KEY TAKEAWAYS

  • คลีนซิ่งออยล์​ (Cleansing Oil) คือ คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวชนิดน้ำมัน มีส่วนผสมของน้ำผสมและน้ำมัน สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางแบบกันน้ำหรือเมคอัพกันน้ำสำหรับดวงตาและริมฝีปากได้ดีกว่าคลีนซิ่งแบบอื่น
  • คลีนซิ่งออย  สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวมันเป็นสิว
  • วิธีใช้คลีนซิ่งออย หยดคลีนซิ่งออยที่ฝามือ หลังจากนั้นทำนวดวนเบาๆ ในบริเวณใบหน้า เพื่อลบร่องรอยเครื่องสำอาง หลังจากนั้นใช้น้ำสะอาดล้างหน้าอีกครั้ง  

 



การทำความสะอาดผิวที่ดี ไม่ได้มีเพียงแค่ขั้นตอนการล้างหน้าเท่านั้น แต่การคลีนผิวก่อนล้างหน้าก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยทำให้ผิวสะอาดหมดจด ลดโอกาสการอุดตันของสิ่งสกปรกที่ผิวได้ คลีนซิ่งสำหรับคลีนผิวหน้ามีให้เลือกหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น คลีนซิ่งออยล์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำมันที่ใช้ทำความสะอาดผิว เครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกจากมลภาวะต่างๆ เหมาะกับผิวทุกประเภทไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวมันเป็นสิว

ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับคลีนซิ่งออยล์ ตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก พร้อมฟื้นบำรุงผิวอย่างอื่นโยนว่าคืออะไร คลีนซิ่งออยล์เหมาะกับผิวแบบไหนบ้าง มีส่วนช่วยดูแลผิวได้อย่างไร รวมถึงตอบคำถามให้แน่ใจว่าคนเป็นสิวใช้คลีนซิ่งออยล์ได้หรือไม่

คลีนซิ่งออยล์​ (Cleansing Oil) คือคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวชนิดน้ำมัน มีลักษณะเป็นน้ำผสมกับน้ำมัน ซึ่งการใช้คลีนซิ่งออยล์นั้น สามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางแบบกันน้ำได้ดีกว่าคลีนซิ่งชนิดอื่น เพราะคลีนซิ่งออยล์สามารถดึงสิ่งสกปรก ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ที่สำคัญยังให้ความชุ่มชื้นผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายผิวง่าย
 

ประโยชน์ของการใช้คลีนซิ่งออยล์

คลีนซิ่งออยล์​ เป็นคลีนซิ่งอีกชนิดที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่อ่อนโยนกับผิวหน้า เพราะมีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ข้อเท็จจริงแล้วคือคลีนซิ่งออยล์ใช้ส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ ทำให้ไม่ก่อการกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิว จึงไม่ทำให้เกิดความมันบนผิวเพิ่ม ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ประโยชน์ของการใช้คลีนซิ่งยังมีอีกมากมาย ดังนี้
 

ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก

คลีนซิ่งออยล์สามารถดักจับสิ่งสกปรก มลภาวะ ฝุ่นควันต่างๆ บนผิวออกได้อย่างหมดจด ที่สำคัญยังสามารถดึงคราบเครื่องสำอางกันน้ำ เครื่องสำอางที่ติดแน่นมากให้ออกได้ง่ายกว่าคลีนซิ่งชนิดอื่น ทำให้ลดการสะสมของสิ่งสกปรกตกค้าง ลดโอกาสการระคายผิว และลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ได้ดี
 

ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน

คลีนซิ่งออยล์สามารถทำความสะอาดผิว ทั้งสิ่งสกปรก รวมถึงคราบเครื่องสำอางติดแน่นให้หลุดออกได้โดยไม่ต้องออกแรงเช็ด ลดการเสียดสีระหว่างสำลีกับผิวหน้าได้ดี เพราะสามารถใช้คลีนซิ่งนวดให้ทั่วใบหน้าเพื่อทำความสะอาดได้เลย พร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวขณะเช็ดทำความสะอาด ช่วยลดการระคายผิวได้ จึงสามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยน ดีต่อผิวที่แพ้ง่าย 
 

