KEY TAKEAWAYS

  • เซรั่มลดโอกาสการเกิดรอยสิว มีโมเลกุลที่เล็กจึงช่วยซึมเข้าสู่ใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รอยสิวแลดูจางลง ช่วยบำรุงผิวมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
  • ส่วนผสมอย่าง Vitamin C, Hyaluronic Acid, Niacinamide, หรือ Antioxidant นับเป็นส่วนผสมสำคัญของเซรั่มลดโอกาสการเกิดรอยสิว
  • ผู้ที่มีปัญหาสิวควรเลือกใช้เซรั่มอย่าง  Sébium Serum ที่สามารถช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตันซ้ำซาก และสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้

 


ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทเซรั่มได้รับความนิยมมาก เพราะมีส่วนผสมที่มีความเข้มข้น จึงทำให้เนื้อเซรั่มซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วแม้จะใช้ได้ในปริมาณน้อย ทำให้การบำรุงมีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทอื่นๆ แล้วเซรั่มประเภทลดโอกาสการเกิดรอยสิวดีอย่างไร ใช้อย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว มาหาคำตอบกันได้เลยในบทความนี้ 

รอยสิวบนใบหน้าสามารถทำให้เสียความมั่นใจได้ ซึ่งรอยสิวส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบรอยดำ รอยแดง หรือรอยหลุมสิว ที่เกิดจากสิวอักเสบ หรือสิวอุดตัน เพราะเมื่อสิวหายแล้ว แต่ไม่ได้ทำการดูแลอย่างถูกวิธี ปัญหาที่ตามมาคือการเกิดรอยสิว โดยเฉพาะรอยแดงจากสิว ซึ่งเกิดจากการกระบวนการฟื้นฟูของผิวด้วยการขยายหลอดเลือดใต้ชั้นผิว และกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เพื่อที่จะซ่อมแซมส่วนของเนื้อเยื่อ และเพื่อลดการอักเสบ 

นอกจากนี้ยังมีรอยดำจากสิวที่เกิดจากการบีบสิว ทำให้ไปกระตุ้นกระบวนการผลิตเม็ดสี จึงทำให้เกิดรอยดำขึ้นได้ ทั้งนี้ยังมีรอยหลุมสิว ที่เกิดจากกระบวนการของร่างกายที่ทำการสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อขึ้นมาเพื่อรักษาแผลจากสิวอักเสบ แต่ไม่สามารถรักษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้เกิดรอยหลุมสิวขึ้นมาได้นั่นเอง

รอยสิวเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายๆ คนกลุ้มใจ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีวิธีลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้ ดังนี้

  • ทำความสะอาดหน้าให้สะอาด เช่น การทำความสะอาดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อที่จะลดโอกาสการเกิดการอุดตันภายในรูขุมขน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เมื่อใบหน้าสะอาดก็จะไม่เกิดการระคายผิว และลดโอกาสการเกิดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย
     
  • เลี่ยงไม่ให้หน้าโดนแดด เพราะแสง UV จะเร่งให้สิวแก่ตัวเร็วขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีมากขึ้นด้วย ทำให้เกิดเป็นรอยดำ หรือรอยแดงขึ้นได้ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องออกแดดจริงๆ ก็สามารถทาครีมกันแดด ใส่เสื้อกันแดด หรือใช้ร่มกันแสง UV ก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน
     
  • ไม่บีบ ไม่เกา หรือแคะสิว เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคาย และทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบขึ้นได้ จึงทำให้สิวหายช้า เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรแกะสิวหรือยุ่งกับสิว เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ
     
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะหากสุขภาพภายในดี สุขภาพภายนอกอย่างผิวหนังก็จะดีตามไปด้วย การทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของมัน ของทอด และทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ก็จะช่วยลดการอักเสบของสิวได้

เซรั่มที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิวมีความสำคัญมาก ดังนี้

  • เซรั่มมีโมเลกุลที่เล็กมาก จึงทำให้ซึมเข้าสู่ใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่นๆ ทำให้ใบหน้าสามารถฟื้นบำรุง และลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้ดี
     
