เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอกับปัญหาทาครีมกันแดดแล้วหน้าวอก หน้าลอย มีคราบขาวหรือเป็นขุย ๆ ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นเพราะครีมกันแดดไม่มีคุณภาพ แต่อันที่จริงแล้วปัญหาเหล่านี้อาจเป็นเพราะเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับผิวนั่นเอง มาดูกันว่าปัญหาหน้าวอก หน้าลอยเมื่อทาครีมกันแดดจะสามารถแก้ไขได้อย่างไรและจะมีวิธีไหนที่จะทำให้ทาครีมกันแดดแล้วผิวสวยเรียบเนียนได้บ้าง

ทำไมทาครีมกันแดดแล้วหน้าวอก เป็นคราบขาว?

 

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าคราบขาวของครีมกันแดดคืออะไร ทำไมทากันแดดแล้วหน้าดูลอยไม่เข้ากับสีผิว ซึ่งคราบขาว คือ คราบของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนผสมของครีมกันแดดที่หลงเหลืออยู่บนผิว รวมไปถึงการเลือกโทนสีของครีมกันแดดที่มีความสว่างกว่าผิวหน้าจริงและการทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธีล้วนส่งผลให้ผิวหน้าวอกหรือหน้าลอยได้ ยิ่งสังเกตเห็นได้ชัดในรูปถ่ายและเมื่อผิวหน้าสะท้อนเข้ากับแสงไฟจะเห็นได้ชัดว่าผิวหน้ามีความขาวสว่างมากกว่าสีผิวจริงนั่นเอง

เลือกครีมกันแดดอย่างไร ให้หน้าไม่วอก ไม่ลอย

การเลือกครีมกันแดดให้ทาแล้วเนียนไปกับผิวนั้น ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ตั้งแต่ประเภทของครีมกันแดด เนื้อครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ปัญหาผิว รวมถึงเฉดสีของครีมกันแดดที่เข้ากับสีผิวของตนเองได้ดี 

1. การเลือกประเภทของครีมกันแดดหน้า

ครีมกันแดดหน้า โดยทั่วไปสามารถเลือกใช้ 3 ประเภทหลักๆ โดยมีกลไกการป้องกันแสงแดดและรังสี UV ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้

  • กันแดดแบบเคมี (Chemical) มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสี UV มีความคงทนต่อแสงแดดอยู่ในระดับดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และบางเบา แต่สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายควรระมัดระวังในการเลือกใช้กันแดดประเภทนี้เพราะอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายหรือแพ้ได้ง่าย 
  • กันแดดแบบกายภาพ (Physical)  เป็นครีมกันแดดที่ปกป้องผิวด้วยการสะท้อนแสง UV ออกไป ทำหน้าที่คล้ายโล่ป้องกันผิว มักมีส่วนผสมของ Zinc Oxide (ZnO) หรือ Titanium Dioxide (TiO2)
  • ครีมกันแดดแบบผสม (Hybrid) เป็นครีมกันแดดที่มีรวมจุดเด่นของครีมกันแดดแบบเคมีและแบบกายภาพ อาจมีการผสมรองพื้น เนื้อสี หรือสารที่ทำให้ผิวเรียบเนียนด้วย

2. การเลือกเนื้อครีมกันแดดหน้าให้เข้ากับผิว

การทาครีมกันแดดให้ไม่วอก ไม่ลอย เนียนรับไปกับผิว อาจจะต้องสังเกตลักษณะผิวของตนเองด้วย เพื่อที่จะได้เลือกเนื้อครีมกันแดดที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีและไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิว 

  • ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแห้ง จะเหมาะกับครีมกันแดดแบบเนื้อครีม เพราะเป็นเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับครีมหรือโลชั่นและมีสารบำรุงในตัว รวมถึงไม่ทำให้ผิวแห้งเป็นขุยอีกด้วย 
  • ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวมัน เป็นสิว เหมาะสำหรับการใช้กันแดดแบบเนื้อเจลหรือเนื้อโลชั่น เพราะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบาง ซึมลงสู่ผิวได้เร็ว ไม่มีสี และไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
  • ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวผสม สามารถใช้กันแดดเนื้อครีมและเนื้อเจล โดยเลือกเนื้อครีมกันแดดที่เนื้อสัมผัสไม่หนักจนเกินไป เพราะผิวผสมนั้นยังมีความมันบนผิวอยู่ช่วงบริเวณ T-Zone
  • ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่ผสมมีสารก่อการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เป็นต้น หรืออาจเลือกครีมกันแดดที่มีความอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ

3. การเลือกครีมกันแดดหน้าที่เนื้อสี

การเลือกเนื้อสีของครีมกันแดด เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผิวหน้าดูผ่องใส เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น 

  • เนื้อกันแดดสีเบจหรือสีนู้ด จะช่วยปรับสีผิวให้เข้ากับความสว่างของแสงแดด ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ
  • เนื้อกันแดดสีเขียวหรือสีม่วง จะช่วยปรับสีผิวที่มีปัญหา เช่น ผิวแดงง่ายหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ สีเขียวจะช่วยให้สีแดงดูจางลง ส่วนสีม่วงช่วยปรับปรุงสีผิวที่มีความเหลืองให้ดูเบาลงได้
  • เนื้อกันแดดสีขาวนวล สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว โดยจะสามารถปรับเข้ากับสีผิวได้เมื่อครีมกันแดดเกาะลงบนผิวและทำให้ผิวดูผ่องใสขึ้นอีกระดับอย่าง ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluide SPF50+ 

ครีมกันแดดทาหน้าเนื้อบางเบา เนื้อสีขาวนวล SPF 50+ PA++++ เหมาะทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ซึมซาบเร็ว ไม่ทำให้ผิวหน้ามันวาวและไม่เป็นคราบขาว ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB มาพร้อมสิทธิบัตร DAF™  (Dermatological Advanced Formulation) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวมีความต้านทานต่อมลภาวะได้ดีขึ้น

3 เทคนิค การทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

หลังจากที่เลือกประเภท เนื้อครีมกันแดด และสีของครีมกันแดดที่เหมะกับผิวได้แล้ว การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องนั้นควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

   1. ล้างหน้าให้สะอาด 

ก่อนทาครีมกันแดดลงบนผิวหน้าควรเตรียมผิวด้วยการล้างหน้าให้สะอาด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เพราะหากไม่ล้างหน้าก่อนทากันแดดอาจทำให้เนื้อกันแดดซึมลงสู่ผิวได้ไม่ดี ซึ่งเป็นสาเหตุของคราบขาวบนใบหน้าและหน้าเป็นขุยหลังทาครีมกันแดดนั่นเอง

   2. ปรับสภาพผิวก่อนทาครีมกันแดด

หากใครที่มีผิวแห้งหรือผิวมัน ซึ่งอาจทำให้เนื้อกันแดดไม่เกาะบนผิวหน้าและทำให้แต่งหน้าไม่ติดทน ควรปรับสภาพผิวก่อนลงครีมกันแดดด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์หรือเจลบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น จากนั้นรอให้ครีมบำรุงซึมลงผิวแล้วตามด้วยครีมกันแดด 

   3. เกลี่ยเนื้อครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้า

หลังจากที่เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทาครีมกันแดดแล้ว ให้แต้มเนื้อครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและค่อย ๆ ใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่ว จากนั้นใช้มือตบเนื้อครีมกันแดดให้เข้ากับผิวหน้าเบา ๆ และทิ้งให้เนื้อกันแดดซึมลงสู่ผิวประมาณ 1-2 นาที จากนั้นจึงเริ่มลงเครื่องสำอางตามลำดับ

 

จะเห็นได้ว่าการทาครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวนั้นสามารถทำตามได้ไม่ยาก เพียงแค่เข้าใจสภาพผิวของตนเองและเลือกครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ผิว ก็จะสามารถทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ไม่วอก ไม่ลอย แถมยังได้รับการปกป้องผิวจากแสงแดดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันปัญหาผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย รวมถึงป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดด้วย

BIODERMA Photoderm Aquafluide SPF50+ ครีมกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตัน สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

ปกป้องผิวทั่วไป

ผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร SUN ACTIVE DEFENSE

Photoderm Aquafluide SPF50+ (Invisible)

ครีมกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่อุดตัน สำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น