ช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น

ในคลีนซิ่งออยล์มีส่วนผสมจากน้ำมันที่มาจากธรรมชาติ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี โดยไม่ทำให้เกิดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า พร้อมยังช่วยชำระล้างความมันส่วนเกินออกไปจากผิว เสริมการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิว จึงรู้สึกได้ว่าหลังทำความผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์แล้ว ผิวจะรู้สึกนุ่ม ไม่แห้งตึง
 

ช่วยสร้างสมดุลให้กับการผลิตน้ำมันของผิว

นอกจากคลีนซิ่งออยล์จะทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดความมันบนผิวหน้าออกไปแล้ว ยังช่วยสร้างความสมดุลให้ผิว ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวให้มีความสมดุล ทำให้ผิวหน้าแลดูมีสุขภาพดีขึ้นได้
 

ช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางอย่างหมดจด

คลีนซิ่งออยล์มีคุณสมบัติสำคัญคือสามารถทำความสะอาด กำจัดคราบเครื่องสำอาง คราบครีมกันแดดที่กันน้ำออกได้ดีกว่าคลีนซิ่งชนิดอื่นๆ ทำให้สามารถทำความสะอาดคราบเครื่องสำอางที่ติดทนอย่างมาสคาร่า อายไลเนอร์ ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ติดแน่นออกได้อย่างหมดจด
 

เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพผิว

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าคลีนซิ่งออยล์ไม่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวมัน แต่จริงๆ แล้วคลีนซิ่งออยล์เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถใช้ได้ทั้งคนที่มีผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน และยังเป็นคลีนซิ่งออยล์สำหรับคนเป็นสิว ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวระคายง่ายอีกด้วย เพราะไม่ต้องใช้สำลี ลดการเสียดสีที่ผิวหน้าได้ 

คลีนซิ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภทด้วยกัน การใช้คลีนซิ่งให้ถูกต้อง ดีต่อผิว และทำความสะอาดผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะต้องเลือกใช้คลีนซิ่งให้เหมาะกับสภาพผิว ลดโอกาสอุดตัน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง รวมถึงอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีสารก่อการระคายผิว อย่าง Sensibio Micellar Cleansing Oil ไมเซล่า คลีนซิ่งออยล์ จาก Bioderma คลีนซิ่งที่ถูกคิดค้นด้วยศาสตร์ Ecobiology คลีนผิวหมดจด แคร์ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เนื้อออยล์ไม่ทิ้งคราบมันที่ผิว ช่วยคงค่า PH ผิวตามสมดุลธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิว ซึ่งนอกจากในเรื่องความสะอาด และความอ่อนโยนต่อผิว ยังมีคุณสมบัติ ดังนี้ 
 

เทคโนโลยีดับเบิ้ลแอคชั่นไมเซล่า

เป็นคลีนซิ่งสูตรไมเซล่า จึงมีความอ่อนโยน และทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ช่วยลดแรงตึงผิว พร้อมดึงสิ่งสกปรก ความมัน คราบเครื่องสำอางออกได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผิวสะอาดพร้อมได้รับการบำรุง
 

นวัตกรรมการดูแลผิวอย่างยั่งยืน

มีนวัตกรรมที่ดูแลผิวอย่างยั่งยืน ช่วยฟื้นบำรุงผิวได้จากสาเหตุ และมีกลไกการออกฤทธิ์ตามธรรมชาติ มีแนวทางทางวิทยาศาสตร์ นิเวศวิทยา และชีววิทยาของผิวหนัง มุ่งเน้นการดูแลผิวด้วยความเข้าใจทางชีววิทยาเกี่ยวกับเซลล์ผิวหนัง ฟื้นบำรุงให้ผิวสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ โดยมีกลไก 4 ประการด้วยกัน ดังนี้