  • เซรั่มไม่ได้มีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนรอยสิวเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงผิวอีกด้วย โดยมีส่วนช่วยในการฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น แลดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เซรั่มยังมีส่วนนผสมของวิตามินซี และสารสกัดจากสมุนไพร ที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย
     
  • เซรั่มช่วยทำให้รอยสิวแลดูจางลง เพราะเซรั่มมีความเข้มข้น ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี การฟื้นบำรุงใบหน้าจากรอยสิวจึงมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น
     
  • เซรั่มช่วยลดการผลิตน้ำมันบริเวณใบหน้า กระชับรูขุมขนให้ตื้นขึ้น เพราะหากใบหน้ามีรูขุมขนกว้างจะทำให้หน้ามันขึ้น โดยปัจจัยนี้ก็เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดสิวได้ด้วย จึงถือว่าเซรั่มช่วยป้องกันโอกาสการเกิดสิวได้ดีเลย

เซรั่มมีส่วนผสมที่สำคัญ ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้ ดังนี้
 

Vitamin C 

Vitamin C ส่วนผสมที่พบได้ในเซรั่มหลายๆ ยี่ห้อ เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ ทำให้หน้าใส ไกลสิว อีกทั้งยังช่วยป้องกันจากแสง UV และช่วยต่อต้านสารแอนตี้ออกซิแดนท์อีกด้วย
 

Hyaluronic Acid 

ส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ
  

Niacinamide หรือวิตามินบี 3 

ที่มีส่วนช่วยปรับสมดุลในการสร้างน้ำมันบริเวณผิวหน้า ช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี ทำให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย
 

Antioxidant 

สารประเภทนี้มีส่วนช่วยซ่อมแซมผิวที่แลดูแก่กว่าวัย และช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกายที่เกิดจากสาร Free Radicals ที่มักมากับการสัมผัสแสงแดด การทานของมัน ของทอด หรือปัญหาความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
 

Retinol 

ช่วยสร้างคอลลาเจน และฟื้นบำรุงให้ผิวหน้าห่างไกลจากริ้วรอย
 

AHA หรือกรดผลไม้ 

ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวใหม่แลดูกระจ่างใสขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ผิวแลดูหมองคล้ำ หรือคนที่มีรอยที่เกิดจากสิว
 

สาร Antioxidant อื่นๆ 

สาร Antioxidant เช่น Ferulic ที่ช่วยป้องกันรังสี UVB ฟื้นบำรุงผิวให้แลดูกระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

การเลือกเซรั่มที่เหมาะสมกับผิว จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีวิธีการเลือก ดังนี้
 

ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น  

Hydrabio Sérum หากมีผิวหน้าแห้ง ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนช่วยให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นและอิ่มน้ำมากขึ้นอย่าง Hydrabio Sérum โดยมีสารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ล ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวอย่างยั่งยืน ทันที และยาวนาน 24 ชั่วโมง ปรับให้ผิวเรียบเนียน แลดูกระจ่างใส อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม และอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย
 

ผิวหมองคล้ำ ผิวแพ้ง่าย 

Sensibio Defensive Serum หากมีปัญหาผิวหมองคล้ำ หน้าไม่สดใส ให้ Sensibio Defensive Serum เป็นตัวเลือก เพราะเป็นเซรั่มแอนตี้ออกซิแดนท์ที่จะช่วยให้ผิวแข็งแรงสู้กับมลภาวะต่างๆ ได้ดี ทำให้ผิวนุ่ม รู้สึกสบายผิวทันทีที่ใช้ พร้อมให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ปรับผิวหน้าให้แลดูกระจ่างใส ริ้วรอยแลดูลดเลือนลง เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้จะเป็นผิวบอบบาง แพ้ง่าย หรือระคายง่าย มีเนื้อสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
 

