คำแนะนำประจำวัน
Eye Remover ก้าวแรกสู่การดูแลผิวรอบดวงตา
ทำความรู้จักกับ Eye Remover ตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวรอบดวงตา ก้าวแรกสู่การดูแลผิวรอบดวงตาที่ควรให้ความสำคัญเพื่อผิวรอบดวงตาที่สดใสสุขภาพดี
คำแนะนำประจำวัน
ทำความรู้จักกับ Eye Remover ตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวรอบดวงตา ก้าวแรกสู่การดูแลผิวรอบดวงตาที่ควรให้ความสำคัญเพื่อผิวรอบดวงตาที่สดใสสุขภาพดี
หลายๆ คนที่ชอบแต่งหน้านั้นก็จะมีการทาเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ คอนซีลเลอร์ มาสคาร่า หรืออายไลน์เนอร์ และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเครื่องสำอางที่มีความติดทน และป้องกันน้ำ ทำให้เวลาที่ทำความสะอาดนั้นจะต้องทำการเช็ดถูหลายครั้ง ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะเช็ดในบริเวณดังกล่าวแบบหนักมือ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตา หรือริ้วรอยรอบดวงตาง่ายขึ้น เพราะว่าผิวบริเวณรอบดวงตา เป็นพื้นที่ผิวที่มีความบอบบาง และอ่อนแอมากที่สุดในบริเวณผิวบนใบหน้า ดังนั้น ทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวรอบดวงตามากขึ้น ด้วยการเริ่มใช้ Eye Remover ตัวช่วยเสริมในการทำความสะอาดที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่าย และหมดจดมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Eye Remover ว่าคืออะไร จำเป็นต้องใช้หรือไม่ และควรเลือกแบบไหน พร้อมแนะนำวิธีการใช้อายรีมูฟเวอร์ เช็ดรอบดวงตาให้สะอาดหมดจด
สำหรับผิวบริเวณรอบดวงตา ถือว่าเป็นบริเวณผิวบนใบหน้าที่มีความบอบบาง และอ่อนแอมากที่สุด โดยในแต่ละวันนั้นเราใช้ดวงตาเกือบ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรศัพท์ อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้สายตา ทำให้ดวงตาเกิดความอ่อนล้า และทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาสูญเสียความชุ่มชื้น จนส่งผลให้ผิวบริเวณรอบดวงตานั้นร่วงโรยได้เร็วกว่าผิวบริเวณอื่นๆ เช่น เกิดริ้วรอยรอบดวงตา เกิดริ้วรอยใต้ตา ผิวหมองคล้ำ หย่อนคล้อย หรือแห้งกร้าน จนกลายเป็นว่าภาพรวมของใบหน้าเรานั้นดูแก่กว่าวัย หรือโทรมกว่าปกติ ดังนั้น ทุกคนจึงควรหันมาใส่ใจกับการดูแลผิวรอบดวงตากันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทา Eye Cream การมาส์กใต้ตา หรือการประคบเย็นบริเวณดวงตาบ่อยๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องแต่งหน้า และต้องทาเครื่องสำอางในบริเวณดวงตาทุกวัน ที่ควรเริ่มดูแลผิวรอบดวงตาด้วยการใช้ Eye Remover เพื่อช่วยถนอมผิวรอบดวงตาไม่ให้ถูกเสียดสีอย่างรุนแรงจากการเช็ดเครื่องสำอาง ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้าง ที่อาจเป็นต้นตอของการเกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้
Eye Remover (อายรีมูฟเวอร์) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดรอบดวงตา โดย Eye Remover นั้นจะมีส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ เพราะว่าผิวรอบดวงตาของเรานั้นมีความบอบบางกว่าผิวส่วนอื่นๆ ซึ่งอายรีมูฟเวอร์ กับคลีนซิ่ง ต่างกันยังไง คำตอบ คือ เนื้อสัมผัสและส่วนประกอบที่เหมาะสมกับสภาพของผิว โดยอายรีมูฟเวอร์ จะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยนสูง เพราะผิวรอบดวงตาของทุกคนนั้นมีความบอบบาง แต่จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ค่อนข้างล้ำลึก เพราะส่วนใหญ่เครื่องสำอางที่ใช้บริเวณรอบดวงตานั้นจะเป็นแบบกันน้ำ แต่ในส่วนของคลีนซิ่งนั้นจะมีให้เลือกหลากหลายเนื้อสัมผัส เช่น คลีนซิ่งแบบน้ำ คลีนซิ่งแบบออยล์ หรือคลีนซิ่งบาล์ม ซึ่งแต่ละเนื้อสัมผัสนั้นก็จะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน เพราะว่าสภาพผิวหน้าของแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง หรือผิวผสมนั่นเอง ดังนั้น ถ้าหากผู้ที่แต่งหน้าไม่ใช้ Eye Remover โดยเฉพาะ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิวรอบดวงตาต่างๆ ตามมาได้ เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหางตา ผิวใต้ตาหมองคล้ำ หรือผิวบริเวณดวงตาหย่อนคล้อย เป็นต้น
ถึงแม้ว่า Eye Remover นั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดรอบดวงตาที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ แต่ก่อนที่จะเลือกใช้อายรีมูฟเวอร์นั้นก็ควรคำนึงถึงคุณสมบัติเสียก่อน โดยคุณสมบัติของอายรีมูฟเวอร์ที่ควรเลือกใช้ มีดังนี้
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา Eye Remover ที่ดี และไม่รู้ว่าจะใช้ Eye Remover ยี่ห้อไหนดี “Sensibio H2O Eye” เป็นอายรีมูฟเวอร์จากแบรนด์ Bioderma ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานจักษุแพทย์ สามารถใช้ทำความสะอาดได้แม้ใส่คอนแทคเลนส์ โดยมีสิทธิบัตร ไบเฟส ไมเซล่า วอเตอร์ ที่ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำให้ได้อย่างง่ายดาย เช็ดเครื่องสำอางออกง่าย ไม่ต้องถูแรง ให้เสี่ยงเกิดริ้วรอย ไม่เหลือคราบ ไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง มาพร้อมกับสารบำรุงโปรวิตามินบี 5 ที่ช่วยถนอมผิว เสริมปราการผิว และคืนความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงมี FOS และสิทธิบัตร DAF ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้รู้สึกสบายผิว และปรับผิวให้ต้านทานได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับวิธีการใช้งาน Eye Remover ที่เช็ดรอบดวงตาให้สะอาดหมดจดนั้นมีเพียงแค่ 3 ขั้นตอน ได้แก่
โดยเคล็ดลับที่จะช่วยทำความสะอาดบริเวณผิวรอบดวงตาให้อ่อนโยนมากขึ้น นั่นก็คือ การแปะแผ่นสำลีที่มีอายรีมูฟเวอร์ชุ่มๆ ไว้บนผิวที่ต้องการความสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วินาที เพื่อให้เครื่องสำอางละลาย และเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
การใช้ Eye Remover ในการเช็ดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตานั้นถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ผู้แต่งหน้าเป็นประจำควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าผิวรอบดวงตาเป็นผิวที่มีความบอบบางกว่าผิวส่วนอื่นๆ ดังนั้น การใช้อายรีมูฟเวอร์สามารถช่วยทำความสะอาดผิวให้หมดจดมากขึ้น ช่วยถนอมผิวรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี และช่วยบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาให้ดูชุ่มชื้นอยู่เสมออีกด้วย