Key Takeaway

  • ผื่นลมพิษ บรรเทาได้ด้วยการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนและเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เช่น ครีมอาบน้ำและครีมบำรุงสำหรับผิวแพ้ง่าย
  • ป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดดและเสื้อผ้าที่ปกปิด พร้อมทั้งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและลดโอกาสเกิดผื่นซ้ำ
  • หลีกเลี่ยงการแกะเกาและระบุสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่น พร้อมพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
     

 

เบื่อผื่นลมพิษที่ขึ้นมารบกวนผิวใช่ไหม? บทความนี้มีเคล็ดลับดูแลผิวแบบง่ายๆ เพื่อบรรเทาอาการและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของผื่นลมพิษ พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวที่ช่วยให้คุณมีผิวสุขภาพดีอีกครั้ง ไม่ว่าจะเผชิญกับปัญหาผื่นลมพิษมานานแค่ไหน Bioderma มีวิธีที่จะช่วยให้คุณกลับมามีผิวสวยสุขภาพดีได้อย่างที่ต้องการ หาคำตอบได้ในบทความนี้

ผื่นลมพิษ หรือที่หลายคนเรียกว่า "ลมพิษ" เป็นอาการที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นนูนแดงคัน มีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันไป บางครั้งอาจมีอาการบวมร่วมด้วย ซึ่งแตกต่างจากผื่นชนิดอื่นๆ ตรงที่ผื่นลมพิษมักจะเกิดขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็เกิดขึ้นซ้ำได้บ่อยครั้ง

โดยผื่นลมพิษสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • ผื่นลมพิษเฉียบพลัน: มักเกิดขึ้นทันทีหลังจากสัมผัสสิ่งกระตุ้น และหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 6 สัปดาห์
  • ผื่นลมพิษเรื้อรัง: เป็นผื่นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ บางครั้งอาจคงอยู่เป็นเดือนหรือเป็นปี ทำให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก

 

รู้จักสาเหตุผื่นลมพิษ เพื่อหาทางออก

การรู้สาเหตุของผื่นลมพิษเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการรักษาและป้องกัน มาดูกันว่าลมพิษเกิดจากอะไรได้บ้าง ดังนี้

  • การแพ้อาหาร เช่น อาหารทะเล ถั่ว ไข่ นม เป็นต้น
  • การแพ้ยา เช่น ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ เป็นต้น
  • การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น เป็นต้น
  • การติดเชื้อ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เป็นต้น
  • ความเครียดทางร่างกายหรือจิตใจ
  • อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • การออกกำลังกายอย่างหนัก
  • การสัมผัสแสงแดดหรือน้ำ
  • โรคภูมิต้านทานตัวเอง
  • ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงตั้งครรภ์หรือวัยทอง เป็นต้น
     

เป็นผื่นลมพิษ ทำให้ผิวแห้งจริงไหม?

ผื่นลมพิษไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการคันและระคายผิว แต่ยังส่งผลให้ผิวแห้งได้อีกด้วย ซึ่งมีสาเหตุดังนี้

  • ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น: เมื่อเกิดการอักเสบ ผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วขึ้น ทำให้ผิวแห้งและตึง
  • การเกา: อาการคันทำให้ต้องเกาผิว ซึ่งจะทำให้ระคายผิวและแห้งมากขึ้น
  • การใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไป: บางคนอาจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรงเกินไปเพื่อบรรเทาอาการ แต่กลับทำให้ผิวยิ่งแห้ง รู้สึกระคายผิว
  • ผลข้างเคียงจากยา: ยาบางชนิดที่ใช้รักษาผื่นลมพิษอาจทำให้ผิวแห้งได้
  • การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง: ผื่นลมพิษทำให้โครงสร้างผิวหนังเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นลดลง

หลังจากที่ได้เข้าใจสาเหตุที่เกิดผื่นลมพิษแล้ว มาดู 9 วิธีดูแลผิวให้กลับมามีสุขภาพดีหลังเป็นผื่นลมพิษกัน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาอาการ แต่ยังช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีกด้วย
 

1. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน  

การทำความสะอาดผิว เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวที่เป็นผื่นลมพิษ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้เกิดการระคายผิว เช่น น้ำหอม สี หรือสารกันเสีย นอกจากนี้ ไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป รวมถึงซับผิวให้แห้งเบาๆ ห้ามถูแรง เพราะอาจจะกระตุ้นอาการคันได้

แนะนำให้เลือกใช้ครีมอาบน้ำสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายอย่าง Atoderm Huile de douche ที่ทำความสะอาดร่างกายอย่างอ่อนโยน ช่วยลดการระคายผิว ปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น และแข็งแรง 
 

2. ใช้ครีมหรือโลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้น

หลังจากทำความสะอาดผิว การเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นบำรุงผิวที่แห้ง และการระคายผิว โดยการทาครีมหรือโลชั่นทันทีหลังอาบน้ำ ขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ พร้อมกับเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์อย่าง Atoderm Intensive Baume ซึ่งมีส่วนผสมของเซราไมด์ ที่จะทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ พร้อมกับมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สามารถทาซ้ำหลายครั้งต่อวันถ้าผิวยังรู้สึกแห้ง

ซึ่งการทาครีมหรือโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นจะช่วยฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิว ลดอาการคัน และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
 

3. ทาครีมกันแดด และเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง

แสงแดดเป็นสิ่งที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดผื่นลมพิษได้ ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอมหรือสารเคมีที่ระคายผิว และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้ง พร้อมกับสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดด เช่น หมวกปีกกว้าง เสื้อแขนยาว เป็นต้น