  • ทำความเข้าใจว่าผิวเป็นระบบนิเวศ เลือกสรรส่วนผสมที่บริสุทธิ์ และทำหน้าที่ได้หลากหลาย ซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย โดยไม่ทำลายระบบนิเวศของผิว
  • ทำปฏิกิริยากับกลไกธรรมชาติ ช่วยให้ผิวมีการปรับตัว และฟื้นบำรุง คืนความสมดุลด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของผิว
  • จัดการกับสาเหตุและผลของการขาดสมดุลของผิว เน้นการฟื้นบำรุงด้วยการจัดการกับสาเหตุของปัญหาผิวที่ต้นตอ 
  • ขับเคลื่อนด้วยศาสตร์การลอกเลียนแบบธรรมชาติผิว เพื่อการมีสุขภาพผิวที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
     

มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ

มีการวิจัย และมีการพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์การฟื้นบำรุงปัญหาผิวอย่างตรงจุด โดยมีการได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศ จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีได้ 
 

มีการทดสอบด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อความปลอดภัย

ผ่านการทดสอบด้วยเครื่องมือมาตรฐาน ทันสมัย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และลดโอกาสในการเกิดการแพ้ได้มากกว่า มีการทดสอบกับเซลล์ผิวที่สร้างขึ้นในหลอดทดลองตลอดทั้งปี ผ่านการทดลองทางชีวภาพมากกว่า 200 ครั้ง เพื่อให้ปลอดภัยต่อการใช้งานกับผิวจริงของทุกคน

คลีนซิ่งออยล์เป็นคลีนซิ่งชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ มีคุณสมบัติเหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ก่อนเลือกใช้คลีนซิ่งไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม เพื่อความแน่ใจ สามารถเช็กสภาพผิวของตัวเองก่อนได้ ดังนี้ 
 

คนที่มีผิวธรรมดา (Normal Skin)

ผิวธรรมดา คือนิยามของผิวที่มีลักษณะสมดุล มีสุขภาพที่ดี ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้น ไม่มัน หรือแห้งจนเกินไป การดูแลสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้สกินแคร์ดูแลผิวที่มอบความชุ่มชื้น เพื่อรักษาสมดุลของผิวที่ดีต่อไป และเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ในการทำความสะอาดสิ่งสกปรก คราบเครื่องสำอาง พร้อมฟื้นบำรุง
 

คนที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)

ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย คือผิวที่มีโอกาสระคายง่ายได้มากกว่าสภาพผิวอื่นๆ จะมีลักษณะแดง เป็นสิวง่าย มีสิวเห่อ เกิดรอยเกา และอาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อผิวสัมผัสกับมลภาวะ ฝุ่น ควัน รวมถึงสภาพอากาศด้วย คนที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ เพื่อทำความสะอาดผิวก่อนการล้างหน้า 

โดยคลีนซิ่งออยล์จะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก พร้อมมอบความชุ่มชื้น คืนความสมดุลของผิว และช่วยลดการระคายผิวได้
 

คนที่มีผิวแห้ง (Dry Skin)

ผิวแห้ง คือปัญหาผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ลักษณะคือผิวจะมีความแห้งตึงหลังการล้างหน้า หากอาการรุนแรงอาจมีปัญหาผิวแห้งลอกจนเป็นขุยได้ ซึ่งปัญหาผิวแห้งอาจเกิดได้จากพฤติกรรมการล้างหน้าบ่อยเกินไป กรรมพันธุ์ รวมถึงสภาพอากาศภายนอกได้ด้วยเช่นกัน 

การดูแล บำรุงผิวแห้งทำได้โดยใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน และเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว คืนความสมดุลของสภาพผิวให้อิ่มน้ำ ไม่แห้ง และไม่มันจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวที่มีการระคายให้ดีขึ้นด้วย

