ผิวรอบดวงตา เป็นบริเวณผิวที่มีความบอบบาง เกิดการระคายผิว และเสี่ยงต่อการอุดตันได้ง่าย ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตาด้วยเครื่องสำอาง จึงควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดรอบดวงตา เพื่อป้องกันไม่ให้มีเครื่องสำอางตกค้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อดวงตาตามมามากมาย  อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการกำจัดสิ่งสกปรก และคราบเครื่องสำอาง แต่จะเลือกยังไงถึงจะทำความสะอาดได้อย่างหมดจด และไม่ก่อให้เกิดการระคายผิว หรือใช้แล้วแสบตา ตามมาดูกันในบทความนี้ได้เลย

เครื่องสำอางที่ใช้ตกแต่งดวงตาส่วนใหญ่ เช่น อายแชโดว์ มาสคาร่า อายไลเนอร์ มักถูกออกแบบมาให้มีความติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ คงทนต่อความมันบนผิว อยู่บนผิวเปลือกตา และขนตาได้อย่างยาวนาน ดังนั้น การใช้โฟมล้างหน้าทั่วไปเพียงอย่างเดียว อาจทำความสะอาดได้ไม่หมดจด จึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดโดยเฉพาะอย่าง Eye Remover

อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ตกแต่งดวงตา รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ให้สะอาดหมดจด ไม่เหลือสิ่งตกค้างบริเวณผิวรอบดวงตา และขนตา ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อดวงตา เช่น เกิดการอุดตัน การระคายผิวและอักเสบ มีทั้งในรูปแบบบาล์ม น้ำ และน้ำมัน เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของการใช้งาน และสภาพผิวของแต่ละคน

คลีนซิ่ง และอายรีมูฟเวอร์ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่คลีนซิ่งจะใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอาง ฝุ่นละอองทั่วไป แต่อายรีมูฟเวอร์จะใช้สำหรับทำความสะอาดเครื่องสำอางสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งมักใช้ส่วนผสมที่มีความติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ หากทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง หรือโฟมล้างหน้า อาจต้องเช็ดล้างทำความสะอาดซ้ำหลายครั้ง ซึ่งอาจเกิดผลเสียต่อผิว โดยเฉพาะผิวที่บอบบางได้ 

ในท้องตลาดจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ Eye Remover จำหน่ายอยู่หลายยี่ห้อ หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหนดี เนื่องจากดวงตาเป็นส่วนที่มีความบอบบาง ต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ จึงควรเลือกอายรีมูฟเวอร์ที่ไม่ทำให้เกิดการระคายผิว หรือเป็นอันตรายต่อดวงตา โดยมีปัจจัยสำคัญที่ควรนำไปพิจารณาดังนี้

1. เลือกตามประเภทของอายรีมูฟเวอร์

เลือกประเภทของ Eye Remover ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท แบ่งออกเป็น

อายรีมูฟเวอร์สำหรับทำความสะอาดรอบดวงตา และริมฝีปาก

Eye & Lip Remover ซึ่งจะพบได้ทั้งแบบใช้สำหรับทำความสะอาดรอบดวงตา และริมฝีปากโดยเฉพาะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อทำความสะอาดบริเวณที่มีความบอบบางเป็นพิเศษ ในปัจจุบันที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีทั้งเป็นน้ำยาบรรจุขวด และแผ่นสำลีชุบน้ำยา ให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม

อายรีมูฟเวอร์สำหรับทำความสะอาดขนตาโดยเฉพาะ 

ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดบริเวณขนตา และโคนขนตา มีลักษณะเป็นแปรงในหลอดคล้ายกับมาสคาร่า วิธีใช้คือนำแปรงที่มีน้ำยาปัดบริเวณขนตาให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วนำสำลีเช็ดออกเบาๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานมาสคาร่าเป็นประจำ โดยเฉพาะมาสคาร่าแบบกันน้ำที่ทำความสะอาดได้ยาก แต่ข้อเสียคือเมื่อใช้งานแล้วต้องเก็บแปรงเข้าที่เดิมซึ่งอาจมีเศษมาสคาร่า หรือสิ่งปนเปื้อนเข้าไปในหลอดน้ำยาได้

