ผิวหน้าแห้ง ขาดน้ำ เกิดจากอะไร ดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

ผิวหน้าแห้งขาดน้ำ ผิวหน้าแห้งกร้าน รวมถึงผิวหมองคล้ำไม่สดใส เรียกได้ว่าเป็นปัญหาผิวกวนใจที่พบได้บ่อยไม่น้อยไปกว่าปัญหาสิวบนใบหน้า ซึ่งผิวหน้าแห้งขาดน้ำนั้นจะต่างจากผิวแห้งธรรมดา คือ สามารถฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นและบอกลาปัญหาผิวแห้งขาดน้ำได้หากดูแลผิวอย่างถูกวิธี โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการใช้ “คลีนซิ่งเช็ดหน้า” ก่อนการบำรุงผิวแห้งขาดน้ำด้วยการทาครีมบำรุงผิวหน้า ดังนั้นมาเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่าผิวหน้าแห้งขาดน้ำเกิดจากอะไรและจะมีวิธีฟื้นบำรุงผิวได้อย่างไรบ้าง

ผิวหน้าแห้งขาดน้ำ เกิดจากอะไร

ผิวหน้าแห้งขาดน้ำ คือ สภาวะผิวขาดความชุ่มชื้นหรือมีน้ำในผิวปริมาณน้อยกว่าปกติ ซึ่งหลายคนอาจเกิดภาวะผิวหน้าแห้งขาดน้ำได้เป็นครั้งคราวตามสภาวะแวดล้อมและการดูแลสุขภาพผิวในช่วงเวลานั้น ๆ ที่อาจทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นที่ไม่เพียงพอ โดยผิวหน้าแห้งขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้จากการผิวเสียสมดุล 2 ลักษณะ ได้แก่

  1. ผิวแห้งขาดน้ำ

ปัญหาหลักที่ทำให้หน้าแห้งและผิวหน้าแห้งกร้านดูหมองคล้ำ ไม่สดใส เกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวน้อยกว่าปกติ มักพบได้บ่อยเมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งและหนาวเย็น หรือการใช้น้ำอุ่นจัดล้างหน้าเป็นประจำจะทำให้ผิวหน้าแห้งมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงทำให้ผิวหน้าแห้ง ลอกเป็นขุยๆ ผิวแพ้ง่ายระคาย และเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่าย

  2. ผิวมันขาดน้ำ

หลายคนอาจมองข้ามปัญหาผิวหน้ามันที่ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกร้านและขาดน้ำได้ เนื่องจากผิวหน้ามันง่ายจะมีการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวมากกว่าผิวประเภทอื่นอย่างผิวธรรมดาหรือผิวผสมโดยเฉพาะบริเวณ T-Zone ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหน้าแห้งขาดความชุ่มชื้นจึงกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวเพื่อชดเชยและป้องกันการสูญเสียน้ำในผิวออกไปแต่ไม่ได้เป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว จึงทำให้ผิวเสียสมดุลและกลายเป็นปัญหาผิวมันขาดน้ำได้ในที่สุด รวมถึงยังก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ ผิวหน้าหมองคล้ำ ฯลฯ โดยมักเกิดขึ้นได้จากการใช้โฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเกินไป การไม่ทาครีมบำรุงผิวหน้า หรือขจัดความมันบนใบหน้าที่ไม่ถูกวิธี เป็นต้น

5 วิธีดูแลผิวหน้าแห้งขาดน้ำให้ชุ่มชื้นขึ้น

การฟื้นบำรุงผิวแห้งขาดน้ำรวมไปถึงผิวขาดน้ำจากการที่ผิวเสียสมดุลนั้นจะต้องดูแลควบคู่กันไปทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ดังนี้

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำเป็นปัจจัยแรกที่จะช่วยให้ผิวหน้าแห้งขาดน้ำกลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกายและผิวพรรณ ซึ่งการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วต่อวันจะช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ และการไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และดูสุขภาพดีจากภายใน

