Salicylic Acid ตัวช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้หน้าดูกระจ่างใส ไกลสิว

Salicylic Acid (กรดซาลิไซลิก แอซิด) กรดอินทรีย์ที่มีประโยชน์หลากหลายประการ ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เป็นเวลานานหลายศตวรรษ สามารถพบเห็นกรดซาลิไซลิกได้บ่อยในส่วนผสมของเครื่องสำอาง และยา เนื่องจากเป็นหนึ่งในสารที่มีคุณสมบัติในการลดโอกาสการเกิดสิว ที่เป็นปัญหาผิวของหลายๆ คน แล้ว Salicylic Acid ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง ช่วยได้อย่างไร มีวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid อย่างไร ให้ไม่ระคายผิวไปดูกันได้ในบทความนี้! 

กรดซาลิไซลิก หรือ Salicylic Acid คือ Beta Hydroxy Acid (BHA) ชนิดหนึ่ง สามารถพบได้ในเปลือก และใบของต้นวิลโลว (Willow) นิยมนำมาใช้กันตั้งแต่ในอดีต เพื่อลดอาการปวด ลดอาการอักเสบ ลดไข้ และในปัจจุบัน มีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยลดโอกาสการเกิดสิว เนื่องจากช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน โดยเฉพาะสิวที่มีอาการไม่รุนแรงอย่าง สิวหัวดำ และสิวหัวขาว
 

คุณสมบัติของ Salicylic Acid 

Salicylic Acid พบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เพราะนอกจากคุณสมบัติที่สามารถช่วยลดโอกาสการเกิดสิวแล้ว ยังช่วยในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

• ช่วยในเรื่องการอุดตันในรูขุมขนลดลง
• สามารถลดการสะสมของฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้
• ลดโอกาสที่จะเกิดสิวอักเสบ
• ช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุด และทำให้รอยแผลเป็นแลดูจางลงได้
• มีส่วนช่วยในเรื่องของความกระจ่างใส
• ริ้วรอย รอยดำ รอยแดง ความหมองคล้ำ ฝ้า และกระ แลดูจางลง 
• มีส่วนช่วยในการลดอาการระคายผิว ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid ได้
• ใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เช่น โรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ รังแค โรคหูด และตาปลา เป็นต้น

Salicylic Acid มีคุณสมบัติหลายประการตามที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ดังนั้น กลุ่มคนที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก มีดังนี้

• Salicylic Acid ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่จะเหมาะเป็นพิเศษกับคนผิวมัน หรือผิวเป็นสิวง่าย เพราะจะช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหนัง
• ผู้ที่มีรูขุมขนอุดตัน สิวหัวดำ สิวหัวขาว
• ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ มีปัญหาฝ้า กระ และรอยแดง
• ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ผิวดูหยาบ เป็นหลุม เป็นบ่อ

Salicylic Acid ช่วยเรื่องสิวได้โดยการควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินในต่อมน้ำมัน และผลัดเซลล์ผิวเก่าชั้นนอกสุด เนื่องจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วมีโอกาสเข้าไปอุดตันตามรูขุมขนได้ เมื่อรวมกับน้ำมันส่วนเกินบนผิวจะเกิดการพัฒนาเป็นสิวหัวดำ และสิวหัวขาว อีกทั้งยังทำให้แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวมีจำนวนมากขึ้น จนเกิดเป็นสิวอักเสบในที่สุด ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักในการเกิดสิวซ้ำๆ ที่คอยรบกวนให้เกิดความไม่มั่นใจอยู่ไม่น้อย 

Sébium Serum เซรั่มสำหรับผู้มีปัญหาสิว มีริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง มีสารสำคัญหลัก คือ Salicylic Acid เนื้อเซรั่มมีคุณสมบัติช่วยลดโอกาสเกิดสิว รูขุมขนแลดูเล็กลง รอยสิวดูลดเลือน ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียน อ่อนโยนต่อผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง เนื้อเซรั่มสีใส บางเบา ซึมง่าย หลังใช้ให้ความรู้สึกเบาสบาย ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งตึง ผิวไม่เหนอะหนะ ไม่มันวาว รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ความมันบนผิวหน้าลดลง
 

วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid 

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid หรือกรดซาลิไซลิก มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นครีม เจล โลชั่น คลีนเซอร์ เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นๆ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการอ่านฉลากคำแนะนำที่แนบมากับผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้กับผิว แต่โดยทั่วไปแล้ว ถ้าต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิกแอซิด ให้เริ่มจากล้างหน้าตามปกติด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นตามด้วยการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิกแอซิด ในปริมาณที่แนะนำบนฉลาก ไม่ควรใช้มากจนเกินไป ระมัดระวังอย่าให้เข้าตา จมูก ปาก และบริเวณอื่นๆ ที่ผิวบอบบางมาก 

ตัวอย่างเช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเซรั่ม ให้ใช้ครั้งละ 2-3 หยดในตอนเช้า และตอนเย็น ทาให้ทั่วใบหน้า และลำคอ นวดเบาๆ ให้เนื้อเซรั่มซึมซับลงสู่ผิว จากนั้นอาจใช้ครีมบำรุงผิวประเภทมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทำเช่นนี้เป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ในการปลอบประโลมผิวจากการเป็นสิวง่าย ผิวมัน รูขุมขนกว้าง ให้แลดูเรียบเนียน และกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

เนื่องจาก Salicylic Acid มีคุณสมบัติเป็นกรดชนิดหนึ่ง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid เป็นส่วนประกอบในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม จึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการใช้งาน โดยมีข้อควรระวังก่อนใช้ ดังนี้

• ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิกเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดอาการระคายผิว ผิวแดง แห้ง ลอก แสบ และอักเสบได้ หากมีอาการนี้ ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วลดความถี่ หรือความเข้มข้นในการใช้ผลิตภัณฑ์
• ไม่ควรใช้กับบริเวณที่มีผิวหนังอักเสบ เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
• ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทาภายนอก ให้หลีกเลี่ยงการทาบริเวณผิวบอบบางมาก เช่น รอบดวงตา ปาก หลังแขน ข้อพับ และห้ามใช้กับเด็กทารก
• ไม่ใช้ทาในบริเวณที่มีแผลเปิดอยู่ ควรรักษาแผลให้หายดีก่อน
• ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานมากๆ หรือใช้ในปริมาณมากๆ ควรใช้อย่างพอเหมาะตามคำแนะนำบนฉลาก
• ระมัดระวังการใช้ในผู้ที่แพ้ Salicylic Acid
• หากใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยาใดๆ ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกแล้วเกิดอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น อาการคัน ผื่นขึ้น หายใจติดขัด ให้หยุดใช้ทันที แล้วให้รีบไปพบแพทย์ทันที
   

คนท้องสามารถใช้ Salicylic Acid ได้หรือไม่?

คนที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มี Salicylic Acid เป็นส่วนผสม ทั้งการใช้บริเวณผิวภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือเป็นยาทา เนื่องจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือยาทา จะสร้างความระคายผิว ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องใช้กรดซาลิไซลิกในทางใดทางหนึ่ง ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพื่อความปลอดภัยของทารก

สรุป

Salicylic Acid คือกรดเบต้าไฮดรอกซีชนิดหนึ่ง (BHA) ซึ่ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ลดการสะสมเชื้อแบคทีเรีย ควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว ช่วยในเรื่องการอุดตันในรูขุมขน ทั้งนี้ รอยแดง ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ ริ้วรอยต่างๆ จะแลดูจางลงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือลดโอกาสการเกิดสิวได้หลายชนิด โดยเฉพาะสิวหัวดำ และสิวหัวขาว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือผิวเป็นสิวง่าย 

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นครีม เจล โลชั่น คลีนเซอร์ เซรั่ม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นๆ ควรอ่านฉลากคำแนะนำการใช้อย่างละเอียด ทั้งปริมาณ และระยะเวลาที่ต้องทาก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ หลีกเลี่ยงการทาบริเวณผิวบอบบางมากๆ เช่น รอบดวงตา ปาก หลังแขน ข้อพับ หรือผิวเด็กทารก เพราะอาจเกิดอาการระคายผิว ทำให้ผิวแดง แห้ง ลอก แสบ อักเสบได้ หากใช้แล้วเกิดอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน ผื่นขึ้น หายใจติดขัด ให้หยุดใช้แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที สำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ หากมีความจำเป็นต้องใช้ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องได้