เข้าใจผิวตนเอง
สัญญาณเตือนผิวแพ้ง่ายมีอะไรบ้าง มีวิธีฟื้นบำรุงอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
รู้จักสัญญาณเตือนของผิวแพ้ง่าย เกิดจากอะไร หากผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ผิวแห้งกร้านและไวต่อสภาพแวดล้อมจะมีวิธีฟื้นบำรุงผิวอย่างไร มาดูคำตอบได้ในบทความนี้
เข้าใจผิวตนเอง
รู้จักสัญญาณเตือนของผิวแพ้ง่าย เกิดจากอะไร หากผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ผิวแห้งกร้านและไวต่อสภาพแวดล้อมจะมีวิธีฟื้นบำรุงผิวอย่างไร มาดูคำตอบได้ในบทความนี้
“ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง” ปัญหาผิวที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกระคายผิว หรือข้อจำกัดในการซื้อสกินแคร์และเครื่องสำอางเนื่องจากกลัวว่าจะมีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่ผิวแพ้ส่วนผสมเฉพาะในผลิตภัณฑ์นั้นต่างกับการมีผิวแพ้ง่าย การเรียนรู้วิธีสังเกตสภาพผิวตัวเองว่าเป็นผิวแพ้ง่ายหรือไม่ จะช่วยให้รู้ว่าผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ใช้ ครีมอะไรดี รวมถึงสามารถหาวิธีบำรุงผิวให้แข็งแรงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
สาวๆ ที่กำลังพบปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ผิวแดง รวมถึงมีสิวผดขึ้นตามบริเวณใบหน้า ซึ่งปัญหาผิวแพ้ง่ายไม่ใช่แค่เฉพาะสาวๆ เท่านั้น แต่ปัญหาผิวแพ้ง่ายสามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่ายนั้นเกิดจาก เนื่องจากผิวหนังขาดความสมดุล และเกราะป้องกันผิวถูกทำลายจากหลายปัจจัย ทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ง่ายตามมาในที่สุด ซึ่ง โดยสามารถสังเกตอาการผิวแพ้ง่ายได้ ดังนี้
1. สังเกตเห็นผิวแดง เป็นผื่น
ผิวแพ้ง่ายมักมีผิวแดงร่วมด้วย แม้จะถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกแม้เพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น การล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าปกติ การที่ผิวเผชิญลมแรง หรือการถูใบหน้าอย่างรุนแรง ล้วนสามารถทำให้เกิดเป็นรอยบริเวณผิวได้ง่าย เนื่องจากผิวบอบบางและขาดความสมดุล
2. ผิวแห้งเป็นขุยและหยาบกร้าน ไม่ชุ่มชื้น
ผิวแห้งกร้านจะมีจุดสังเกตที่ค่อนข้างชัด ซึ่งมักมีอาการผิวลอกเป็นขุย ผิวแห้งกร้านและไม่ชุ่มชื้น ที่อาจเกิดจากการที่ผิวหนังไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้เท่าที่ควร รวมถึงมีการผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวในปริมาณที่น้อยมากกว่าปกติ สำหรับบางคนอาจจะมีอาการผิวแห้งหนัก ผิวขาดน้ำ เมื่อแต่งหน้าหรือลงเมคอัพมักทำให้เครื่องสำอางไม่ติดหน้า ไม่ติดทน ใช้แล้วหลุดออกระหว่างวันได้ง่าย
3.ผิวแพ้ง่าย ระคายแสบตึงผิว และผิวไหม้แดด
โดยทั่วไปเมื่อผิวโดนแสงแดดแล้วอาจรู้สึกแสบ ร้อน แต่อาการเหล่านั้นมักหายไปหากได้หลบแดดหรือได้ประคบเย็นเพื่อบรรเทาความร้อนบนผิวหนัง แต่สำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง อาจมีอาการระคายผิวมากกว่าปกติ เช่น รู้สึกแสบ ตึงผิว หรือผิวไหม้แดดร่วมด้วย ทั้งนี้หากอาการไม่รุนแรงสามารถรักษาได้ด้วยยาทา และการใช้ครีมทาผิวหรือเซรั่ม เพื่อปลอบประโลมผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะในแต่ละวัน
4. ผิวแพ้ง่าย เป็นสิว สิวเห่อง่าย บนผิวหน้า
ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวสามารถสังเกตได้จากลักษณะการเกิดสิว ถ้าหากสิวเยอะ เห่อง่าย ลุกลามแดงบนผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่ปกติจะไม่มีสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวไม่มีหัว หรือ สิวหัวช้าง อาจหมายถึงผิวกำลังแสดงอาการแพ้ปัจจัยภายนอกบางอย่างได้ เช่น แพ้แดด แพ้อากาศ แพ้อาหารที่รับประทานเข้าไป ในส่วนนี้จำเป็นต้องคอยสังเกตว่าพฤติกรรมประจำวัน มีอะไรที่ผิดแปลกจากเดิมหรือไม่ และสำหรับผิวที่มีผิวมันจะมีโอกาสเกิดสิวง่ายกว่าผิวแห้ง
สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายอาจจะสงสัยว่าสาเหตุของผิวแพ้ง่าย เกิดจากอะไรบ้าง? ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวแดงง่ายบอบบาง และอาการระคายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่าเป็นสิ่งกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคือง ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของผิวแพ้ง่าย มีดังนี้
1. ระบบปกป้องผิวตามธรรมชาติอ่อนแอ
ผิวชั้นนอกจะมีปราการสำหรับกักเก็บความชุ่มชื้น ไม่ให้ผิวแห้งกร้าน และปกป้องไม่ให้สิ่งแปลกปลอมภายนอกเข้ามาทำร้ายผิวจนเกิดการระคายผิว หากปราการผิวดังกล่าวอ่อนแอจะส่งผลให้ผิวแดงง่าย รู้สึกระคายผิว หรือเป็นผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง เป็นต้น
2. การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และความวิตกกังวล
การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่ อาจทำให้ผิวไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ผิวแห้งกร้าน หน้าหมองคล้ำ ไม่อิ่มน้ำ และผิวแพ้ง่าย เป็นสิวทั้งนี้ยังมีงานวิจัยที่กล่าวผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอสามารถทำให้เกิดสิวได้มากกว่า ผู้ที่นอนพักผ่อนเพียงพอ ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6 - 7 ชั่วโมงต่อวัน
3. ผิวแพ้ง่ายจากพันธุกรรมและฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกายส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานหลายอย่าง หนึ่งในผลกระทบอาจเป็นสภาพผิวโดยรวมที่มีความแห้งกร้านกว่าปกติ นอกจากฮอร์โมนแล้วพันธุกรรมยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีผิวแห้ง ระคายง่าย โดยเฉพาะหากคนในครอบครัวมีประวัติผิวแพ้ง่ายจะส่งผลให้คุณมีโอกาสมีปัญหาผิวแพ้ง่ายได้เช่นเดียวกัน
4. สภาพอากาศ
สภาพผิวสามารถแปรเปลี่ยนตามสภาพอากาศที่พบเจอในแต่ละวัน เช่น หากอยู่ในฤดูหนาวที่มีความชื้นในอากาศน้อย จะส่งผลผิวก็จะแห้งมากเป็นพิเศษ การที่ผิวแห้งนั้นหมายความว่าผิวของคุณขาดความสมดุลส่งผลทำให้ผิวอ่อนแอ เมื่อผิวอ่อนแอจะสามารถเกิดผิวแพ้ง่ายมากกว่าปกติ ซึ่งในช่วงอากาศหนาว แนะนำให้บำรุงครีมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มอบความชุ่มชื้น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
5. มลภาวะเป็นพิษต่าง ๆ
ฝุ่นในอากาศ PM 2.5 สิ่งสกปรก และมลภาวะต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถก่อให้เกิดการระคายผิว อาการผิวแดง รู้สึกแสบ หรือผื่นขึ้นได้ การสวมแมสก์ทำให้เกิดการเสียดสี ซึ่งอาจจะทำให้ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวได้ง่าย บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะแก้ม จมูก และคาง
6. การใช้สกินแคร์ไม่เหมาะกับผิว
การใช้สกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวอาจก่อให้ผิวระคายได้ เช่น หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารตึงผิวกับผิวที่มีความตึงอยู่แล้ว อาจเป็นการทำให้ผิวระคายเคืองมากกว่าบำรุงผิว ดังนั้นการเลือกครีมบำรุงผิวที่เข้ากับผิวได้จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลผิว แต่หากยังไม่รู้ว่าผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ใช้ ครีมอะไรดี แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ อย่าง Bioderma ที่พัฒนาสูตรมาสำหรับผิวแพ้ง่ายและบอบบางโดยเฉพาะ อย่าง Bioderma Sensibio Defensive ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย ช่วยเสริมเกราะปราการผิวให้ผิวแข็งแรงและฟื้นบำรุงผิวแพ้ระคายง่ายให้ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะที่อาจทำร้ายผิว ด้วยส่วนผสมของ Carnonsine และ Vitamin E ที่ช่วยปกป้องผิวแพ้แสงแดด มลภาวะและสารเคมีได้ถึง 75% พร้อมเสริมปราการผิว ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน และปลอบประโลมผิวระคายให้รู้สึกสบายขึ้นด้วยส่วนผสมของ Red Sage Polyphenols พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
