ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในปัจจุบันนับว่ามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก สาเหตุหนึ่งเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้คนในยุคนี้หันมาสนใจใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ดูแลผิวมากขึ้น ซึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็มีหลากหลายทั้งเซรั่มและครีม จึงมีคำถามเข้ามามากมายว่าเซรั่มจำเป็นไหม? เซรั่มแตกต่างจากครีมอย่างไร? วันนี้ BIODERMA จะมาไขข้อข้องใจ นำเสนอบทความดีๆ ค่ะ

เซรั่ม หรือ ซีรั่ม (Serum) คืออะไร มีลักษณะอย่างไร?

เซรั่ม (Serum) คือ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบลงสู่ผิวได้ง่าย เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำค่อนข้างมาก ดังนั้นเมื่อทาเซรั่มลงบนผิวหน้าจะรู้สึกได้ว่าเซรั่มมีเนื้อที่ค่อนข้างบางเบา เกลี่ยง่าย และซึมไว โดยเซรั่มมีตั้งแต่มีความเหลวมากไปจนถึงค่อนข้างข้น การเลือกส่วนประกอบสำคัญในเซรั่มนั้นจะ จึงควรเลือกตามปัญหาผิวของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น หากมีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ สารประกอบของเซรั่มที่เลือกใช้ก็จะเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ลดการสูญเสียน้ำในผิว เพิ่มการสร้างท่อส่งน้ำภายในผิว เพื่อช่วยทำให้ผิวดูนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หรือในผู้ที่กังวลใจเรื่องผิวหน้าไม่กระจ่างใส อาจเลือกใช้เซรั่มหน้าใสที่มีส่วนประกอบหรือสารสำคัญที่ช่วยทำให้ใบผิวหน้าดูสว่าง กระจ่างใสขึ้น ส่วนสีของเซรั่มขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของแต่ละสูตร เช่น สีขาว สีใส เป็นต้น

 

 เซรั่มต่างจากครีมบำรุงผิวหน้าอย่างไร ทำไมต้องใช้เซรั่ม?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ครีมบำรุงผิวหน้า คืออะไร? สำหรับเนื้อครีมบำรุงผิวหน้าหรือครีมทาหน้าที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างน้ำและน้ำมัน ซึ่งความเหนียวข้นนั้นของเนื้อครีมบำรุงผิวหน้าจะแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น Day Cream ก็มักจะมีความบางเบามากกว่า Night Cream เป็นต้น โดยครีมบำรุงผิวหน้าจะเน้นไปที่การมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าและป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิวเป็นหลัก ดังนั้นจึงเน้นการปกคลุมผิว ซึ่งลักษณะของเนื้อครีมจะต้องใช้ระยะเวลาในการเกลี่ยให้เนื้อครีมซึมลงไปสู่ผิวหนังเป็นระยะเวลาที่นาน ซึ่งจะแตกต่างจากเซรั่มที่มีส่วนประกอบของสารสำคัญที่สูงกว่าและมีความเหลวมากกว่า จึงทำให้เซรั่มซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีกว่าครีมบำรุงผิวนั่นเอง

ในขั้นตอนการบำรุงผิว เซรั่มจึงเป็นเสมือนการเปิดผิวให้การทาครีมบำรุงผิวลำดับถัดไปลงสู่โครงสร้างผิวได้ดี เนื่องจากมีน้ำจากเซรั่มเป็นตัวนำพาสารบำรุงในครีมซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้นนั่นเอง และครีมจะช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นยาวนานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างการใช้เซรั่มกับการไม่ใช้ พบว่าในการบำรุงผิวด้วยเซรั่ม ในชีวิตประจำวันจะทำให้เพิ่มความชุ่มชื้นทั้งผิวชั้นบนและผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและผิวสว่างขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้นเซรั่มจึงนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ขาด

ผิวแห้งที่เรามองเห็นนั้น เกิดจากอะไรได้บ้าง และลักษณะเป็นอย่างไร? ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยคือทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนี้

