของผิวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย มาดูกันว่าสีผิวแต่ละประเภทเหมาะกับครีมกันแดดเฉดสีไหนบ้าง

เนื้อกันแดด สีม่วง

เหมาะสำหรับทุกสีผิว โดยเฉพาะคนผิวขาวมาก ผิวขาวเหลือง ผิวขาวอมชมพู จะปรับสภาพสีผิวให้มีความเป็นกลางมากขึ้น ช่วยลดความเหลืองบนใบหน้า และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้าแต่หลังทาครีมกันแดด

เนื้อกันแดด สีเขียว

เหมาะสำหรับคนผิวขาว ผิวขาวอมชมพู ที่มักมีรอยแดงบนใบหน้า เฉดสีครีมกันแดดสีเขียวจะช่วยหักล้างเม็ดสีแดงบนผิว ช่วยให้สีผิวที่ไม่เท่ากันดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น

เนื้อกันแดด สีชมพู

เหมาะสำหรับคนผิวขาวมากหรือขาวซีด เพราะจะช่วยปรับให้ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น ไม่ทำให้ผิวดูขาวซีดจนเกินไป แต่อาจไม่ช่วยเรื่องการปกปิดปัญหาผิวบนใบหน้า

เนื้อกันแดดสีขาวหรือสีมุก

เหมาะสำหรับผิวสองสีไปจนถึงผิวขาว จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้นอีกระดับและยังคงความเป็นธรรมชาติของสีผิวเอาไว้ แต่หากเนื้อครีมสว่างกว่าสีผิวจริงมากอาจทำให้หน้าดูลอยไม่เป็นธรรมชาติ

เนื้อกันแดดสีเนื้อหรือสีนวล

เหมาะสำหรับทุกสีผิว โดยเฉดสีเนื้อจะเหมาะกับผิวสองสีไปจนถึงผิวเข้ม รวมถึงเนื้อกันแดดสีนวลจะเหมาะกับผิวสองสีไปจนถึงสีขาว ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มของเฉดสีของครีมกันแดดทาหน้าแต่ละแบบ ซึ่งเฉดสีเนื้อหรือสีนวลจะช่วยให้สีผิวไม่เท่ากันดูเรียบเนียนสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ

สีผิวไม่เท่ากัน ใช้ครีมกันแดดทาหน้าอะไรดี?

ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma : Photoderm Aquafluide SPF 50+ สี Light

ครีมกันแดดทาหน้าสี Light เนื้อบางเบา SPF 50+ PA++++ เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ซึมซาบเร็ว สี Light ปรับผิวหน้าให้ดูสว่างโดยไม่ทำให้ผิวหน้ามันวาวและไม่เป็นคราบขาว ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB มาพร้อมสิทธิบัตร DAF™ (Dermatological Advanced Formulation) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวมีความต้านทานต่อมลภาวะได้ดีขึ้น

ครีมกันแดดทาหน้า Bioderma : Photoderm Cover Touch SPF 50+

ครีมกันแดดทาหน้า SPF 50+ PA++++ เม็ดสีมิเนอรัล มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Light และ Very Light ช่วยปกปิดรอยสิว รอยดำได้สูงถึง 81% ยาวนานทั้งวัน (8 ชม.) * เหมาะสำหรับผิวผสม ผิวมัน และผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป มาพร้อมเทคโนโลยี Sun Active Defense ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและปกป้องผิวเสื่อมจาก UVA ได้สูงถึง 84%** จัดการปัญหาเซลล์ผิวเสื่อมและจุดด่างดำ พร้อมสิทธิบัตร FLUIDACTIV™ ช่วยปรับคุณภาพซีบัมให้ลดความเหนียวข้น ไม่อุดตัน และลดความมันบนใบหน้า

* ผลการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่าง 31 คนที่มีผิวผสม-ผิวมันจำนวน 28 วัน

** ผลการวิจัยในอาสาสมัคร 20 คน ปี 2021 Eurofins Dermscan 20E0976/ Poland 2021

การเลือกเฉดสีครีมกันแดดให้เข้ากับผิวของเรานั้น นอกจากจะช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดดแล้ว ยังช่วยปรับสภาพสีผิวให้ดูสวยและสว่างขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นและไม่ทำให้หน้าดูขาวลอยหรือเป็นคราบขาวระหว่างวันอีกด้วย หากใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ครีมกันแดดสีอะไร สำหรับมือใหม่อาจเลือกครีมกันแดดทาหน้าสีเนื้อหรือสีขาวนวลที่สามารถเข้าได้กับทุกสีผิว แถมยังช่วยเป็นเมคอัพเบสก่อนแต่งหน้าได้ดีอีกด้วย