การป้องกันผิวจากแสงแดดไม่เพียงแต่ช่วยลดโอกาสการเกิดผื่นลมพิษ แต่ยังช่วยป้องกันการทำลายผิวจาก UV ทำให้ผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดีในระยะยาว

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

เป็นลมพิษขาดวิตามินอะไร? แล้วอาหารมีผลต่อการบรรเทาอาการผื่นลมพิษอย่างไร? ซึ่งอาหารที่เรารับประทานมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิวและระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง อย่างการรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน บร็อกโคลี หรือเลือกอาหารที่มีสาร Antioxidant เช่น ผลเบอร์รี่ ชาเขียว ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดผื่นลมพิษและมีผิวที่แข็งแรงสุขภาพดี
 

5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเป็นวิธีรักษาลมพิษด้วยตัวเองแบบง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวและสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผื่นลมพิษ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือมากกว่านั้นหากอากาศร้อนหรือออกกำลังกาย และเลือกดื่มน้ำเปล่าแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน
 

6. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยฟื้นบำรุงร่างกายและผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผื่นลมพิษ ดังนั้น จึงต้องพยายามนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพราะการนอนหลับที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง ลดการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผื่นลมพิษ
 

7. ลดความเครียด

ความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดผื่นลมพิษได้ จึงต้องการจัดการความเครียดด้วยการฝึกเทคนิคการหายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลาย ทำสมาธิหรือโยคะเป็นประจำ หรือหากิจกรรมอดิเรกที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น วาดรูป ฟังเพลง ทำสวน เป็นต้น เพราะการลดความเครียดจะช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนที่อาจกระตุ้นการเกิดผื่นลมพิษ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
 

8. ห้ามแกะ เกาผื่นลมพิษ

แม้ว่าอาการคันจากผื่นลมพิษจะทรมาน แต่การเกาหรือแกะผื่นจะยิ่งทำให้อาการแย่ลงและอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้ ควรใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่คัน หรือทาครีมเพื่อบรรเทาอาการคัน เพราะการหลีกเลี่ยงการเกาหรือแกะผื่นจะช่วยให้ผิวหนังฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการติดเชื้อ และป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนัง
 

9. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นการเกิดผื่นลมพิษ

การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดผื่นลมพิษซ้ำ เช่น สภาพแวดล้อมก่อนเกิดผื่น สารก่อภูมิแพ้ สารเคมีที่อาจระคายผิว เป็นต้น
 

บรรเทาอาการผื่นลมพิษ พร้อมไปพบแพทย์

แม้ว่าวิธีการดูแลตัวเองที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยบรรเทาอาการผื่นลมพิษได้ แต่การพบแพทย์ก็เป็นสิ่งจำเป็น  เพราะแพทย์จะสามารถวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของผื่นลมพิษ และให้การรักษาที่เหมาะสมกว่าการหาวิธีแก้ลมพิษโดยการไปซื้อยามาทาเองที่บ้าน
 

สรุป

การดูแลและบรรเทาอาการผื่นลมพิษ ต้องอาศัยความอดทนและความสม่ำเสมอ ซึ่งการปฏิบัติตามวิธีการที่แนะนำข้างต้นไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาอาการของผื่นลมพิษเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นบำรุงสุขภาพผิวโดยรวมอีกด้วย

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ทั้งในด้านอาหาร การพักผ่อน และการจัดการความเครียด ล้วนมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดผื่นลมพิษซ้ำและส่งเสริมสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว

เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับผื่นลมพิษมากขึ้น เรามาดูคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบให้หายสงสัยกัน

ระยะเวลาในการหายของผื่นลมพิษขึ้นอยู่กับประเภทที่ได้กล่าวไปในบทความ หากมีการดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ออยล์อาบน้ำ สำหรับผิวแห้งและระคายผิวง่าย จะช่วยบรรเทาอาการและส่งเสริมการฟื้นบำรุงผิวได้เร็วขึ้น

ผื่นลมพิษส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชนิดเฉียบพลัน มักจะหายเองได้ภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวที่เหมาะสมและการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นจะช่วยให้อาการหายเร็วขึ้น และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ในกรณีของผื่นลมพิษเรื้อรัง อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เพื่อควบคุมอาการในระยะยาว

อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น 

  • การแพ้อาหาร หรือยาที่รับประทานเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
  • การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ฝุ่น ฯลฯ
  • การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ยังไม่แสดงอาการอื่น

ผื่นลมพิษไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่หายาก ผื่นลมพิษอาจเกิดร่วมกับอาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอาการที่เป็นสัญญาณให้รีบไปพบแพทย์หรือโทรเรียกบริการฉุกเฉินทันที มีดังนี้ 

  • หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ด
  • บวมที่ลิ้น คอ หรือใบหน้า
  • เวียนศีรษะรุนแรงหรือเป็นลม
  • คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง
  • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
Bioderma Atoderm Huile de douche ขวดปั๊ม 1 L

คลีนเซอร์แบบล้างออก

ผิวแห้งมาก ระคายต่อผิวแพ้ง่าย

สิทธิบัตร Skin barrier therapy™

Atoderm Huile de douche

ออยล์อาบน้ำที่ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง
รู้สึกได้ว่าผิวสบายทันทีหลังอาบน้ำ

สำหรับใคร

สำหรับทุกคนในครอบครัว (ยกเว้นทารกที่คลอดก่อนกำหนด)