  2. การรับประทานอาหารที่มี Omega 3

การรับประทานอาหารที่มี Omega 3 เช่น น้ำมันปลา ปลาทะเลน้ำลึก ถั่วเหลือง ฯลฯนอกจากจะช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บของเราให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผิวของเราอีกด้วย โดย Omega 3 นั้นมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแห้งกร้านและช่วยให้ผิวแห้ง ผิวแดง และผิวแพ้ง่ายที่ระคายลดน้อยลงได้อีกด้วย

  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะกับผิวหน้าแห้งขาดน้ำ

การทำความสะอาดผิวถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลผิวหน้าแห้งขาดน้ำให้ชุ่มชื้นขึ้น เนื่องจากขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าจะทำให้ความชุ่มชื้นและน้ำมันธรรมชาติบนผิวถูกชำระล้างออกไปพร้อมสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนผิวหน้า ดังนั้นจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ทำความสะอาดผิวได้หมดจดแต่ยังคงความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าได้ 

อ่านต่อ : คลีนซิ่ง คืออะไร? และมีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรบ้าง

หากใครที่ยังไม่รู้ว่าผิวหน้าแห้ง ใช้อะไรดี? การทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่เหมาะสำหรับผิวแห้งขาดน้ำโดยเฉพาะจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและไม่แห้งตึงหลังใช้อย่าง คลีนซิ่ง Bioderma Hydrabio H2O

คลีนซิ่ง Bioderma Hydrabio H2O ผิวหน้าแห้งขาดน้ำและผิวแพ้ง่าย ผสานเทคโนโลยีไมเซล่า วอเตอร์ที่มีส่วนผสมของ Glycerin ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมด้วย Xylitol และสารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล (Apple Seed Extract) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ยาวนาน พร้อมลดการระเหยของน้ำออกจากผิวด้วย Niacinamide และ DAF^TM PATENTED COMPLEX สิทธิบัตรเฉพาะของคลีนซิ่ง Bioderma สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ไม่ทำให้ผิวระคาย และเสริมปราการผิวให้แข็งแรง

  4. บำรุงผิวแห้งขาดน้ำด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์

หลังจากเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งและล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิวหน้าแห้งขาดน้ำแล้ว เพื่อฟื้นบำรุงให้ผิวแห้งกร้านกลับมาเนียนนุ่มยิ่งขึ้นควรทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิว เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและปลอบประโลมผิวแห้งขาดน้ำที่มักเกิดการระคายให้รู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น 

  อ่านต่อ : เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว ตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้ปราการผิว

  5. การทำหัตถการเพื่อฟื้นบำรุงผิวแห้งขาดน้ำ

สำหรับใครที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวหน้าแห้งขาดน้ำอย่างเร่งด่วน สามารถเข้าประเมินสภาพผิวหน้ากับแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อทำหัตถการในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเหมาะสม เช่น การดริปวิตามินเข้าผิวหนังโดยตรง การทำเมโสหน้า การฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีและยาวนานขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ที่น่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจทำหัตถการทุกครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี 

ปัญหาผิวหน้าแห้งขาดน้ำ ผิวหน้าแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ล้วนเกิดขึ้นได้จากการที่ผิวเสียสมดุลรวมถึงการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม หากใครที่ผิวหน้าแห้ง ใช้อะไรดีให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นสามารถเลือกใช้คลีนซิ่ง Bioderma H2O ที่เหมาะสำหรับผิวแห้งขาดน้ำโดยเฉพาะ โดยเช็ดหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น จากนั้นจึงตามด้วยขั้นตอนการบำรุงผิวโดยเน้นไปที่การเติมความชุ่มชื้นอย่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอและทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวหน้าแห้งขาดน้ำมีความชุ่มชื้นแลดูสุขภาพดี แถมยังทำให้แต่งหน้าแล้วสวยติดทนนานตลอดทั้งวันอีกด้วย