ผิวมีปัญหาสิว 

Sébium Serum หากมีปัญหาสิว ควรเลือกเซรั่มอย่าง Sébium Serum เพราะช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตันซ้ำซาก ทำให้รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยจางลง ผิวกระจ่างใสขึ้น อ่อนโยนต่อผิวหน้า พร้อมตัวช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวยาวนานถึง 8 ชั่วโมง

เพื่อประสิทธิภาพของการฟื้นบำรุงผิวหน้าให้ห่างไกลจากสิว จึงควรใช้เซรั่มอย่างถูกวิธี ดังนี้
 

ล้างหน้าให้สะอาด 

เพราะหากหน้ามีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ อาจเป็นการปิดกั้นไม่ให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ โดยควรทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการฟื้นบำรุงในขั้นต่อไป
 

ซับหน้าให้หมาด 

หลังล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ให้ซับหน้าพอหมาดๆ เพื่อที่จะได้คงความชุ่มชื้นและทำให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
 

หลังทาเซรั่ม เว้นช่วงก่อนทาครีมสักระยะหนึ่ง 

หลังลงเซรั่มเสร็จแล้ว หากต้องการใช้ครีมบำรุงหน้าอื่นๆ อีก ควรเว้นระยะเวลาก่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อที่เซรั่มจะได้ซึมเข้าผิวอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 

ศึกษาส่วนผสมของเซรั่มก่อนเลือกซื้อ 

ก่อนซื้อเซรั่มช่วยลดเลือนรอยสิวควรดูก่อนว่าเซรั่มนั้นมีส่วนผสมที่ให้คุณสมบัติแบบใด เหมาะกับผิวแบบไหน ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย จึงควรเลือกซื้อเซรั่มที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับผิวตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ การศึกษาส่วนผสมก่อนเลือกซื้อเซรั่มจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ

สรุป

เซรั่มที่ช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิวนั้นมีความสำคัญมาก เพราะมีเนื้อสัมผัสที่สามารถซึมเข้าสู่ใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงหน้ารูปแบบอื่น ทำให้เมื่อใช้เซรั่มจะทำให้ใบหน้าสามารถฟื้นบำรุง และลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้ นอกจากนี้ ยังช่วยบำรุงผิวอีกด้วย โดยเฉพาะการฟื้นบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ทำให้ผิวหน้าแลดูสุขภาพดีมากขึ้น โดยการเข้าใจสภาพผิวหน้าของตัวเองก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน เพราะผิวหน้าของแต่ละคนมีสภาพที่ต่างกัน 

การใช้ผลิตภัณฑ์เซรั่มให้เหมาะสมกับผิวหน้าจึงช่วยให้การฟื้นบำรุงผิวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญคือการปฏิบัติตามขั้นตอนในการลงเซรั่มอย่างถูกวิธี ตั้งแต่การล้างหน้าเพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงด้วยเซรั่ม และการกะระยะเวลาในการทาเซรั่มให้เหมาะสม 

นอกจากนี้ ควรเลือกเซรั่มที่ปลอดภัย มีมาตรฐานการรับรอง เพราะหากเลือกของที่ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ผิวหน้าพังได้

BIODERMA Hydrabio Sérum เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

เซรั่ม

ผิวแพ้ง่ายขาดน้ำ

สิทธิบัตร Aquagenium™

Hydrabio Sérum

เซรั่มเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้น ทันทีและยาวนาน

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

Bioderma Sensibio Defensive SerumBIODERMA Sensibio Defensive Serum เซรั่มบำรุงเข้มข้น

เซรั่ม

ผิวบอบบางและแพ้ง่าย

เทคโนโลยีดีเฟนซีฟ

Sensibio Defensive Serum

เซรั่มบำรุงเข้มข้น เพื่อผิวสตรอง ปกป้องทุกมลภาวะ

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น

BIODERMA Sebium Serum เซรั่มสำหรับผิวมีปัญหาสิว มีริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง

เซรั่ม

ผิวเป็นสิวง่าย

สิทธิบัตร Fluidactiv™

Sébium Serum

เซรั่มสำหรับผิวมีปัญหาสิว มีริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่