2. เลือกจากสภาพผิว

เนื่องจากคนเรามีสภาพผิวที่ต่างกัน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการใช้ Eye Remover จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว ดังนี้

ผู้ที่มีผิวแห้ง 

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้ผิวยิ่งแห้งตึงกว่าเดิมได้ หรืออาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาไม่ให้แห้งตึงหลังการใช้งาน

ผู้ที่มีผิวมัน-ผิวผสม 

สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบน้ำ และแบบน้ำมัน แต่ควรเช็ดให้สะอาดเพื่อกำจัดความมันของผลิตภัณฑ์แบบน้ำมันที่หลงเหลือบนใบหน้า

ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย 

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายผิว เช่นน้ำหอม แอลกอฮอล์ สี หรือพาราเบน

3. สูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่อระคายผิว

เพราะดวงตาเป็นบริเวณที่มีความบอบบาง และระคายผิวได้ง่าย จึงควรเลือก Eye Remover ที่มีความอ่อนโยน ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายผิว ไม่ทำให้แสบตา แต่ยังให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดี โดยอาจสังเกตได้จากหน้าผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดความระคายผิว 

Sensibio H2O eye อายแอนด์ลิปรีมูฟเวอร์ สูตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไมเซล่า วอเตอร์ แบบ Biphase มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา และริมฝีปากที่มีความติดทน รวมทั้งอนุภาคมลภาวะ PM 2.5 ได้อย่างล้ำลึก  ในขณะเดียวกันยังได้รับการทดสอบจากจักษุแพทย์แล้วว่ามีความปลอดภัย อ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับน้ำตา จึงเช็ดทำความสะอาดได้แม้ใส่คอนแทคเลนส์ ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม และแอลกอฮอล์ ไม่มีสารกันเสีย ไม่ผสมสีสังเคราะห์ ไม่มีน้ำหอม และพาราเบน ไม่ทิ้งคราบมันบนใบหน้า จึงให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวรู้สึกสบาย ช่วยปลอบประโลมผิว ไม่ทำเกิดการอุดตัน ใช้แล้วไม่แสบตา ไม่ขมปาก นอกจากนั้นยังช่วยฟื้นบำรุงผิวรอบดวงตา และขนตาให้แข็งแรงอีกด้วย

4. มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

การเช็ดถูดวงตาด้วยสำลีเป็นประจำ จะทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาเกิดความเหี่ยวย่น มีริ้วรอย และรอยตีนกาได้ จึงควรเลือกใช้อายรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังเช็ดทำความสะอาด เนื่องจากผิวที่แห้งกร้านมีโอกาสที่จะเกิดริ้วรอยเล็กๆ ได้ง่าย

5. มีส่วนผสมของน้ำมัน

เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติกันน้ำส่วนใหญ่ไม่สามารถทำความสะอาดได้หมดจดจากการใช้อายรีมูฟเวอร์ประเภทที่เป็นน้ำ ต้องใช้ประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อละลายเครื่องสำอางกันน้ำให้ทำความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้ผิวรอบดวงตาไม่แห้ง แต่อายรีมูฟเวอร์ประเภทนี้อาจก่อให้เกิดการอุดตันได้สำหรับบางคน หรือทำให้ตาพร่ามัวได้ หากน้ำยาเข้าตา จึงควรทดลองใช้งานก่อน

6. มีสารสกัดในการบำรุงผิว

เลือก Eye Remover ที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตา และขนตา นอกจากจะได้ผลลัพธ์เรื่องความสะอาดหมดจดแล้ว ยังได้รับการบำรุงที่มีประโยชน์ต่อผิวรอบดวงตาและขนตาด้วย 

7. ช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด

เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา และผิวรอบดวงตา ควรเลือก Eye Remover ที่มีประสิทธิภาพในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด ปราศจากสิ่งตกค้าง โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติกันน้ำ อายรีมูฟเวอร์ควรให้ประสิทธิภาพในการเช็ดทำความสะอาดโดยไม่เหลือคราบตกค้าง และใช้เวลาเช็ดถูไม่นาน เช่น Sensibio H2O eye สามารถเช็ดทำความสะอาดแม้เครื่องสำอางกันน้ำได้อย่างง่ายดายภายในเวลาไม่กี่วินาที เพียงใช้สำลีชุบน้ำยาอายรีมูฟเวอร์ให้ชุ่ม แล้วเช็ดบริเวณที่ต้องการออกเบาๆ ก็ทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตาได้อย่างหมดจด 