อ่านเพิ่มเติม : ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย เกิดจากอะไร มีวิธีแก้และป้องกันอย่างไรบ้าง
 

คนที่มีผิวมัน (Oily Skin)

ผิวมัน คือปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดน้ำ ทำให้ต่อมน้ำมันในผิวขับน้ำมันออกมามากกว่าปกติเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว จึงทำให้ผิวมีลักษณะมันวาวมากกว่าปกติ โดยส่วนใหญ่ปัญหาผิวมันมักเกิดในช่วงวัยรุ่น เพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงส่งผลต่อปัญหาผิวมันได้เช่นกัน คนที่มีผิวมันจึงไม่ควรล้างหน้าบ่อย เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง และขาดน้ำมากขึ้นได้ 

แต่ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่ควบคุมความมัน ทำความสะอาดผิวด้วยการ Double Cleansing ใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้น รวมถึงเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ที่ช่วยปรับสมดุลของน้ำมันบนผิวหน้า และลดการผลิตความมันส่วนเกินบนใบหน้า
 

คนที่มีผิวผสม (Combination Skin)

ผิวผสม คือสภาพผิวที่พบได้มากที่สุด ลักษณะคือผิวมีความมันบริเวณ T-zone และมีความแห้งลอกบางจุด มีสาเหตุมาจากทั้งพันธุกรรม และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สำหรับการดูแล และบำรุงผิวผสมสามารถทำได้โดยเลือกใช้สกินแคร์ดูแลผิว 2 ตัวคือตัวที่ช่วยลดความมัน และตัวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว โดยควรเลือกใช้คลีนซิ่งออยล์ในการทำความสะอาดหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และควบคุมสมดุลการผลิตน้ำมันบนใบหน้า
 

หลายคนที่ไม่เคยใช้คลีนซิ่งออยล์อาจกำลังสงสัยว่า Cleansing Oil ใช้ยังไง? การใช้คลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดผิวมีขั้นตอนที่ง่าย ไม่ยาก แถมยังสะดวกกว่าการใช้คลีนซิ่งชนิดน้ำทั่วไป ซึ่งเริ่มต้นด้วยวิธีการดังนี้

  • ทำความสะอาดมือก่อน เพราะมือเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจากการสัมผัสสิ่งของต่างๆ มาตลอดทั้งวัน 
  • ทำความสะอาดเครื่องสำอางให้ทั่วใบหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ 
  • นวดวนๆ ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด เพื่อลบร่องรอยเครื่องสำอาง
  • ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าอีกครั้ง เพื่อจบขั้นตอนการล้างเครื่องสำอาง

สรุป

คลีนซิ่งออยล์​ คือคลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ เป็นคลีนซิ่งที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา หรือผิวแพ้ง่าย ระคายง่าย โดยนอกจากคลีนซิ่งออยล์จะสามารถกำจัดสิ่งสกปรก คราบเครื่องสำอางที่ติดทนได้อย่างหมดจดแล้ว ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมกับมีส่วนช่วยคงความสมดุลน้ำมันในผิว ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่มากเกินไป ซึ่งเป็นต้นเหตุของการอุดตัน และการเกิดสิวใหม่ได้ ที่สำคัญยังอ่อนโยนต่อผิว ช่วยลดการเสียดสีขณะใช้งาน เพราะไม่ต้องใช้สำลี จึงเหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางนั่นเอง 

คลีนเซอร์แบบล้างออก

ผิวแพ้ง่าย

เทคโนโลยี ไมเซล่า

Sensibio Micellar cleansing oil

ไมเซล่า คลีนซิ่งออยล์ที่ถูกคิดค้นด้วยศาสตร์ Ecobiology
คลีนผิวหมดจด แคร์ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น

สำหรับใคร

ผู้ใหญ่, วัยรุ่น