7. การรักษาทางการแพทย์บางประเภท
การรักษาทางการแพทย์อย่างการเลเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ฝ้าหรือเลเซอร์สิว ส่งผลให้ผิวมีความบอบบางและไวต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้นได้ นอกจากนี้การรับประทานยาบางชนิด อาจส่งผลให้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เกิดการระคายเคือง และไวต่อแสงมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลจากการรักษาทางการแพทย์บางประเภท ซึ่งควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะก่อนทำการรักษา
ผลิตภัณฑ์บางตัว เช่น ครีมกันแดด เจลล้างหน้า และเครื่องสำอางอาจใส่สารที่ก่อให้เกิดการระคายสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ก่อนการซื้อสินค้าต่าง ๆ ควรดูส่วนประกอบก่อนว่ามีส่วนผสมที่ผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงหรือไม่
น้ำหอม
น้ำหอมมักเป็นส่วนประกอบของสกินแคร์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอม ชวนให้น่าใช้ แต่มีหลายคนที่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมส่วนใหญ่มักใช้แอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม หรือการใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อเป็นกลิ่น อาจทำให้ผู้ใช้บางคนเช่น คนผิวแห้ง คนผิวแพ้ง่าย เป็นสิว เกิดอาการระคายผิวได้ง่าย
พาราเบน
พาราเบนเป็นสารกันบูดที่มักพบได้ทั่วไป แต่การใช้พาราเบนในปริมาณที่มากอาจทำให้ร่างกายเกิดการแพ้และระคายผิวได้ เนื่องจากพาราเบนส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนโดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงพาราเบนเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าพาราเบนชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันจะอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผิว ก็ควรสังเกตผิวว่ามีการตอบสนองต่อพาราเบนอย่างไร หากผิวแพ้ง่าย ผิวแดง มีผื่นขึ้น ควรหยุดใช้ทันที
เม็ดสครับ
สครับชนิดเม็ดมักทำมาจากส่วนผสมธรรมชาติ อย่างน้ำตาล กากกาแฟ แต่เม็ดสครับเหล่านี้ก็มีขนาดที่ใหญ่และมักมีเนื้อที่ค่อนข้างหยาบเกินไปสำหรับผิว อาจบาดผิวหรือทำให้ผิวแดง สิวเห่อ มีผื่นคัน เป็นปฏิกิริยาตอบสนองเนื่องจากเม็ดสครับมีความระคายผิว สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ควรพิจารณาการใช้กรด AHA BHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวแทนการใช้เม็ดสครับได้
สำหรับผู้ที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย การเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์อาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากมีความกลัวแพ้ กลัวผิวถูกทำร้าย ดังนั้นการทดสอบผิวแพ้ง่ายเพื่อรู้ว่าสารใดควรหลีกเลี่ยง และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆได้อย่างสบายใจ
1. วิธีสะกิด
เป็นการทดสอบที่ตรวจในคราวเดียวได้มากประมาณ 40 ชนิด วิธีการทดสอบคือนำสารที่อาจเป็นสาเหตุอาการผิวแพ้ง่ายมาหยดบนผิวช่วงท้องแขนหรือช่วงหลัง และใช้เข็มสะกิดผิวบริเวณที่หยดสารเพื่อดูการตอบสนองของผิวประมาณ 15 นาที หากมีตุ่มแดง ผื่นแดง แปลว่ามีอาการแพ้ต่อสารนั้น ๆ
2. วิธีปิดสารทดสอบบนผิวหนัง (Patch test)
มักใช้กับภูมิแพ้ผิวหนัง โดยมีแผ่นที่ป้ายสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้มาแปะผิวช่วงท้องแขนหรือแผ่นหลัง และดูการตอบสนองของผิวในเวลา 48 ชั่วโมงโดยดูแลไม่ให้ผิวบริเวณดังกล่าวโดนเหงื่อหรือน้ำ หากมีผื่นแดงแปลว่ามีอาการแพ้ต่อสารนั้น ๆ