  1. ปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม โดยผิวหนังจะมีการผลิตน้ำมันออกมาน้อย ทำให้ผิวหนังขาดน้ำมันที่จำเป็น ทำให้ปราการผิวหรือเกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง เกิดผิวระคายเคืองได้ง่าย ส่งผลทำให้ ผิวหนังดูแห้ง ไม่เรียบเนียน ผิวหยาบ แห้งกร้าน ลอก เป็นขุย อาจเกิดอาการคันได้ โดยผิวแห้งถ้าไม่ดูแลผิวให้ดี เป็นสัญญาณแรกที่ทราบได้ว่าผิวได้เกิดการระคายเคือง เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง ส่งผลให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้ นอกจากนี้อายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้น้ำมันบนผิวลดลง การระเหยของน้ำเพิ่มมากขึ้น ยิ่งส่งผลให้เกิดปัญหาผิวแห้งตามมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

     

  2. ปัจจัยภายนอก เช่น รังสียูวีจากแสงแดด โดยมีการศึกษาพบว่าการสัมผัส รังสีอัลตราไวโอเลต จากแสงแดดบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดผิวแห้ง และเกิดริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้ง่าย, อากาศแห้ง, มลภาวะในอากาศต่างๆ หรือในแง่ของการดำเนินชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ท่าการนอน รวมทั้ง เครื่องดื่มและอาหาร โดยจะเห็นได้ว่า การรับประทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน จะทำให้ความสมดุลของน้ำมีความผิดปกติ ซึ่งมีผลทำให้เกิดผิวแห้ง ผิวขาดน้ำตามมาได้ นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งตามมาได้ ดังนั้นจากปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ยิ่งเป็นการย้ำให้เราควรดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยจนกว่าผิวมีปัญหาริ้วรอยหรือผิวแห้งมากแล้วค่อยเริ่มดูแลนะคะ

 

จะเห็นได้ว่าปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวระคายง่าย จนเกิดปัญหาน่ากังวลใจตามมานั่นก็คือการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ จึงควรดูแลผิวตั้งแต่ในช่วงที่ผิวยังมีสุขภาพดีอยู่และหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอกที่จะยิ่งส่งผลให้เกิดปัญหาเหล่านี้ รวมทั้งการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน มีคุณภาพ และเหมาะสมกับสภาพผิว เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะหากดูแลผิวไม่เหมาะสม ในระยะยาวจะส่งผลทำให้เกิดผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง มีริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้

การเลือกใช้เซรั่มบำรุงผิวเพื่อผิวแข็งแรงสุขภาพดี ควรเลือกจากส่วนผสมที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมาเป็นอันดับแรก ได้แก่ กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) 

 

เซรั่ม ไฮยาลูรอน คืออะไร

กรดไฮยาลูรอน คืออะไร มีลักษณะอย่างไร?

กรดไฮยาลูรอนิค  (Hyaluronic Acid)  หรือไฮยาลูรอน เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ เนื่องจากร่างกายสามารถสร้างไฮยาลูรอนได้เอง ในร่างกายจะพบมากบริเวณดวงตาและข้อต่อ นอกจากนี้ยังพบได้ในผิวหนังของคนเราด้วย ไฮยาลูรอนมีคุณสมบัติเด่นในด้านการอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวหนังเนียนนุ่ม มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ไม่แห้งแตก เต่งตึง ดูสดใส เปล่งปลั่ง เป็นสารที่ช่วยป้องกันริ้วรอยบริเวณต่างๆ เช่น บริเวณร่องแก้ม รอบดวงตา รวมทั้งป้องกันริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น การขมวดคิ้ว การยิ้มกว้างๆ หรือการแสดงสีหน้าในรูปแบบต่างๆ อันส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยตามมาได้

อย่างไรก็ตามการลดลงของไฮยาลูรอนมีความสัมพันธ์กับอายุที่ร่วงโรย และรังสียูวีที่ได้รับจากแสงแดด คือ ยิ่งอายุมากขึ้น ทำให้การสร้างไฮยาลูรอนลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ และรังสียูวีจากแสงแดด มลภาวะในปัจจุบัน มีส่วนทำให้ไฮยาลูรอนเกิดการทำลาย ทำให้มีไฮยาลูรอนในปริมาณที่ลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังที่ดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ไร้ริ้วรอยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเกิดผิวที่มีริ้วรอยก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน ดูไม่สว่าง ไม่สดใสได้

 

เซรั่มไฮยาลูรอน คืออะไร?

เซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอน มีคุณสมบัติในการช่วยกักเก็บน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยกรดไฮยาลูรอนสามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก ถึงแม้ร่างกายจะสามารถผลิตไฮยาลูรอนได้เองตามธรรมชาติ จากเนื้อเยื่อและน้ำหล่อลื่นไขข้อต่าง ๆ แต่เมื่ออายุค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น จะทำให้ร่างกายผลิตไฮยาลูรอนลดลง ผิวจึงดูไม่เต่งตึงอิ่มน้ำเหมือนเก่า การใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนจะช่วยแก้ปัญหาดูกลับมาสดชื่น อิ่มน้ำขึ้น และยังช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ เล็กๆ ให้จางลงได้

นอกจากการลดลงของกรดไฮยารูลอนในร่างกายจะสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้นแล้ว การที่ผิวได้รับผลกระทบจากรังสียูวีในแสงแดดและมลภาวะจากสภาพแวดล้อมยังมีส่วนที่ทำให้ไฮยารูลอนในร่างกายถูกทำลายลงไปด้วย จึงเป็นเหตุผลที่คนผิวเป็นสิว ผิวแห้งขาดน้ำ ผิวแพ้ระคายง่ายไวต่อมลภาวะและแสงแดดจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เร็วกว่าคนที่มีผิวธรรมดา รวมถึงทำให้ผิวหยาบกร้านและผิวหมองคล้ำได้อีกด้วย

เซรั่มบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี?

เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว โดยมีส่วนผสมของไฮยารูลอนและกลีเซอรีนที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน BIODERMA ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า 2 สูตร พร้อมสารสกัดที่มีความอ่อนโยนตามธรรมชาติของผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้น

  • Bioderma Hydrabio Serum 

เซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไฮยารูลอน เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งที่ต้องการการบำรุง หรือจะผิวแพ้ง่ายที่ต้องระมัดระวังในการบำรุงเป็นพิเศษ ไปจนถึงผิวขาดน้ำที่ต้องเติมน้ำสู่ผิวอย่างสมดุล พร้อมเติมน้ำให้ผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำจากภายในสู่ภายนอกด้วยส่วนผสมของ กรดไฮยารูลอนหรือ Hyaluronic Acid ผสานกับ Glycerine และ Xylitol ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก พร้อมสารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล (Apple Seed Extract) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

  • Bioderma Sensibio Defensive Serum

เซรั่มบำรุงผิวและปลอบประโลมปราการผิวหน้าให้แข็งแรง เนื้อครีมอีมัลชั่น (Oil-in-water) เหลวสีขาว ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวอ่อนนุ่มและรู้สึกสบายผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมงด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid, Carnonsine และ Vitamin E ที่ช่วยปรับผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส พร้อมปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นการแพ้จากภายนอกและปลอบประโลมผิวระคายง่ายให้สบายขึ้น

ส่วนประกอบหลักที่เป็นคุณสมบัติเด่นของเซรั่ม BIODERMA

  1. ไฮยาลูรอนช่วยเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว ซึ่งมีข้อมูลอย่างมากมายในเรื่องของการป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
  2. สารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล ที่ช่วยเสริมกระตุ้นการสร้างท่อส่งน้ำในผิว (Aquaporins) ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
  3. ไนอะซินาไมด์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซอราไมด์ใต้ผิวหนังเสมือนเกราะป้องกันการระเหยของน้ำในผิว
  4. กลีเซอรีนเข้มข้น 10% ให้ความชุ่มชื้นกับเซลล์ผิวหนัง
  5. สิทธิบัตร D.A.F. Patent Natural Complex  เป็นสารสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรง

วิธีทาเซรั่มและครีมบำรุงผิวหน้า

หลายคนอาจยังสงสัยว่าเซรั่มบำรุงผิวหน้ามีวิธีใช้อย่างไร? ไบโอเดอร์มา จึงขอนำเสนอ โดยวิธีใช้เซรั่มให้ได้ประสิทธิภาพ เพื่อผิวหน้าที่สุขภาพดีควรใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาด

ขั้นตอนที่ 1  ทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด เริ่มต้นด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์คลีนซิ่ง เพื่อเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางหลังล้างหน้า โดยเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะสมกับปัญหาผิว ต้อง และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป หลังจากนั้นใช้เจลล้างหน้าชะล้างทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ถูใบหน้าแรงๆ เนื่องจากจะก่อให้เกิดการระคายเคืองตามมาได้ และเป็นการทำร้ายเซลล์ผิวจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาผิวที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นตามมาได้ หลังจากนั้นตามด้วยโทนเนอร์ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์สำหรับการทำความสะอาดผิวหน้า

ขั้นตอนที่ 2 บำรุงผิวด้วยเซรั่ม

ทาเซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนในขณะที่ใบหน้ายังคงมีความชื้นอยู่ ไม่ควรปล่อยให้ใบหน้าแห้งจนเกินไปเนื่องจากผิวที่ชื้นจะช่วยให้เซรั่มซึมลงสู่ผิวได้ง่ายกว่าผิวที่แห้ง เพราะฉะนั้นเราจึงควรลงเซรั่มหลังจากล้างหน้าทันที โดยใช้เซรั่มให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เช้าและก่อนนอน จากนั้นจึงทาครีมบำรุงผิวต่อในลำดับถัดไป

ขั้นตอนที่ 3 ทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์

เมื่อทาเซรั่มลงบนผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์ตามลงไป เพื่อเป็นการล็อคความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวได้ยาวนานขึ้น โดยเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวและมีสารสกัดที่อ่อนโยน ปกป้องผิวแพ้ง่าย ลดการระคาย อย่าง BIODERMA Sensibio Defensive Cream

 

ครีมบำรุงผิวหน้า Sensibio Defensive Cream

ครีมทาหน้าเพื่อฟื้นบำรุงผิวแพ้ระคายง่ายให้ชุ่มชื้นและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะที่อาจทำร้ายผิว ด้วยส่วนผสมของ Carnonsine และ Vitamin E ที่ช่วยปกป้องผิวแพ้แสงแดด มลภาวะและสารเคมีได้ถึง 75%* พร้อมเสริมปราการผิว ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน และปลอบประโลมผิวระคายให้รู้สึกสบายขึ้นด้วยส่วนผสมของ Red Sage Polyphenols พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 12 ชั่วโมง

*In vitro test on Defensive Technology

การบำรุงผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ให้กับผิว โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความสามารถในการซึมลงสู่ผิวได้ดีและมีสารบำรุงที่เข้มข้น ควบคู่ไปกับการทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนานขึ้น นอกจากจะช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวที่แห้งขาดน้ำดูสุขภาพดีและปลอบประโลมผิวที่แพ้ระคายง่ายให้รู้สึกสบายและได้รับการปกป้องที่ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

References

American Academy of Dermatology Association

Dermato – Endocrinology 4: 3, 253-258 July – December 2012

J Cosmet Dermatol. 2020 Aug ; 19 (8) : 1993 – 1999. Doi : 10.1111/jocd. 13242. Epub2019Dec15

Skincare Bootcamp : The Evolving Role of Skincare, 2016

Bioderma Sensibio Defensive SerumBIODERMA Sensibio Defensive Serum เซรั่มบำรุงเข้มข้น

เซรั่ม

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

Sensibio Defensive Serum

เซรั่มบำรุงเข้มข้น เพื่อผิวสตรอง ปกป้องทุกมลภาวะ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Hydrabio Sérum เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

เซรั่ม

ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

สิทธิบัตร Aquagenium™

Hydrabio Sérum

เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Sensibio Defensive ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว

บำรุงผิวได้ทุกวัน

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

Sensibio Defensive

ครีมฟื้นบำรุงเนื้อเบา-ซึมไว ไม่อุดตัน ปลอบประโลมผิว มีสารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ต้านทานมลภาวะและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น