8. เลือกแบรนด์ที่เป็นเวชสำอาง

พิจารณาเลือกใช้ Eye Remover แบรนด์ที่เป็นเวชสำอาง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความอ่อนโยน มีค่า pH ที่เหมาะสมต่อผิว ไม่มีส่วนประกอบของสารที่ก่อให้เกิดความระคายผิวต่อผิว  เช่น ไม่มีสารกันเสีย ไม่ผสมสี น้ำหอม และพาราเบน เป็นต้น แบรนด์เวชสำอางนอกจากเน้นเรื่องผลลัพธ์การทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังให้ผลเรื่องการดูแลสุขภาพผิว บำรุงผิวรอยดวงตา และขนตาควบคู่กันไปด้วย 

การใช้ Eye Remover ในการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางมีข้อดี และประโยชน์ในหลายด้านดังนี้

  • สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางสำหรับดวงตาที่มีความติดทน และกันน้ำได้อย่างสะอาดหมดจด ไม่มีสิ่งตกค้าง
  • ช่วยลดโอกาสการระคายผิว อักเสบ แดง ของดวงตาที่อาจขึ้นได้จากการที่มีฝุ่นผง เศษเครื่องสำอางที่ตกค้างซึ่งอาจหลุดเข้าไปในดวงตา
  • เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานบริเวณที่มีความบอบบาง เช่น รอบดวงตา และริมฝีปากโดยเฉพาะ จึงมีความอ่อนโยน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดความระคายผิว เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย ใช้แล้วไม่แสบตา
  • Eye Remover บางยี่ห้อมีสารที่ช่วยบำรุงขนตา ทำให้ขนตาแข็งแรง ลดอัตราการหลุดร่วง  และยังช่วยให้ขนตางอนยาวขึ้นได้
  • ไม่ต้องเช็ดถูด้วยความรุนแรง ไม่ต้องเช็ดซ้ำหลายรอบ จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดริ้วรอยรอบดวงตาได้
  • มีการเพิ่มสารบำรุงผิว ซึ่งช่วยสร้างความชุ่มชื้น ลดแรงตึงผิว ทำให้รอบดวงตาชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง

สรุป

อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ตกแต่งดวงตา รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ให้สะอาดหมดจด ไม่เหลือสิ่งตกค้างบริเวณผิวรอบดวงตาและขนตา ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อดวงตา เช่น เกิดการอุดตัน การระคายผิวและอักเสบ ทั้งนี้อายรีมูฟเวอร์ยังช่วยเสริมสุขภาพผิวรอบดวงตา และขนตาให้ดีขึ้นได้ ด้วยส่วนผสมของสารบำรุงผิวรอบดวงตา และขนตาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการหลุดร่วงของขนตา ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น 

โดยการเลือก อายรีมูฟเวอร์  งานควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวบอบบาง แพ้ง่าย สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางรวมทั้งสิ่งสกปรกต่างๆ ได้อย่างหมดจด มีส่วนประกอบของน้ำมันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำให้ดียิ่งขึ้น ไม่มีส่วนประกอบของสารที่ก่อให้เกิดการระคายผิว เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ และพาราเบน เป็นต้น นอกจากนั้นเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพผิว ป้องกันการเกิดรอยเหี่ยวย่น และรอยตีนกา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื้นด้วย

BIODERMA Sensibio H2O eye อายรีมูฟเวอร์ เช็ดเมคอัพกันน้ำหมดจด พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก

คลีนเซอร์แบบไม่ต้องล้างออก

ผิวแพ้ง่าย

เทคโนโลยี ไบเฟส ไมเซล่า

Sensibio H2O eye

อายรีมูฟเวอร์ เช็ดเมคอัพกันน้ำหมดจด พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก สูตรอ่อนโยน ปลอบประโลมผิว เสริมปราการผิวแข็งแรง

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น