3. การตัดชิ้นเนื้อจากผิวหนังส่งตรวจ
เป็นวิธีที่ใช้ตรวจสอบเนื้อเยื่อผิวหนังที่มีความผิดปกติ เพื่อนำไปส่องกล้องจุลทรรศ์หาสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว
การดูแลรักษาผิวให้แข็งแรงเป็นการรักษาปัญหาผิวแพ้ง่ายที่ต้นเหตุ การดูแลผิวอยู่เสมอจะช่วยบำรุงผิวให้มีความแข็งแรง ฟื้นฟูผิวหน้าแพ้ง่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ได้
1. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ในผิว ส่วนใหญ่มักใช้คลีนซิ่ง เจลล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้า เพื่อช่วยลดการสะสมสิ่งตกค้างในรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ามีความสะอาดพร้อมรับการบำรุง การทำความสะอาดผิวหน้านอกจากจะช่วยให้ผิวมีความสมดุลแล้ว ยังส่วนลดโอกาสการเกิดสิว เนื่องจากสิ่งสกปรกถูกชำระล้างออกไปหมดแล้ว ไม่สามารถเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เมื่อร่างกายพักผ่อนจะเกิดกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ และผิวที่ได้รับการพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอจะมีความอิ่มฟู ไม่หมองคล้ำ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ผิวดูอิ่มน้ำ โดยปกติแล้วควรนอนวันละ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน
3. การหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าแรง ๆ
ไม่ว่าจะใช้กระดาษชำระหรือผ้าแบบนุ่มก็ควรหลีกเลี่ยงลักษณะการถูกับใบหน้า ให้เน้นการซับผิวหน้าเบาๆ ไม่ถูไปถูมาเพราะอาจทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นได้ในระยะยาว นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ไม่ควรถูหรือขัดหน้าแรงๆ เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้อาการแพ้มีความรุนแรงมากกว่าเดิม แนะนำให้ใช้วิธีการซับเบาๆ แทนจะดีมากกว่า
4. รักษาความชุ่มชื้นของผิว
วิธีที่ง่ายมากที่สุดที่สามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว คือ การทาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า และ เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทุกวันเวลาเช้าและเย็น หรือผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ต้องการความชุ่มชื้นระหว่างวันสามารถพกสเปรย์น้ำแร่ไว้ฉีดระหว่างวัน เพื่อช่วยรักษาน้ำในผิวได้ โดยเฉพาะผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ที่ต้องการความชุ่มชื้นเพื่อฟื้นบำรุงปราการผิวให้มีความแข็งแรง ควรบำรุงผิวด้วยเซรั่มก่อนการลงครีมบำรุงผิวหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั้งตอนเช้าและเย็นหลังล้างหน้า เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเข้มข้น โดยใช้เซรั่มสำหรับผิวแพ้ง่ายอย่าง Bioderma Sensibio Defensive Serum
เซรั่มบำรุงผิวและปลอบประโลมผิวแพ้ระคาย พร้อมเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เนื้อครีมอีมัลชั่น (Oil-in-water) เหลวสีขาว ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ผิวอ่อนนุ่มและรู้สึกสบายผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมงด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid, Carnonsine และ Vitamin E ที่ช่วยปรับผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส พร้อมปกป้องผิวจากสิ่งกระตุ้นการแพ้จากภายนอกและปลอบประโลมผิวระคายง่ายให้สบายขึ้น
5. หลีกเลี่ยงความเครียดและความวิตกกังวล
นอกจากความเครียดความกังวลจะทำให้คิ้วขมวดและเกิดเป็นรอยย่นในอนาคตได้ เมื่ออายุมาขึ้นแล้ว ความเครียดยังส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวมีความเครียด แห้ง หมองคล้ำ ระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งวิธีขจัดความเครียดมีหลายวิธี ได้แก่ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ชอบ ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น
6. หลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด
สภาพแวดล้อม และอุณหภูมิส่งผลกับผิวค่อนข้างมาก หากผิวอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจจะทำให้เกิดปัญหารูขุมขนอุดตัน และเกิดเป็นปัญหาสิวตามมาได้ หรือหากอยู่ในสภาพอาการที่หนาวจัดอาจส่งผลให้ผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสภาพอากาศมีผลต่อสภาพผิว สามารถทำให้เกิดความระคายจากอากาศที่ผิดปกติ และไวต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้ ดังนั้นหากใครที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ แนะนำให้ใช้เซรั่มที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น อย่าง Bioderma Hydrabio Serum เซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไฮยารูลอน เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งที่ต้องการการบำรุง หรือผิวแพ้ง่ายที่ต้องระมัดระวังในการบำรุงเป็นพิเศษ ไปจนถึงผิวขาดน้ำที่ต้องเติมน้ำสู่ผิวอย่างสมดุล พร้อมเติมน้ำให้ผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำจากภายในสู่ภายนอกด้วยส่วนผสมของ กรดไฮยารูลอนหรือ Hyaluronic Acid ผสานกับ Glycerine และ Xylitol ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก พร้อมสารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล (Apple Seed Extract) ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ หากเลือกผิดอาจจะทำให้ระคายผิวมากกว่าเดิม จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจำเป็นต้องคำนึงถึง …
1.ทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด
ทดสอบอาการแพ้ทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง สามารถทดสอบการแพ้ได้ด้วยการลองใช้ผลิตภัณฑ์ในบริเวณที่ผิวมีความบอบบาง เช่น ข้อพับ หรือหลังหู เพื่อดูการตอบสนองของผิวว่ามีผื่นคัน แดง หรือเกิดสิวหรือไม่
2.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และส่วนผสมบางชนิดที่อาจทำให้ผิวแพ้ง่าย
หลีกเลี่ยงน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และส่วนผสมบางชนิดที่อาจทำให้แพ้ง่าย เนื่องจากผิวแต่ละบุคคลมีความไวต่อส่วนผสมบางชนิดไม่เท่ากัน และหลายผลิตภัณฑ์มีความแรงของสารแต่ละตัวที่ต่างกัน การทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อสังเกตถึงสารที่ร่างกายอาจแพ้ จะช่วยให้เลือกผลิตภัณฑ์และเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายขึ้น
3.ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผลัดเซลล์ผิว หากต้องการผลัดเซลล์ผิวควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย ที่มีสารผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยน
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อผลัดเซลล์ผิว หากต้องการผลัดเซลล์ผิวควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ อย่างกรด AHA BHA แม้จะเป็นกรดที่ใช้สำหรับผลัดเซลล์ผิวได้ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้และเป็นอันตรายต่อผิวได้สำหรับผู้ใช้บางคน การปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพผิวก่อนการผลัดเซลล์ผิวจึงเป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องผิวและดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กัน
ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบางอาจเป็นปัญหาผิวน่าหนักใจเพราะทำให้ผิวมีข้อจำกัดทางด้านการใช้เครื่องสำอางบางชนิด สกินแคร์บางประเภท หรือทำให้ต้องมีการดูแลผิวมากเป็นพิเศษ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะมาดูแลผิวแพ้ง่าย และสร้างความแข็งแรงให้กับผิวจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